ไทยรัฐออนไลน์
ทำเต็มที่แล้วสำหรับ "สุเบญรัตน์ อินแสง" นักกีฬาขว้างจักรทีมชาติไทย ไม่ผ่านรอบคัดเลือกในกลุ่มบี ส่งผลให้ชวดเข้าไปเล่นในรอบชิงเหรียญ โอลิมปิก 2020
วันที่ 31 ก.ค. 64 การแข่งขันกรีฑาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ประเภทขว้างจักรหญิง มีนักกีฬาไทยลงแข่ง 1 คน คือ "เบญ" สุเบญรัตน์ อินแสง ที่เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์เป็นสมัยที่ 2 โดยในประเภทนี้ มีนักกีฬาทั้งหมด 31 คน แบ่งการแข่งขันเป็น 2 กลุ่ม ซึ่ง สุเบญรัตน์ อยู่กลุ่ม บี ผลแข่งขันปรากฏว่า สุเบญรัตน์ สามารถขว้างได้ 59.23 เมตร เป็นที่ 12 ของกลุ่ม และอยู่อันดับที่ 18 ของนักกีฬาที่เข้าแข่งขั้นทั้งหมด ไม่ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ
สุเบญรัตน์ อินแสง กล่าวว่า "แม้จะไม่สามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมาย คือการทำลายสถิติประเทศไทย ที่ตนเองเคยขว้างได้ไกลถึง 61.97 ม. แต่ผลงานที่ทำได้ในครั้งนี้ก็ไม่ได้แย่ เพราะเป็นสถิติที่ดีที่สุดของรอบปีนี้ และพอใจกับตัวเองในระดับหนึ่ง ส่วนการที่เตรียมตัวมา ลดน้ำหนักลงถึง 28 กก. เพื่อมาแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ตนมองว่าส่งผลต่อภาพรวม และก็ถือว่าเป็นไปในทิศทางบวก เพราะตนก็รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น ส่วนพละกำลังก็ไม่ได้ตกลงไปจากตอนที่เคยมีน้ำหนักตัวถึง 126 กก."
"ในการแข่งขันครั้งนี้ ได้เห็นข้อผิดพลาดทั้งในเรื่อพละกำลังและเทคนิคและอีกหลาย ๆ ด้านเกิดขึ้น ซึ่งจะได้กลับไปปรับปรุงและพัฒนาตัวเองต่อไป โดยเฉพาะในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2022 ที่จีน รวมถึง ซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา และที่สำคัญคือโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส"
นอกจากนี้ สุเบญรัตน์ ยังได้เผยถึงเทคนิคการลดน้ำหนักจาก 126 กก.ลงมาเหลือ 98 กก.ในปัจจุบันว่า อาหารที่เน้นเป็นพิเศษคือ ปลา สลัดผัก และอาหารที่มีไขมันน้อย ๆ ส่วนของทอดที่ตัวเองชอบ ก็ยังมีรับประทานบ้างแต่นาน ๆ ครั้ง น้ำอัดลมก็แค่จิบ ๆ แต่จะไม่ดื่มหมดขวด ส่วนเสื้อผ้าที่เคยใส่ไซส์ 5XL ตอนนี้เหลือใส่แค่ 2XL หรือ 3XL และถ้าหากเปรียบเทียบสภาพความสมบูรณ์ของร่างกายตอนนี้ ก็พร้อมอยู่ในระดับ 80-90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องเทคนิคอยู่ที่ระดับ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ก็มองว่าน่าจะยังพัฒนาสถิติได้ดีมากขึ้นกว่านี้อีก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง