หน้าแรกแกลเลอรี่

"เจ้าสด" ประเมินคู่ชกคิวบารอบ 8 คน ผู้ประเมินชี้ มวยโอลิมปิก 2020 เข้มงวดตัดสิน

ไทยรัฐออนไลน์

28 ก.ค. 2564 18:18 น.

ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี วิเคราะห์คู่ชกคิวบา หลังเข้ารอบ 8 คนครั้งแรก ผู้ประเมินกรรมการชาวไทยชี้ มวยสากลโอลิมปิกเกมส์ 2020 เข้มงวดกับการตัดสิน


วันที่ 28 ก.ค. 64 โอลิมปิกเกมส์ 2020 การแข่งขันมวยสากล รุ่นเฟเธอร์เวต 52-57 กิโลกรัม ชาย รอบ 16 คน ที่สังเวียนเรียวโงกุ โกกุงิกัง ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น "เจ้าสด" ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักชกจอมเก๋าชาวไทย เอาชนะคะแนน มีร์โก เจฮีล คูเอลโล จากอาร์เจนตินาแบบไม่เอกฉันท์ 4-1 เข้ารอบ 8 คนได้เป็นครั้งแรกในโอลิมปิก

รอบก่อนรองชนะเลิศ ฉัตร์ชัยเดชา จะพบกับ ลาซาโร อัลวาเรซ มือ 3 ของรายการจากคิวบา ที่ชนะน็อก ดาเนียล ชาบัคหช์ จากอิหร่าน หาก "เจ้าสด" ชนะในรอบหน้า วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคมนี้ จะการันตีเหรียญทองแดงเป็นอย่างน้อยทันที

หลังการชก “เจ้าสด” กล่าวว่า "วันนี้ชกได้ตามแผนที่โค้ชวางไว้ เน้นจังหวะสอง เพราะดูเทปแล้วเขาเป็นมวยสไตล์ไฟเตอร์ที่เดินหน้าเข้าใส่อย่างเดียว ดีใจครับที่สามารถผ่านเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ถือเป็นครั้งแรกที่มาถึงรอบนี้ เคยดีที่สุดแค่รอบ 16 คน"

"แต่นี่ก็ยังไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด เพราะผมอยากได้เหรียญรางวัล รอบหน้าเจอคิวบาก็เป็นมวยที่ชกยาก เขามีฝีมือดี รวดเร็ว แต่อายุเขาก็มากพอๆ กัน คงต้องไปดูเทปเพื่อปรับแผนและแก้เกมบนเวที ยังมั่นใจว่าผ่านได้ครับ"

ขณะที่ “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ผู้จัดการทีม กล่าวว่า "วันนี้ เจ้าสด ชกได้ดีเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เห็นการชกวันนี้บอกเลยว่าเรื่องอายุไม่ใช่ปัญหา 3 ยกไม่มีอาการแผ่วหรืออ่อนแรงให้เห็น ส่วนการเจอกับคิวบา เขาเป็นมวยฝีมือชกยาก แต่เขาก็อายุมากเหมือนกับเรา และได้โควตาโอลิมปิกจากอันดับแรงกิ้ง ไม่ใช่มาจากการคัดเลือก ถึงอย่างไรก็ประมาทไม่ได้ ยังมั่นใจ เจ้าสด จะผ่านไปได้อีกครั้ง"

ด้าน “อ.เค้ก” รศ.ดร.ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์ ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ประเมิน/ผู้สังเกตการณ์ การทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในการแข่งขันมวยสากล โอลิมปิก 2020 เปิดเผยว่า ไอโอซี ได้เข้มงวดกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินมวยในโอลิมปิกครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพื่อให้การตัดสินออกมาโปร่งใสและขาวสะอาด ไม่มีปัญหาเช่นที่ผ่านมา ด้วยการจับตาการทำงานของผู้ตัดสินในแต่ละเกม ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือเด็ดขาด ตั้งแต่เริ่มเข้าสนามแข่ง เพื่อป้องกันการติดต่อล็อบบี้ และยังติดตั้งกล้องพิเศษไว้ที่โต๊ะทำงานของผู้ตัดสินให้คะแนน เพื่อซูมดูพฤติกรรมในช่วงให้คะแนน ถ้าพบว่ามีอาการเป็นพิรุธ เหลียวซ้าย แลขวา ไม่มีสมาธิกับการทำงาน ก็จะเรียกมาสอบสวนทันที"

"ตั้งแต่คู่แรกของมวย หากผู้ตัดสินรายใดมีการตัดสิน ให้คะแนนแตกต่างหรือผิดปกติจากกรรมการส่วนมาก หรือดูว่ามีแนวทางการให้คะแนนต่างจากที่ได้วางมาตรการไว้ก็จะเรียกมาสอบสวน หากพบว่าผิดจริงจะไม่ให้ตัดสินอีกเลย ทำให้ผู้ตัดสินที่มาทำหน้าที่ครั้งนี้ไม่กล้าออกนอกลู่นอกทาง"

"ถึงเวลานี้ไม่มีคู่ใดมีปัญหาในเรื่องค้านสายตาเกิดขึ้นเลย ทุกชาติต่างพอใจและยอมรับ ซึ่งนักชกที่คว้าชัยชนะ หรือได้เหรียญทอง เหรียญรางวัลจากการแข่งขัน มั่นใจได้เลยว่ามาจากฝีมือล้วนๆ ไม่มีนอกมีในแน่นอน" อ.เค้ก กล่าวตอนท้าย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง