ไทยรัฐออนไลน์
อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข เปิดใจหลังคว้าอันดับ 4 ยิงเป้าบิน ประเภทสกีต พลาดโอกาสคว้าเหรียญที่ 2 ให้กับทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ 2020
วันที่ 26 ก.ค. 64 การแข่งขันยิงเป้าบิน โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ประเภทสกีตหญิง รอบคัดเลือก รอบสอง เพื่อคัดเลือกนักแม่นปืนที่ทำผลงานดีที่สุด 6 คนแรกเข้าไปชิงชนะเลิศ ซึ่งในประเภทนี้มีนักแม่นปืนสาวไทยร่วมแข่งขัน 2 คน คือ "ณี" สุธิยา จิวเฉลิมมิตร มือปืนรุ่นเก๋าที่ลงยิงเป้าบินในโอลิมปิกเกมส์หนที่ 4 กับ "วอร์ม" อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข ที่เพิ่งติดทีมชาติชุดโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งแรก
อิศราภา มือปืนดาวรุ่งที่ทำผลงานดีในรอบคัดเลือกวันแรก ยิง 3 ชุด ชุดละ 25 คะแนน ได้รวมทั้งสิ้น 72 คะแนน อยู่อันดับ 5 รอบคัดเลือก ในวันที่ 2 ยิงเพิ่มอีก 2 ชุดเก็บเพิ่มได้อีก 48 คะแนน ทำให้แต้มรวมในการยิงทั้ง 2 สองวัน อิศราภา ทำได้ทั้งสิ้น 120 คะแนน เท่ากับ นาดีน เมสเซอร์ชมิท จากเยอรมนี กับ นาตาเลีย วิโนกราโดวา จากคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย
ซึ่งทั้ง 3 คนผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้หมดแต่ต้องมายิงชู้ตออฟเพื่อจัดอันดับในการยิงรอบชิงชนะเลิศ ปรากฏว่า อิศราภา ยิงได้ 6 คะแนน เข้าชิงเป็นคนที่ 4 โดยมี นาดีน เข้ารอบคนที่ 5 และ นาตาเลีย เข้ารอบคนที่ 6 ส่วน 3 อันดับแรก ประกอบด้วย เหว่ย เมิง แชมป์โลกและเจ้าของสถิติโลกชาวจีน ยิงได้ 124 คะแนน, ไดอานา บาโคซี แชมป์เก่าจากอิตาลี ยิงได้ 123 คะแนน และ เอ็มเบอร์ อิงลิช จากสหรัฐอเมริกา ยิงได้ 121 คะแนน
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ แข่งขันแบบคัดนักกีฬาออกทีละคน โดยแบ่งออกเป็นรอบๆ ซึ่งในรอบแรกยิง 20 นัด คัดออก 1 คน โดย นาตาเลีย นักกีฬาจากคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย พลาดยิงเสีย 3 นัด เท่ากับ นาดีน ได้ 17 คะแนน แต่ต้องออกจากการแข่งขันไปก่อน เนื่องจากคะแนนจากรอบคัดเลือกทำได้น้อยกว่า ส่วน อิศราภา ยิงเสีย 2 นัด ได้ 18 คะแนน
จากนั้นรอบที่สองต้องยิงอีกคนละ 10 นัด อิศราภา ยิงเสียไป 1 นัด ได้เพิ่มมาอีก 9 คะแนน ทำให้คะแนนรวมอยู่ที่ 27 คะแนน ยังเข้าไปยิงในรอบต่อไปได้ขณะที่ นาดีน พลาด 1 นัดคะแนนรวม 2 รอบ อยู่ที่ 26 คะแนน ต้องออกจากการแข่งขัน
รอบที่สามเหลือนักกีฬาอยู่ 4 คน ปรากฏว่า อิศราภา ยิงได้คะแนนรวม 36 คะแนน เท่ากับ เหว่ย เมิง จากจีนที่ยิงเสียในรอบนี้ 1 นัดเช่นกัน แต่ อิศราภา ต้องออกจากการแข่งขันเพราะคะแนนจากรอบคัดเลือกทำได้น้อยกว่า ส่งผลให้เธอชวดโอกาสคว้าเหรียญรางวัลไปอย่างน่าเสียดาย โดยผลงานดีที่สุดคืออันดับที่ 4 แต่ก็ถือว่าเป็นนักกีฬายิงเป้าบินไทยที่ทำผลงานดีที่สุดในโอลิมปิกเกมส์
ขณะที่ สุธิยา จิวเฉลิมมิตร ที่เคยทำผลงานดีที่สุดในโอลิมปิกเกมส์ คือคว้าอันดับที่ 5 ที่ปักกิ่ง ประเทศจีนเมื่อปี 2008 แต่สำหรับครั้งนี้ทำได้ดีที่สุดคืออันดับที่ 13 หลังจากรอบคัดเลือกวันแรกยิงได้ 70 คะแนน และวันที่สองเก็บเพิ่มอีก 46 คะแนน รวม 2 วัน ได้ทั้งสิ้น 116 คะแนน
เหรียญทองเป็นของ เอ็มเบอร์ อิงลิช (สหรัฐอเมริกา) 56 (121) คะแนน, เหรียญเงินไดอานา บาโคซี (อิตาลี) 55 (123) คะแนน และเหรียญทองแดง เหว่ย เมิง (จีน) 46 (124) คะแนน
อิศราภา กล่าวว่า แม้จะไม่สามารถทะลุเข้าไปคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์ได้ แต่โดยรวมแล้วรู้สึกมีความสุขมาก เพราะผลงานที่ทำได้ถือว่าออกมาได้ดีตั้งแต่รอบคัดเลือกจนมารอบชิงชนะเลิศ สามารถควบคุมตัวเองให้ไม่กดดันกับสถานการณ์ในการแข่งขันได้ ในช่วงแข่งโดยเฉพาะรอบชิงก็ไม่ได้โฟกัสไปที่ว่าตัวเองจะต้องจบอันดับเท่าไร ตอนนั้นคิดแค่ลงไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เล่นอยู่ในมาตรฐานที่เคยฝึกซ้อมมา
"การผ่านรอบคัดเลือกเข้ารอบชิงชนะเลิศ จริงๆ แล้วไม่รู้สึกกดดันอะไรเลย เพราะรอบชิงฯ ก็เหมือนกับว่าเรามาเริ่มต้นยิงใหม่ อีกอย่างคู่ต่อสู้แต่ละคนก็ล้วนผ่านประสบการณ์แข่งระดับโลกและมีผลงานที่ดี เราเองถือว่าเป็นรองมาก คิดตอนนั้นคือต้องยิงให้เต็มที่ไม่มีอะไรจะเสีย การคว้าอันดับที่ 4 โอลิมปิกเกมส์ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตแล้ว และเป็นการทำความฝันในการเข้าร่วมยิงในโอลิมปิกเกมส์ของตัวเองเป็นจริง เพราะก่อนหน้านี้เคยเห็นพี่ณี สุธิยา จิวเฉลิมมิตร เข้ายิงไฟนอลที่ปักกิ่งก็ตั้งใจว่าจะทำแบบพี่เขาให้ได้และวันนี้ก็มาถึงจุดนี้ รู้สึกดีใจและพอใจมากแล้วค่ะ"
อิศราภา ได้กล่าวขอบคุณแฟนกีฬาชาวไทยที่ส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬายิงเป้าบินและนักกีฬาไทยที่เข้ามาร่วมโอลิมปิกเกมส์ แม้ว่ายิงเป้าบินอาจไม่ใช่กีฬาที่เป็นที่นิยมแต่ทุกคนก็ส่งแรงใจเชียร์มา หลังจากนี้ตนก็จะกลับไปซ้อมและแก้ไขจุดที่บกพร่องให้ดีขึ้นเพื่อทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นในการแข่งขันรายการอื่นๆ ต่อไป โดยเฉพาะโอลิมปิกเกมส์ก็ยังเป็นความใฝ่ฝันที่อยากจะกลับมาร่วมแข่งอีกครั้ง.