ไทยรัฐออนไลน์
"อรวรรณ พาระนัง" นักปิงปองสาวไทยประกาศศักดา คว้าตั๋วเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ได้เป็นครั้งแรกในชีวิต หลังตบชนะ โรส ฟาดอล ลูกเด้งจากฟิลิปปินส์ 4-1 รับแชมป์หญิงเดี่ยวประจำโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในศึกคัดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เป็นลูกเด้งไทยคนที่ 2 ต่อจาก หญิง สุธาสินี รุ่นพี่ทีมชาติที่คว้าตั๋วเข้าร่วมโตเกียวเกมส์ไปได้เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา และเป็นนักกีฬาไทยคนที่ 20 ของทุกชนิดกีฬาทั้งหมดที่คว้าตั๋วเข้าร่วมโตเกียวเกมส์ได้ ณ เวลานี้ อีกทั้งยังถือเป็นมือตบคนที่ 4 ของประวัติศาสตร์เทเบิลเทนนิสไทยที่สามารถควอลิฟายผ่านเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ได้
วันที่ 20 มี.ค. 64 การแข่งขันเทเบิลเทนนิส คัดเลือกนักกีฬาไปเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ 2020 ประจำโซนเอเชีย หรือ "เทเบิลเทนนิส เอเชีย โอลิมปิก ควอลิฟิเคชัน ทัวร์นาเมนต์" ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยส่ง 3 นักกีฬาตัวแทนทีมชาติเข้าร่วมแข่งขัน โดย "หญิง" สุธาสินี เสวตรบุตร ลูกเด้งสาวมือ 40 ของโลกคว้าโควตาได้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในรายการคัดเลือกจากนักกีฬาทั่วโลกก่อนหน้านี้ ทำให้ในรายการคัดจากโซนเอเชียนี้จะมี "ทิพย์" อรวรรณ พาระนัง มือ 88 ของโลก กับ "ไบร์ท" ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล มือ 178 ของโลกที่ต้องลุ้นต่อ
ทั้งนี้ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ประเภทหญิงเดี่ยวโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีนักกีฬาเข้าร่วมชิงชัยทั้งสิ้น 4 คน ประกอบด้วย จานนาห์ โรเมโร มือ 332 ของโลกจากฟิลิปปินส์, สิติ อมินาห์ มือ 533 ของโลกจากอินโดนีเซีย, โรส ฟาดอล มือ 530 ของโลกจากฟิลิปปินส์ และ อรวรรณ พาระนัง ใช้ระบบแข่งขันแบบพบกันหมด คนที่ผลงานดีที่สุดจะคว้าโควตาโอลิมปิกทันที โดยผลการแข่งขันในวันแรก อรวรรณ โชว์ฟอร์มดุ ตบชนะ สิติ อมินาห์ จากอินโดฯ 4-0 เกม (11-5, 11-3, 11-9, 11-5) และ ชนะ จานนาห์ โรเมโร จากฟิลิปปินส์ 4-0 เกม (11-8, 11-6, 11-8, 11-4) โดยเกมในวันนี้ (19 มี.ค.) ทิพย์ อรวรรณ ลงแข่งขันแมตช์สุดท้าย พบ โรส ฟาดอล หากชนะได้จะคว้าชัย 3 แมตช์รวดคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ทันที
ออกสตาร์ตแมตช์เป็นทาง โรส ที่เริ่มต้นได้ดีกว่า หาโอกาสจะแจ้งตบใส่ อรวรรณ ที่เหมือนเครื่องยังไม่ร้อนและยังมีจุดผิดพลาดอยู่บ้าง ทำให้เกมแรกเป็นทางลูกเด้งจากถิ่นตากาล็อกคว้าชัยก่อน 13-11 ขึ้นนำ 1-0 เกม ทว่าหลังจากนั้นกลับเป็น ทิพย์ อรวรรณ ที่พอตั้งลำได้แล้วยิ่งตียิ่งดุ เปิดเกมรุกใส่ฝ่ายผู้นำอย่างดุดัน และสามารถเร่งสปีดดักตบใส่คู่แข่งก่อนได้ตลอดเกือบทั้งแมตช์ ทำเอา โรส ฟาดอล ฟอร์มเป๋ จน อรวรรณ สามารถกลับมาครองรูปเกมได้ทั้งหมดและพลิกกลับมาตบเอาชนะรวดได้ทั้ง 4 เกมหลังจากนั้น 11-3, 11-5, 11-2 และ 11-6
จบเกมการแข่งขัน "ทิพย์" อรวรรณ พาระนัง ชนะ โรส ฟาดอล จากฟิลิปปินส์ 4-1 เกม (11-13, 11-3, 11-5, 11-2, 11-6) คว้าตำแหน่งชนะเลิศหญิงเดี่ยวประจำโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้โควตาเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 โตเกียวเกมส์สำเร็จ ซึ่งเป็นการคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ของนักกีฬาเทเบิลเทนนิสไทยคนที่ 2 ต่อจาก หญิง สุธาสินี รุ่นพี่ทีมชาติที่คว้าไปได้เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา และเป็นนักกีฬาไทยคนที่ 20 ของนักกีฬาไทยทุกชนิดกีฬาทั้งหมดที่คว้าตั๋วเข้าร่วมโตเกียวเกมส์ได้ ณ เวลานี้ อีกทั้งนี่ยังเป็นการได้เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกในชีวิตของ อรวรรณ อีกด้วย ซึ่งถือเป็นนักกีฬาเทเบิลเทนนิสคนที่ 4 ของประวัติศาสตร์เทเบิลเทนนิสไทยที่สามารถควอลิฟายผ่านเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ได้ ต่อจาก "แป๋ว" นันทนา คำวงศ์, "หญิง" สุธาสินี เสวตรบุตร และ "ไบร์ท" ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล 3 รุ่นพี่ทีมชาติ
ด้านประเภทชายเดี่ยวโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีนักกีฬาเข้าร่วม 7 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม 1 มี 3 คน ส่วน "ไบร์ท" ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล อยู่ในกลุ่มที่ 2 มี 4 คน อยู่ร่วมกับ ชู ซี่ หยู มือ 185 ของโลกจากสิงคโปร์, ดีพาช บักวานี มือ 651 ของโลกจากอินโดนีเซีย และ จอห์น ไมซอล มือ 743 ของโลกจากฟิลิปปินส์ โดย ภาดาศักดิ์ แข่งไป 2 แมตช์ ชนะ ดีพาช บักวานี จากอินโดนีเซีย 4-0 เกม (11-8, 11-6, 11-9, 11-6) ก่อนไปแพ้ ชู ซี่ หยู จากสิงคโปร์ 1-4 เกม (7-11, 3-11, 11-7, 9-11, 7-11) ลูกเด้งหนุ่มไทยเหลือโปรแกรมอีกหนึ่งแมตช์พบ จอห์น ไมซอล จากฟิลิปปินส์ หากชนะได้จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม 2 ได้ไปลุ้นตั๋วโอลิมปิกเกมส์ต่อไป
ขณะที่ประเภทคู่ผสมอีกหนึ่งประเภทที่มีนักกีฬาไทยลงแข่งขัน "หญิง" สุธาสินี เสวตรบุตร กับ "ไบร์ท" ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล คู่แกร่งของไทยดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ปี 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย ถูกจัดให้เป็นคู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ ได้สิทธิ์ชนะผ่านในรอบ 16 คู่ ไปออกสตาร์ตแมตช์แรกในรอบก่อนรองชนะเลิศ พบ อนาสตาซิยา ลาฟโรวา กับ คิริล เกราสซิเมนโก คู่มือวางอันดับ 8 ของรายการจากคาซัคสถาน และเป็นสองหนุ่ม-สาวไทยที่เหนือกว่า ตบชนะ 4-0 เกม (11-7, 11-9, 11-9, 11-8) ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบศึกหนัก จอน จีฮี กับ อี ซางซู คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการจากเกาหลีใต้