ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ช็อกแฟนบอล อังกฤษตกรอบ “แฮร์รี เคน” กองหน้าตัวเก่งทีมสิงโตคำรามยิงจุดโทษพลาดเหินข้ามคาน ชวดขยับสกอร์ไล่ตีเสมอจบเกมพ่าย “ตราไก่” หวุดหวิดสุดมัน 2-1 ส่วนม้ามืดโมร็อกโกสำแดงฤทธิ์สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เป็นทีมแรกแห่งทวีปแอฟริกาทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือก หลังพลิกล็อกโค่น “ฝอยทอง” ไปได้ 1-0 ทั้งกองหลังนายทวารโชว์ฟอร์มสุดยอดเหนียวหนึบ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปฟัดกับฝรั่งเศสแชมป์เก่า ทั้งสองทีมจะฟาดแข้งกันในวันที่ 14 ธ.ค. เวลา 02.00 น. ด้านวาลิด เรกรากุย นายใหญ่ทีมชาติโมร็อกโกปลื้มใจที่ทีม “สิงโตแอตลาส” จารึกประวัติศาสตร์สำคัญในศึกลูกหนังโลกให้ทวีปแอฟริกาได้สำเร็จ พร้อมลั่นลูกทีมของเขาเจ๋งพอที่ผงาดคว้าถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2022 ส่วนแฟร์นันโด ซานโตส กุนซือโปรตุเกส ยันไม่เสียใจที่ไม่ส่งคริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าระดับโลกและกัปตันทีมลงตัวจริง 11 คนแรก ขณะที่ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ยอมรับว่าฝรั่งเศสมีโชคส่งทีมลิ่วเข้าสู่รอบตัดเชือก ชี้ปะทะกับโมร็อกโกในรอบรองไม่ใช่งานง่ายแน่นอน ส่วนแกเร็ธ เซาธ์เกตรับภูมิใจในทัพ “ทรี ไลออนส์” ยันไม่โทษแฮร์รีเคน กองหน้าตัวเก่งที่ยิงจุดโทษพลาดจนทำทีมร่วงตกรอบ 8 ทีม ด้านกัปตันยืดอกยอมรับผิดทำทีมผู้ดีตกรอบ
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่กาตาร์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 ธ.ค. ต่อเนื่องวันอาทิตย์ที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา “สิงโตแอตลาส” โมร็อกโก ที่เหลือ 10 คน หลังจากวาลิด เชดดิรา โดนไล่ออกในนาทีที่ 90 (+3) พลิกล็อกเอาชนะ “ฝอยทอง” โปรตุเกส ไปได้ 1-0 ได้ประตูชัยจากยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี นาทีที่ 42 จากชัยชนะในเกมนี้ทำให้โมร็อกโกสร้างประวัติ ศาสตร์เป็นทีมแรกที่สามารถทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือกในศึกฟุตบอลโลกได้นับตั้งแต่มีการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1930 หลังจากก่อนหน้านี้ทีมจากแอฟริกาไปได้ไกลสุดแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม โมร็อกโกต้องลุ้นอาการบาดเจ็บของโรแมง ซาอิส ปราการหลังกัปตันทีมคนเก่งก่อนว่าจะฟิตทันลงเล่นในรอบตัดเชือกในวันที่ 14 ธ.ค.หรือไม่ หลังจากเจ้าตัวต้องนอนเปลโดนหามออกจากสนามในนาทีที่ 77หลังจบเกมกองหลังตัวสำคัญต้องใช้ไม้ค้ำเดินออกมาด้วย
ด้านวาลิด เรกรากุย นายใหญ่ทีมชาติโมร็อกโกปลื้มใจกับฟอร์มการเล่นของลูกทีมที่เขียนประวัติ ศาสตร์หน้าใหม่ให้กับทวีปแอฟริกาได้ เผยว่า “เราพบกับทีมที่ยอดเยี่ยมอย่างโปรตุเกส พวกเราได้ดึงศักยภาพของตัวเองออกมาทั้งหมด ผมบอกพวกเขาว่าเราต้องเขียนประวัติศาสตร์ให้แอฟริกา ผมมีความสุข มากๆ เราเป็นทีมที่ทุกคนรักในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เราแสดงให้โลกเห็นว่าคุณสามารถประสบความสำเร็จได้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีพรสวรรค์สูงและเงินที่มากมาย” นอกจากนี้ เรกรากุยกล่าวด้วยว่า จะเดินหน้าต่อไปมั่นใจว่าทัพ “สิงโตแอตลาส” สามารถเป็นแชมป์โลกได้ มันสำคัญสำหรับนักเตะรุ่นหลัง คือเราแสดงให้เห็นว่ามันเป็นไปได้สำหรับทีมจากทวีปแอฟริกาที่มาถึงรอบรองชนะเลิศได้ หรืออาจจะไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ส่วนเรื่องการคว้าแชมป์ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ในการแถลงข่าว 3-4 แมตช์ก่อนตนถูกถามเสมอว่าเราจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกได้ไหม ตอบว่าทำไมจะไม่ได้ เราต้องมีความฝัน ทำไมเราต้องหยุดฝัน เพราะหากคุณไม่มีความฝันคุณก็จะไปไม่ถึงไหนแน่นอน
ส่วนแฟร์นันโด ซานโตส กุนซือทีมชาติโปรตุเกส เปิดเผยว่า ไม่เสียใจที่ดร็อปคริสเตียโน โรนัลโด กองหน้ากัปตันทีมวัย 37 ปีไว้ข้างสนาม “ไม่ ผมไม่เสียใจ ผมคิดว่านักเตะชุดนี้ของเรากำลังเล่นกันได้ดีมากๆ เขาเป็นนักเตะที่ดี เขาได้ลงเล่นตอนที่สถานการณ์บังคับ ผมจึงไม่เสียใจ” ขณะที่ยอดดาวยิงฝอยทองถึงกับปล่อยโฮ เสียใจที่ทีมรักไปไม่ถึงดวงดาว
ขณะที่อีกคู่ทีม “ตราไก่” ฝรั่งเศส แชมป์เก่ายังโชว์ฟอร์มสุดยอดเชือด “สิงโตคำราม” อังกฤษ ไปอย่างสุดมัน 2-1 โดยฝรั่งเศสออกนำไปก่อนจาก โอเรเลียง ชูอาเมนี นาทีที่ 17 ก่อนแฮร์รี เคน จะมายิงจุดโทษตีเสมอให้ “สิงโตคำราม” ตามมาเป็น 1-1 ในนาทีที่ 54 จากนั้นนาทีที่ 78 โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กองหน้าตัวเก๋ายิงประตูที่ 4 ของตัวเองในบอลโลกครั้งนี้ให้ “ตราไก่” ขึ้นนำ 2-1 จากนั้นนาทีที่ 84 อังกฤษมาได้จุดโทษ แต่เคนอัดเต็มแรงข้ามคานออกไป ทำให้จบเกมฝรั่งเศสเอาชนะไปได้ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกได้สำเร็จจะเข้าไปพบกับ โมร็อกโก ในวันที่ 14 ธ.ค. เวลา 02.00 น. ช่องวัน 31 ถ่ายทอดสด
หลังจบเกม ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เผยว่า ยอมรับมีโชคช่วยในการคว้าชัยชนะได้ พร้อมยกอังกฤษ เป็นทีมที่แกร่งมากๆ อังกฤษเป็นทีมที่แกร่งมากๆ ทั้งความสามารถและเทคนิคต่างๆ พวกเขายังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่แสดงออกมา ตนผิดหวังที่เสียจุดโทษให้เข้าถึงสองครั้ง เกมนี้มันเป็นเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ รวมถึงโชคที่เข้าข้างเรา บางครั้งคุณต้องอาศัยโชคช่วยด้วย ยืนยันว่าไม่ง่ายในการเจอกับ โมร็อกโกในรอบตัดเชือก “โมร็อกโกเป็นทีมที่เอาชนะได้ยากมาก มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่พวกเขาประสบความสำเร็จ พวกเขาลงเล่นและเอาชนะบรรดาทีมที่ถูกมองว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลกมาได้ มันเป็นความสำเร็จแห่งประวัติศาสตร์ พวกเราได้เห็นพวกเขาสร้างผลงานอันสุดยอดมาหลายนัดแล้ว พวกเขาเจ๋งจริงๆ
ด้านแกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษยอมรับภูมิใจในตัวของลูกทีม “สิงโตคำราม” แม้ว่าจะไปได้ไกลเพียงแค่รอบ 8 ทีมเท่านั้น “พวกเราเล่นได้ตามฟอร์มที่เราต้องการ สุดท้ายแล้วมันวัดกันที่จำนวนประตู ผมบอกกับนักเตะว่าพวกเขาเล่นกันได้อย่างดีที่สุดแล้ว มันเป็นผลลัพธ์ที่เฉียดฉิว มันมีสถานการณ์หลายอย่างในช่วงท้ายและมันเป็นส่วนตัดสินเกม แต่ผมภูมิใจพวกเขาตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์” กุนซือทีมชาติอังกฤษกล่าว
นอกจากนั้น ทางเซาธ์เกตยืนยันว่าไม่โทษ แฮร์รี เคน ที่ยิงประตูพลาดจนทำให้ทีมพ่ายแพ้ ชี้ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน “สำหรับผมเราชนะและแพ้ด้วยกันเป็นทีม เราเสียสองประตูและเราพลาดโอกาส แฮร์รี เคน ทำผลงานให้เราได้อย่างเหลือเชื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา เราไม่มีทางมาที่นี่ได้แน่หากไม่มีประตูที่เขายิงให้กับพวกเรา”
ส่วนแฮร์รี เคน กองหน้ากัปตันทีมยืดอกยอมรับผิดว่าเพราะเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ “สิงโตคำราม” ร่วงตกรอบ “มันเป็นเรื่องที่ยากที่จะต้องทำใจยอมรับมัน ผมไม่สามารถกล่าวโทษการเตรียมตัวหรือเรื่องรายละเอียดต่างๆได้ ผมรู้สึกมั่นใจในการรับหน้าที่ดังกล่าว ก็แค่ไม่ได้เป็นไปตามทิศทางที่ต้องการ มันเป็นสิ่งที่ผมต้องมีชีวิตไปกับมันและยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกล้าหาญ พวกเราเสียใจที่ต้องหยุดเพียงเท่านี้ เพราะเรามั่นใจว่าจะไปได้ไกลมากกว่านี้ แต่พวกเราก็ภูมิใจกับสิ่งที่ทำลงไป” แฮร์รี เคน กล่าวถึงความรู้สึกที่ยิงจุดโทษไม่เข้า