หน้าแรกแกลเลอรี่

ทีมเบียร์จัดเต็มรออัดกล้วยหอม ญี่ปุ่นงานหนัก หักด่านกระทิง

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

1 ธ.ค. 2565 05:24 น.

ศึกฟุตบอลโลก 2022 คืนนี้ (1 ธ.ค.) เป็นเกมรอบแรกนัดสุดท้ายของกลุ่มอีและเอฟ ไฮไลต์อยู่ในกลุ่มอีที่ถือเป็นกรุ๊ปออฟเดธ “ซามูไร บลู” ญี่ปุ่น ที่พลาดท่ามาในนัดที่แล้วอยู่ในสภาพหลังพิงฝาต้องเอาชนะ “กระทิงดุ” สเปน ให้ได้เพื่อการันตีเข้ารอบ แต่ไม่ง่ายเพราะอีกฝ่ายยังเน้น 3 แต้มหวังแชมป์กลุ่ม อีกคู่กลุ่มเดียวกัน “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ที่ฆ่าไม่ตายจาก 2 นัดแรก มานัดนี้ได้โอกาสสยายปีกจะเปิดเกมรุกเข้าใส่ “กล้วยหอม” คอสตาริกา แบบวันเวย์ก่อนจะดาหน้ายิงประตูเป็นกอบเป็นกำจนมีโอกาสพลิกเข้ารอบ ด้านกลุ่มเอฟ “ปิศาจแดงยุโรป” เบลเยียม ไม่มีทางเลือกต้องเก็บชัยชนะเหนือ “ตาหมากรุก” โครเอเชีย รองแชมป์เก่า ให้ได้สถานเดียวเพื่อการันตีเข้ารอบ ส่วนทัพโครแอตแค่เสมอก็ลอยลำแล้ว ส่วนอีกคู่กลุ่มนี้ “สิงโตแอตลาส” โมร็อกโก กำลังคึกจัดจะอาศัยเกมรุกที่ดุดันและเด็ดขาดไล่อัด “เมเปิ้ลสีแดง” แคนาดา ที่ตกรอบไปแล้วได้ไม่ยาก

มหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ วันที่ 1 ธ.ค. เป็นรอบแรกนัดสุดท้าย ไฮไลต์อยู่ในกลุ่มอี ที่ยังมีลุ้นเข้ารอบทั้ง 4 ทีม ทั้งสองคู่ลงเตะพร้อมกันเวลา 02.00น. คู่แรก “ซามูไร บลู” ญี่ปุ่น ที่มี 3 แต้มจาก 2 นัด พบ “กระทิงดุ” สเปน จ่าฝูงที่มี 4 คะแนน จาก2นัด คู่นี้ฟาดแข้งกันที่คาลิฟา อินเตอร์เตชันแนล สเตเดียม, อัล เรย์ยาน ช่องทรูโฟร์ยู (ช่อง 24), ช่อง 7เอชดี (ช่อง 35) ถ่ายทอดสด สถานการณ์ของคู่นี้ ญี่ปุ่นต้องเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อที่จะเข้ารอบโดยไม่ต้องลุ้นผลคู่อื่นๆ แต่ถ้าเสมอต้องลุ้นให้คอสตาริกาและเยอรมนี ไม่มีผลแพ้ชนะถึงจะผ่านเข้ารอบ ส่วนสเปนแค่ 1 แต้มก็เพียงพอต่อการเข้ารอบ แต่หากต้องการการันตีแชมป์กลุ่มต้องชนะเท่านั้น

ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือทีมชาติญี่ปุ่น จะปรับทัพจากเกมแพ้ คอสตาริกา 0-1 อย่างสู้ไม่ได้ ทำให้เกมนี้อาจจะกลับมายึดผู้เล่นชุดโค่นเยอรมนีเป็นหลัก แนวรับยังต้องใช้ มิกิ ยามาเนะ ลงเล่นแบ็กขวาต่อไป หลังทาเคฮิโระ โทมิยาสุ และฮิโรกิ ซากาอิ ยังไม่พร้อม มายะ โยชิดะ, โก อิตะกูระ ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนยูโตะ นางาโตะ ทำหน้าที่แบ็กซ้าย

ไอ ทานากะ, วาตารุ เอ็นโดะ คุมจังหวะเกม ทาเคฟุซา คูโบะ จะกลับมาผนึกกำลัง ไคจิ คามาดะ, ริตสึ โดอัน ปั้นเกมรุก แดนหน้าวาง ไดเซน มาเอดะ ลงยืนหน้าเป้า ขณะที่หลุยส์ เอ็นริเก เฮดโค้ชทีมชาติสเปน เกมนี้จะปรับแนวรุกเล็กน้อย แดนหน้าจะส่งอัลวาโร โมราตา ที่ยิงไปแล้ว 2 ตุงลงมาเพื่อโจมตีลูกกลางอากาศ มีดาเนียล โอลโม, เฟร์ราน ตอร์เรส เดินเกมรุกปีกขวาและซ้าย เซร์คิโอ บุสเกตส์ กองกลางกัปตันทีมคุมจังหวะเกมร่วมกับเปดรี,กาบี แนวรับยังเลือกใช้ โรดรี, อายเมอริค ลาปอร์ต ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

ญี่ปุ่นเล่นได้ผิดฟอร์มมากๆในเกมแพ้คอสตาริกา ทำให้ต้องมาลุ้นกันในเกมนัดสุดท้าย แต่ไม่ง่ายเพราะมาเจอกับสเปนที่แข็งแกร่งทุกตำแหน่ง ทั้งสองทีมยังมีสไตล์เดียวกันเล่นบอลสั้นและภาคพื้นดินเป็นส่วนใหญ่ทำให้รูปเกมน่าจะออกมาสนุก แต่ด้วยศักยภาพและขุมกำลังของทัพ “ลา โรฆา” ยังเหนือกว่า แถมการเลือกโมราตาลงมาทำให้แนวรุกแชมป์โลกปี 2010 มีจังหวะเข้าทำที่หลากหลายมากขึ้น น่าจะบดเอาชนะ “ซามูไร บลู” ไปได้แบบสนุก

ส่วนอีกคู่ในกลุ่มนี้เตะพร้อมกันเวลา 02.00 น. “กล้วยหอม” คอสตาริกา ที่มี 3 คะแนนจาก 2 นัด พบกับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ที่มี 1 คะแนน จาก 2 นัด คู่นี้ฟาดแข้งกันที่อัล เบย์ต สเตเดียม,อัล คลอร์ ช่องไทยรัฐ ทีวี (ช่อง 32) ถ่ายทอดสด สถานการณ์คู่นี้ คอสตาริกา หากเก็บชัยชนะได้จะเข้ารอบทันที แต่ถ้าเสมอต้องมาลุ้นผลคู่ญี่ปุ่นกับสเปน ส่วนเยอรมนีต้องเก็บชัยชนะให้ได้และลุ้นให้ “กระทิงดุ” ขวิด “ซามูไร บลู” ถึงจะพลิกเข้ารอบน็อกเอาต์ได้แต่ถ้าอีกคู่ออกหน้าเสมอเยอรมนีก็ต้องยิงคอสตาริกาให้ห่างอย่างน้อย 2 ลูกขึ้นไปก็เข้ารอบด้วยการชนะลูกได้เสีย

หลุยส์ แฟร์นันโด ซูอาเรซ เทรนเนอร์คอสตาริกา ไม่มีปัญหาใดๆ ให้กังวลใจยึดผู้เล่นเกมชนะญี่ปุ่นเป็นหลัก แนวรับวางออสการ์ ดูอาร์เต, เคนเดลล์ วัสตัน, เฟเดริโก คัลโว ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เคย์เชอร์ ฟูลเลอร์ ผู้ยิงประตูชัยในเกมล่าสุดรับหน้าที่วิงแบ็กขวา ส่วนไบรอัน โอเบียโด วิงแบ็กฝั่งซ้าย เซลโซ บอร์เกส, เยลต์ซิน เทเจดา คุมจังหวะเกม เเกลสัน ตอร์เรส, โจเอล แคมป์เบลล์ รับบทปีกขวาและซ้าย มีอันโธนี คอนเตราส ยืนหน้าเป้า ขณะที่ฮันส์ ดีเธอร์ ฟลิก เทรนเนอร์ “อินทรีเหล็ก” จะปรับเปลี่ยนทีมเล็กน้อยจากเกมเสมอสเปน 1-1 แนวรับวางใจชุดเดิม ธิโล เคห์เรอร์, นิคลาส ชูร์เล, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และเดวิด รอม ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ โจซัว คิมมิช, เลออน โกเรตส์กา คอยวิ่งไล่ทำลายเกมคู่ต่อสู้ จามาล มูเซียลา ดาวรุ่งฟอร์มแรงผนึกกำลัง แซร์จ นาบรี, อิลคาย กุนโดกัน ปั้นเกมรุก แดนหน้าจะปรับมาใช้กองหน้าขนานแท้อย่างนิคลาส ฟัลครูก ออกสตาร์ตตัวจริงยืนหน้าเป้า

เยอรมนี เกมนี้ไม่มีทางเลือกจะต้องเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกกดดันเข้าใส่ตั้งแต่กรรมการเป่านกหวีด ส่วนคอสตาริกาไม่มีอะไรมาก วางแผนมาเน้นรับรอโต้เพราะผลเสมอน่าจะเพียงพอต่อการลุ้นเข้ารอบ รูปเกมจะเป็นทาง “อินทรีเหล็ก” ที่จะเดินหน้าเปิดเกมรุกกดดันเข้าใส่แบบวันเวย์ แม้ว่าทัพ “กล้วยหอม” จะมาเน้นรับเป็นพิเศษ แต่โดนแนวรุกแข้งเบียร์นวดมากๆเข้ามีเป๋ให้เห็นแน่นอน ก่อนที่แชมป์โลก 4 สมัยจะอาศัยจังหวะเข้าทำที่เด็ดขาดของแซร์จ นาบรี, จามาล มูเซียลา, นิคลาส ฟัลครูก ผลัดกันยิงจนพาทีมเก็บ 3 แต้มไปแบบไม่ยากเย็น

ด้านกลุ่มเอฟ ฟาดแข้งพร้อมกันเวลา 22.00 น. คู่ไฮไลต์ของกลุ่มนี้ “ตาหมากรุก” โครเอเชีย รองแชมป์เก่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่มี 4 แต้มจาก 2 นัด พบกับ “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ทีมอันดับ 3 ครั้งที่แล้วมี 3 คะแนนจาก 2 นัด คู่นี้ฟาดแข้งกันที่ อาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม, อัล เรย์ยาน ช่องทรู โฟร์ยู (ช่อง 24), MCOT (ช่อง 30) ยิงสด สถานการณ์กลุ่มนี้ เบลเยียมต้องเอาชนะสถานเดียวถึงจะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ แต่ถ้าเสมอก็ต้องลุ้น แคนาดาชนะโมร็อกโก ห่าง 4 ลูกขึ้นไปถึงจะเข้ารอบ ส่วนโครเอเชีย แค่เสมอก็เพียงพอ หรือถ้าแพ้ต้องลุ้นให้ทัพเมเปิ้ลโค่นโมร็อกโกให้ได้

ซลัตโก ดาลิช กุนซือโครเอเชีย สภาพทีมค่อนข้างพร้อมเลยทีเดียว แนวรับวาง เดยัน ลอฟเรน, โจสโก กราดิโอล ยืนเป็นปราการหลังคู่กลาง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล โบรโซวิช คอยคุมจังหวะเกม ลูกา โมดริช กัปตันทีมจอมเก๋าขับเคลื่อนเกม แนวรุกส่ง อิวาน เปริซิช ผนึกกำลังมาร์โก ลิวายา เดินเกมรุก ปีกขวาและซ้าย มีอังเดรจ์ ครามาริช ที่ยิง 2 ประตู ในเกมล่าสุดคอยจบสกอร์ ขณะที่โรแบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือชาวสแปนิชของเบลเยียมได้รับข่าวดีเมื่อ โรเมลู ลูกากู กองหน้าร่างยักษ์ฟิตกลับมาลงสนามได้แล้ว ทำให้เกมนี้จะส่งลูกากูออกสตาร์ตตัวจริงลงยืนหน้าเป้า มีเอเดน อาซาร์ ผนึกกำลังเควิน เดอ บรอยน์, ธอร์เกน อาซาร์ ปั้นเกมรุก อักเซล วิตเซล, ยูริ ติเลมันส์ คุมจังหวะเกมกลางสนามแนวรับวาง โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ตองเกน ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

เบลเยียม ทีมอันดับ 3 ครั้งที่แล้วลงเล่นมา 2 นัด โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังมากๆ เกมนี้ต้องชนะสถานเดียวถึงจะพลิกเข้ารอบได้ แต่ก็ไม่ง่ายเมื่อโครเอเชีย ชั่วโมงนี้ฟอร์มกำลังมั่นใจ โดยเฉพาะเกมรุกที่เริ่มแผลงฤทธิ์โชว์ของจริงให้เห็นรูปเกม “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” ที่จะแพ้ไม่ได้ในเกมนี้จะเป็นฝ่ายเดินเกมรุกกดดันเข้าใส่แข้ง “ตาหมากรุก” ตั้งแต่ต้นเกม แต่เบลเยียมยังมีปัญหาแนวรุกที่ยังสอดประสานงานกันได้ไม่ดี แม้นัดนี้จะมีลูกากูมาเพิ่มความคม แต่ยากจะเจาะแนวรับอันแน่นปึ้กของทัพโครแอตได้ เกมนี้ดูแล้วรองแชมป์เก่าไม่น่าแพ้

อีกคู่กลุ่มเดียวกันฟาดแข้ง 22.00 น. พร้อมกัน “เมเปิ้ลสีแดง” แคนาดา ที่ตกรอบไปแล้วแพ้ 2 นัดรวดพบกับ “สิงโตแอตลาส” โมร็อกโก ทีมแกร่งจากแอฟริกาที่มี 4 คะแนนจาก 2 นัด คู่นี้ฟาดแข้งกันที่อัล ธูมามา สเตเดียม, กรุงโดฮา ช่องไทยพีบีเอส ถ่ายทอดสด สถานการณ์กลุ่มนี้ โมร็อกโกขอแค่เสมอก็จะลอยลำเข้ารอบทันที แต่หากพ่ายแพ้ แคนาดา ก็ยังมีโอกาสเข้ารอบแต่ต้องดูผลคู่โครเอเชียกับ เบลเยียมอีกที

จอห์น เฮิร์ดแมน เทรนเนอร์แคนาดา ยังคงใช้ผู้เล่นชุดใหญ่เพื่อหวังเก็บ 3 แต้มแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ ให้ได้ เกมนี้จะยึดผู้เล่นหน้าเดิมๆ ลงสนาม แนวรับมีสตีเวน วิตอเรีย, คามาล มิลเลอร์, อลิสแตร์ จอห์นสัน ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ อติบา ฮัทชิสัน, สตีเฟน เอสตาคิโอ คุมเกมกลางสนาม อัลฟอนโซ เดวิส ปีกตัวเก่งที่ยิงประตูได้ในเกมล่าสุดเดินเกมรุกฝั่งซ้าย ริชชี ลาร์เยีย อยู่ฝั่งขวา ทาฆอน บูชานาน, ไคล์ ลาริน ปั้นเกมรุก โดยมีโจนาธาน เดวิด ลงยืนหน้าเป้า ขณะที่วาลิด เรกรากุย เทรนเนอร์โมร็อกโก จะยึดผู้เล่นจากเกมโค่นเบลเยียม 2-0 ลงสนาม แนวรับมี อัคชราฟ ฮาคิมี, นาเยฟ อเกิร์ด, โรแมง ซาอิส, นุสแซร์ มาสเราอุย ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ ซอฟยาน อัมราบัต ปักหลักตัดเกม อัซเซดีน โอนาฮี, เซลิม อมัลลาห์ คอยเชื่อมเกม แดนหน้าวางฮาคิม ซิเยค ปีกตัวเก่งของเชลซี ที่ระเบิดฟอร์มสุดยอดในเกมที่แล้วจะผนึกกำลังยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี, โซฟียาน บูฟาล ยืนเป็น 3 ประสานแดนหน้าคอยล่าตาข่าย

แคนาดา แม้ตกรอบไปแล้วแต่ยังสู้ขาดใจเพื่อหวังเก็บชัยชนะเป็นการส่งท้าย ส่วนโมร็อกโก โชว์ฟอร์มได้แจ่มในนัดที่แล้วจะเป็นฝ่ายเดินเกมรุกกดดันเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกม เพื่อหวังเก็บชัยลุ้นคว้าแชมป์กลุ่ม รูปเกมจะออกมาคู่คี่สูสี ทัพเมเปิ้ลสีแดงจะมีวูบวาบในเกมรุก แต่จังหวะทีเด็ดทีขาดยังไม่แน่นอน ผิดกับทัพ “สิงโตแอตลาส” ที่จังหวะเข้าทำคมกริบโดยเฉพาะลูกเซตพีซเป็นทีเด็ดน่าจะบดเอาชนะแคนาดาไปได้ไม่ยาก

สำหรับศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายได้ 7 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ประกอบด้วย เนเธอร์แลนด์, เซเนกัล, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, บราซิล และโปรตุเกส ผลประกบคู่รอบน็อกเอาต์ที่ทราบแล้ว เนเธอร์แลนด์ (อันดับ 1 กลุ่มเอ) พบกับสหรัฐอเมริกา (อันดับ 2 กลุ่มบี) วันเสาร์ที่ 3 ธ.ค. เวลา 22.00 น. และอังกฤษ (อันดับ1กลุ่มบี) พบเซเนกัล (อันดับ 2 กลุ่มเอ) วันอาทิตย์ที่ 4ธ.ค. เวลา 02.00 น. (คืนวันเสาร์)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง