ไทยรัฐฉบับพิมพ์
“กล้วยหอม” คอสตาริกา คืนฟอร์ม หักดาบ “ซามูไร” ญี่ปุ่น 1-0 ทำให้ทั้งสองทีมต้องลุ้นเข้ารอบต่อในเกมนัดสุดท้าย ส่วนโมร็อกโกพลิกล็อกเชือดเบลเยียม 2-0 ส่วนศึก บอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์ คืนนี้ (28 พ.ย.) ฟาดแข้ง เต็มพิกัด 4 คู่ 4 สนาม คู่เอกอยู่กลุ่มเอช “ฝอยทอง” โปรตุเกส ที่ต้องการชัยชนะการันตีการเข้ารอบ 16 ทีม นำทัพโดยซุปเปอร์สตาร์ “โรนัลโด” ดวลเกือก “จอมโหด” อุรุกวัย ที่เกมนี้แพ้ไม่ได้เช่นกัน รูปเกมน่าจะออกมาสนุก แต่ทีเด็ดทีขาดต้องยกให้ โปรตุเกส ที่ครบเครื่องกว่าน่าจะบดชนะไปได้ไม่ยาก ส่วนคู่แรกของวัน 17.00 น. แคเมอรูนหวดแข้งเซอร์เบีย คู่นี้แพ้นัดแรกมาด้วยกัน เกมนี้ใครแพ้ตกรอบ คู่ต่อมา กลุ่มเอช คิกออฟ 20.00 น. “โสมขาว” เกาหลีใต้ ที่เสมอจอมโหดอุรุกวัยมา จะปะทะ “ดาวดำ” กานา เกมนี้ทีมแกร่งจากแอฟริกาต้องมีแต้มติดมือหากจะลุ้นเข้ารอบ หากพ่ายพลังโสมตกรอบทันที ปิดท้ายกัน ที่เวลา 23.00 น. “แซมบ้า” บราซิล แม้จะขาดเนย์มาร์ แต่ขุมกำลังยังแกร่งกว่าเยอะจะไล่อัด “แข้งนาฬิกา” สวิตเซอร์แลนด์ คว้าตั๋วลุยรอบน็อกเอาต์ได้สำเร็จ
ขณะที่กลุ่มเอฟ “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ที่ชนะมาในเกมแรกพบกับโมร็อกโก ที่เสมอมาในเกมแรก ฟาดแข้งกันที่อัล ธูมามา สเตเดียม ประเทศกาตาร์ เกมนี้หากเบลเยียมชนะจะผ่านเข้ารอบทันที ส่วนโมร็อกโกแพ้ไม่ได้หากยังต้องการทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ เปิดฉากครึ่งแรก เบลเยียมเดินหน้าเปิดเกมรุกกดดันเข้าใส่ นาทีที่ 17 เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางตัวเก่งได้โอกาสสับไกเหน่งๆ แต่ติดบล็อกแนวรับของโมร็อกโก จากลูกเตะมุม อามาดู โอนานา ได้โหม่งเหน่งๆ ก่อนข้ามคานออกไป นาทีที่ 45 (+3) ฮาคิม ซิเยค ของโมร็อกโกปั่นบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่วีเออาร์ริบประตูคืน เนื่องจากโรแมง ซาอิส ที่ยืนล้ำหน้าอยู่มีส่วนกับจังหวะเป็นประตู จบครึ่งแรกเสมอ 0-0
ครึ่งหลังเป็นโมร็อกโกที่ทำได้ดีกว่า นาทีที่ 57 โซฟียาน บูฟาล สับไกถากเสาออกไป จากนั้นเบลเยียม ยังไม่ดีขึ้นทำเกมได้ไม่มากเท่าไร จนนาทีที่ 73 โมร็อกโกพลิกขึ้นนำ เมื่ออับเดลฮามิด ชาบิรี ปั่นฟรีคิกมุมเส้นฝั่งซ้ายบอลพุ่งวาบเข้าประตูไปให้โมร็อกโก นำ 1-0 นาทีที่ 82 เบลเยียมมีโอกาสตีเสมอ แยน แฟร์ตองเกน ขึ้นโหม่งแต่บอลหลุดเสาไป ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90 (+2) จากจังหวะสวนกลับของ โมร็อกโก ฮาคิม ซีเยค ปาดบอลให้ซากาเรีย อาบูคลาล ซัดเข้าไปตุงตาข่ายขึ้นนำ 2-0 จบเกม โมร็อกโกพลิกล็อกชนะเบลเยียม 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนนจาก 2 นัด ส่วนเบลเยียมมี 3 คะแนนจาก 2 นัด ต้องไปตัดสินนัดสุดท้ายเพื่อแย่งชิงกันเข้ารอบน็อกเอาต์ต่อไป
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่กาตาร์ วันนี้ (28 พ.ย.) ไฮไลต์อยู่ที่คู่เวลา 02.00 น. กล่มเอช “ฝอยทอง” โปรตุเกส ที่เก็บชัยชนะนัดแรกมาได้ จะพบกับ “จอมโหด” อุรุกวัย ที่เสมอเกาหลีใต้มา เกมนี้หากโปรตุเกสเก็บชัยชนะได้ จะผ่านเข้ารอบทันที คู่นี้ฟาดแข้งที่ลูซาอิล ไอโคนิก สเตเดียม, เมืองลูซาอิล ช่อง 5 ถ่ายทอดสด
แฟร์นานโด ซานโตส เทรนเนอร์โปรตุเกส ไม่มีปัญหาจัดทัพจะลงเล่นในระบบ 4-3-1-2 แนวรับวางดานิโล เปร์เรรา, รูเบน ดิอาส ปักหลักยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ รูเบน เนเวส ปักหลักตัดเกม บรูโน แฟร์นันเดส, โอตาวิโอ คอยเชื่อมเกมกลางสนาม แบร์นาร์โด ซิลวา รับบทเพลย์เมกเกอร์ปั้นเกมรุก แดนหน้าวางคริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงวัย 37 ปีที่เพิ่งสร้างสถิติยิงประตูในบอลโลกได้ 5 ครั้ง ลงล่าตาข่ายคู่กับชูเอา เฟลิกซ์ ดิเอโก อลอนโซ กุนซือทีมชาติอุรุกวัย ไม่มีปัญหาในการจัดผู้เล่น นัดนี้จะลงเล่นในระบบ 4-3-3 แนวรับมีดิเอโก โกดิน กัปตันทีมจับคู่กับโฆเซ มาเรีย ฆิเมเนซ ยืนเป็นปราการหลังคู่กลาง โรดริโก เบตันกูร์, เฟเดริโก บัลเบร์เด และเวซิโอ คุมเกมกลางสนาม แดนหน้าวางฟาคุนโด เปยิสตรี, หลุยส์ ซัวเรซ, ดาร์วิน นูนเญซ ยืนเป็น 3 ประสานแดนหน้า
โปรตุเกสออกสตาร์ด้วยชัยชนะในเกมนี้ลงเล่นด้วยความมั่นใจจะเป็นฝ่ายเดินเกมรุกกดดันเข้าใส่อุรุกวัยตั้งแต่ต้นเกม ด้านทัพ “จอมโหด” จากเกมนัดแรกยังมีปัญหาจังหวะเข้าทำที่ยังไม่ค่อยมีความน่ากลัว แม้ว่าแนวรับจะแกร่งพอตัว แต่ยากจะหยุดแนวรุก “ฝอยทอง” ที่กำลังจี๊ดจ๊าดได้
ด้านคู่แรกของวันคิกออฟ 17.00 น. เป็นคิว กลุ่มจี แคเมอรูน ที่แพ้สวิตเซอร์แลนด์มาหวุดหวิด พบเซอร์เบีย ทีมแกร่งจากยุโรปตะวันออก แพ้บราซิล มาในเกมแรก เกมนี้หากทีมใดแพ้จะตกรอบทันที คู่นี้โม่แข้งกันที่สเตเดียม 974, กรุงโดฮา ช่องอมรินทร์ ทีวี (ช่อง 34) ถ่ายทอดสด
ริโกแบร์ ซง เทรนเนอร์ทีมชาติแคเมอรูน พลาดท่าพ่ายสวิตเซอร์แลนด์หวุดหวิด แต่ฟอร์มโดยรวมถือว่าน่าพอใจ เกมนี้จะยึดผู้เล่นหน้าเดิมๆลงวาดลวดลาย แนวรับวางนิโคลัส เอ็นคูลู, ฌอง-ชาร์ลส์ คาสเตลเลตโต ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แซมโบ อังกุสซา คุมจังหวะเกมร่วมกับซามูเอล โกเอต์ และมาร์ติน ฮองลา แดนหน้าวางไบรอัน เอ็มบูโม, เอริค มักซิม ชูโป-โมติง, คาร์ล โตโก เอคัมบี ยืนเป็น 3 ประสานแดนหน้า
ดราแกน สตอยโควิช เทรนเนอร์เซอร์เบีย สภาพทีมค่อนข้างพร้อมไม่มีปัญหาในการจัดทัพ จะยึดผู้เล่นจากเกมแพ้บราซิลลงสนาม แนวรับวาง มิลอส เวลจ์โควิช, นิโกลา มิเลนโควิช และสตราฮินยา ปาฟโลวิช ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช คุมจังหวะเกมร่วมกับซาซา ลูคิช, เนมานยา กูเดลจ์ โดยมีดูซาน ทาดิช รับบทหน้าต่ำปั้นเกมรุก มีอเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กองหน้าตัวเก่งลงยืนหน้าเป้า
ถือว่าเป็นเกมที่สำคัญกับทั้งสองทีมเป็นอย่างมากหากทีมใดพ่ายแพ้จะตกรอบทันที แคเมอรูน แม้ว่าจะแพ้ในเกมแรก แต่ฟอร์มการเล่นถือว่าดีเลยทีเดียว นัดนี้ ริโกแบร์ ซง กำชับลูกทีมให้เน้นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะแนวรุกที่เฉียบคมเข้าไว้ ส่วนเซอร์เบีย ยังมีปัญหาเรื่องจังหวะเข้าทำที่สร้างสรรค์โอกาสไม่ได้มากเท่าไร แต่ก็แทนด้วยแนวรับที่แข็งแกร่ง ไม่ง่ายที่ทีมดังจากแอฟริกาจะเจาะประตูได้ ดูแล้วคู่นี้มีโอกาสออกหน้าเสมอค่อนข้างสูง
ขณะที่เวลา 20.00 น. เป็นคิวของกลุ่มเอช “โสมขาว” เกาหลีใต้ ยันเสมออุรุกวัยมาได้ จะพบกับ “ดาวดำ” กานา ที่พ่ายให้กับโปรตุเกสมา 2-3 เกมนี้ใครชนะมีโอกาสลุ้นเข้ารอบกันต่อในเกมสุดท้าย แต่หากกานาพ่ายแพ้แทบจะหมดลุ้นเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ คู่นี้ฟาดแข้งกันที่เอดูเคชัน ซิตี สเตเดียม, อัล เรย์ยาน ช่องทรูโฟร์ยู (ช่อง 24) และ NBT ถ่ายทอดสด
เปาโล เบนโต กุนซือชาวโปรตุเกสของเกาหลีใต้ จะไม่ปรับทัพจากเกมที่เสมออุรุกวัย 0-0 แนวรับวางคิม มิน-แจ, คิม ยัง-กวอน ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ จอง วู-ยอง, ฮวาง อิน-บอม ปักหลักตัดเกม ซน เฮือง มิน กองหน้าตัวเก่งกัปตันทีมผนึกกำลังนา ซัง-โฮ, ลี แจ-ซุง ปั้นเกมรุก มีฮวาง อุย-โจ ลงยืนหน้าเป้า
อ็อตโต อัดโด เฮดโค้ชกานา จะไม่ปรับทัพจากเกมพ่ายโปรตุเกส 2-3 แนวรับมีดาเนียล อมาร์ตี, อเล็กซานเดอร์ ดีจิกู, โมฮาเมด ซาลิซู ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางอาร์เซนอล บัญชาเกมกลางสนาม โมฮัมเม็ด คูดุส, ซาลิส อับดุล ซาเมด, แดนหน้าวางอังเดร อายิว กัปตันทีมลงล่าตาข่ายคู่กับอินากิ วิลเลียมส์
เกาหลีใต้ มี 1 แต้มจากเกมแรก นัดนี้ตั้งเป้าเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อโอกาสลุ้นเข้ารอบ ส่วนกานา จะแพ้ไม่ได้เพราะหากพลาดท่า จะตกรอบทันที ทำให้ทัพ “ดาวดำ” จะเป็นฝ่ายเดินเกมรุกดันเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกม “โสมขาว” เกาหลีใต้ ที่ต้องการคะแนนเช่นกัน ต้องเปิดเกมสู้ รูปเกมน่าจะออกมาสนุกคู่คี่สูสี แต่จากฟอร์มเกมแรกทีมแกร่งจากแอฟริกาเล่นเกมรุกได้ดุดันน่ากลัวกว่าน่าจะไล่บี้และบดเอาชนะไปได้ในที่สุด
อีกคู่ฟาดแข้ง 23.00 น. “แซมบ้า” บราซิล แชมป์โลก 5 สมัยที่เอาชนะเซอร์เบียมาได้ในเกมแรกจะพบกับ “นาฬิกา” สวิตเซอร์แลนด์ ที่เก็บชัยชนะเหนือ แคเมอรูนเช่นกัน นัดนี้ใครชนะจะเข้ารอบทันที คู่นี้ฟาดแข้งกันที่อัล ยานูป สเตเดียม, อัล วัคราห์ คู่นี้ช่องวัน (ช่อง 31) ถ่ายทอดสด
ติเต กุนซือทีมชาติบราซิล ต้องปวดหัวเมื่อไม่มีเนย์มาร์ กองหน้าตัวเก่งที่ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าน่าจะพักยาวจนเกมรอบน็อกเอาต์ แต่ตำแหน่งอื่นๆ ไม่เปลี่ยนแปลง แนวรับวางติอาโก ซิลวา, มาร์กินญอส ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ กาเซมิโร, ลูกัส ปาเกตา คุมจังหวะเกมกลางสนาม แนวรุกจะต้องถอยริชาร์ลิสัน ที่ยิง 2 เม็ดในเกมล่าสุดมาผนึกกำลังกับราฟินญา และวินิซิอุส จูเนียร์ ปั้นเกมรุก แดนหน้าส่งกาเบรียล เชซุส กองหน้าฟอร์มร้อนจากค่ายอาร์เซนอลลงยืนหน้าเป้า
มูรัต ยาคิน เทรนเนอร์สวิตเซอร์แลนด์ ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ยึดผู้เล่นจากเกมโค่นแคเมอรูน เป็นแกนหลัก ลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 แนวรับวางมานูเอล อาคันยี, นิโก เอลเวดี ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ กรานิต ชากา กัปตันทีมจะผนึกกำลังเรโม ฟลอยเลอร์ คุมกลางสนาม เซอร์ดาน ชากิรี มิดฟิลด์ร่างเล็กผนึกกำลังดิบริล โชว์, รูเบน วาร์กัส ปั้นเกมรุก แดนหน้าวางบรีล เอ็มโบโล กองหน้าตัวเก่งที่ยิงประตูชัยนัดที่แล้วลงยืนหน้าเป้า
ทั้งสองทีมชนะมาด้วยกันทั้งคู่ใครชนะในเกมนี้ก็จะเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที บราซิล
เกมนี้ไม่มีเนย์มาร์ก็จริง แต่ขุมกำลังที่เหนืออยู่ก็ยังแกร่งกว่า สวิตเซอร์แลนด์ อยู่หลายช่วงตัว แข้งนาฬิกาเกมนี้วางแผนมาเน้นรับและโต้ แต่อย่างไรก็ตาม แข้ง “แซมบ้า” ที่แกร่งทุกอณูโดยเฉพาะแนวรุกอย่าง ริชาร์ลิสัน, กาเบรียล เชซุส, วินิซิอุส จูเนียร์ จัดจ้านสุดๆ น่าจะไล่ขย่มเอาชนะไปได้ไม่ยาก
ขณะที่ศึกลูกหนัง “เวิลด์ คัพ 2022” เมื่อวันอาทิตย์ 27 พ.ย. คู่แรก กลุ่มอี “ซามูไร” ญี่ปุ่นที่ชนะเยอรมนี 2-1 ในเกมแรก พบกับ “กล้วยหอม” คอสตาริกา ที่โดนสเปนถล่มมายับ 0-7
เกมนี้ฟาดแข้งกันที่สนามอาห์มัด บิน อาลี สเตเดียม หากแข้งปลาดิบเก็บ 3 แต้มได้ จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที ส่วนคอสตาริกาจะต้องเก็บชัยชนะให้ได้เป็นอย่างน้อยเพื่อลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ เริ่มครึ่งแรกทั้งสองทีมเปิดเกมรุกเข้าแลกกัน ญี่ปุ่น อาจจะดูเหนือกว่าแต่ยังไม่มีโอกาสเข้าทำมากนัก ส่วนคอสตาริกาก็ยังไม่ได้ทำเกมบุกมากนักจบครึ่งแรกเสมอกันไป 0-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 46 ฮิเดมาสะ โมริตะ ได้ยิง แต่ติดเซฟเคย์เลอร์ นาบาส นาทีที่ 57 ยูกิ โวมะ ได้ปั่นด้วยขวาแต่บอลหลุดกรอบไป นาทีที่ 72 ญี่ปุ่น มาได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ แต่ไคจิ คามาดะ ยิงติดกำแพงไปอีก กระทั่งนาทีที่ 81 แนวรับญี่ปุ่น ทำพลาดหน้ากรอบเขตโทษ เกยเชอร์ ฟูลเลอร์ ได้โอกาสปั่นด้วยซ้ายแฉลบแนวรับญี่ปุ่น ชูอิจิ กอนดะ กระโดดปัดแต่ไม่พ้น ส่งผลให้คอสตาริกานำไปก่อน 1-0 ท้ายเกม ญี่ปุ่นมีโอกาสยิงถึง 2 ครั้งหน้ากรอบเขตโทษ แต่ยังไม่ผ่านมือของนาบาส จบเกม คอสตาริกาพลิกเอาชนะญี่ปุ่นไปได้ 1-0 ทำให้มี 3 คะแนนจาก 2 นัดเท่ากันทั้งสองทีม โดยต้องไปลุ้นเข้ารอบในเกมนัดสุดท้าย คอสตาริกาจะเจอกับ เยอรมนี ส่วนญี่ปุ่นจะต้องดวลกับสเปน ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้
ส่วนความเคลื่อนไหวในเมืองไทย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยผลการป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 ว่า ตั้งแต่เปิดศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 มีผลจับกุมตั้งแต่วันที่ 19-26 พ.ย. มีผลจับกุมการพนันทายผลฟุตบอลโลก จับกุม 2,879 ราย เป็นเจ้ามือ 47 ราย ผู้เล่น 2,819 ราย และเดินโพย 13 ราย ผลจับกุมการพนันผ่านเว็บไซต์หรือสื่ออินเตอร์เน็ตต่างๆ จับกุมผู้ต้องหา 298 ราย แบ่งเป็นเจ้ามือ 23 ราย และผู้เล่น 275 ราย รวมจับกุมทั้งสิ้น 3,177 ราย ของกลาง โพยบอลรวม 6,270 ใบ เงินที่เล่นพนัน 988,766 บาท เงินสด 94,660 บาท รวมมูลค่า 1,083,426 บาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง