ไทยรัฐฉบับพิมพ์
แม้ “ช้างศึก” ไปฟุตบอลโลกได้แค่ในฝันแต่ “ชบาแก้ว” ไปเวิลด์คัพมาแล้ว 2 สมัย
เป็นคำยอดฮิตติดปาก เวลาแฟนบอลไทยจะบอกใครสักคนถึงความภาคภูมิใจเกี่ยวกับทีมชาติไทย
ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เคยไปฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 สมัย ในปี 2015 (แคนาดา) และ 2019 (ฝรั่งเศส) ภายใต้การนำทัพของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม และ “โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ทำหน้าที่เป็นกุนซือ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันกับฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2023 ที่ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะเป็นเจ้าภาพในปีหน้า มันช่างเป็นอะไรที่ยากเย็นเสียเหลือเกินสำหรับทีมชาติไทย
“ชบาแก้ว” เล่นรอบคัดเลือกเวิลด์คัพได้ไม่ดี จนทำให้ต้องมาลุ้นโอกาสสุดท้ายในรอบ “อินเตอร์คอนเฟดเดอเรชัน” ซึ่งรอบนี้มีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 10 ทีม ประกอบด้วย ชาติจากทวีปเอเชีย 2 ทีม, ทวีปแอฟริกา 2 ทีม, ทวีปอเมริกาเหนือ 2 ทีม, ทวีปอเมริกาใต้ 2 ทีม, โอเชียเนีย 1 ทีม และยุโรป 1 ทีม
โดยผลการประกบคู่ออกมาปรากฏว่า ไทย จะต้องพบกับแคเมอรูน ในรอบแรก โดยมีโปรตุเกส ยืนรออยู่ในรอบ 2, เซเนกัลพบเฮติ และผู้ชนะจะไปพบกับชิลีในรอบ 2, ไต้หวันพบปารากวัย ผู้ชนะคู่นี้จะเข้ารอบ 2 ไปพบผู้ชนะของคู่ปาปัวนิวกินีกับปานามา โดยทั้ง 3 ทีมที่ชนะในรอบ 2 จะผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
สำหรับทีมไทย (อันดับ 41 ของโลก) จะพบ แคเมอรูน (อันดับที่ 53 ของโลก) ในวันที่ 18ก.พ. 2566 ส่วนรอบสอง ผู้ชนะระหว่างไทยกับแคเมอรูน จะพบกับโปรตุเกส (ทีมอันดับที่ 23 ของโลก) วันที่ 22 ก.พ.2566 ที่ไวกาโต สเตเดียม เมืองแฮมิลตัน ประเทศนิวซีแลนด์ ทั้ง 2 นัด
โอกาสความน่าจะเป็น ตีความจากการดูอันดับโลกแล้วคงจะบ่งบอก
แต่ฟุตบอลกลมๆอะไรก็เกิดขึ้นได้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯจึงประกาศเตรียมทีมเต็มกำลัง
“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศในการเปิดแผนงานเตรียมทีมชาติไทยทุกชุด เมื่อวันก่อนว่า จะทำทุกอย่างให้เต็มที่ โดยเริ่มจากในวันที่ 20 ต.ค.-8 พ.ย. จะเดินทางไปยังประเทศออสเตรเลีย เพื่อทำการเก็บตัวฝึกซ้อม และอุ่นเครื่องกับทีมชาติออสเตรเลีย อย่างเป็นทางการ 2 นัด และกับทีมสโมสรหญิงอีก 1 นัด
จากนั้นในเดือน ธ.ค. ได้ประสานงานกับสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นภายใต้โครงการความร่วมมือ เพื่อส่งทีมชาติหญิงไปเก็บตัวที่ศูนย์ฝึกฟุตบอล เจกรีน ซาไก เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 18-28 ธ.ค.2565
ยืนยันว่าพร้อมดำเนินการตามแผนของหัวหน้าผู้ฝึกสอน และตระหนักดีถึงความสำคัญในการเตรียมทีมให้มีความพร้อมมากที่สุด
ล่าสุดสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ทำการประกาศรายชื่อ 26 นักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยชุดใหญ่เข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรายการนี้แล้ว โดยเป็นการผสมผสานกันของนักเตะตัวเก๋าและสายเลือดใหม่ นำทัพโดยบรรดาผู้เล่นที่ไปเวิลด์คัพ 2 สมัย อาทิ วราภรณ์ บุญสิงห์, สุนิสา สร้างไธสง, วารุณี เพชรวิเศษ, ศิลาวรรณ อินต๊ะมี และธนีกานต์ แดงดา
“แนนซี่” สุนิสา สร้างไธสง วิงแบ็กทีมชาติไทย สะท้อนถึงโอกาสคว้าตั๋วไปฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก รอบสุดท้าย สมัยที่ 3 ติดต่อกัน กล่าวว่า เป็นงานที่หนักพอสมควร ต้องมีการทำการบ้านกันอย่างเต็มที่มากๆ ในรอบแรกที่ต้องเจอกับแคเมอรูน ถึงแม้ว่าไทยจะเคยเอาชนะไอวอรีโคสต์มาได้ แต่ตอนนั้นทีมชาติไทยมีการเก็บตัวกันนานมาก มีเวลาซ้อมหนัก มีเวลาทำความเข้าใจกัน แต่ตอนนี้เพิ่งเตรียมตัวเริ่มเข้าแคมป์ (20 ต.ค.)
“สิ่งที่อยากได้ตอนนี้คืออยากให้มีการเก็บตัวนานๆ อยากให้มีการสนับสนุนฟุตบอลหญิงมากกว่านี้ เพราะการจะไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้ มันมีหลายปัจจัยที่จะต้องใช้ร่วมกัน จริงๆแล้วโค้ชมิโยะเป็นคนที่เก่งมาก อยากทำงาน แต่ขาดการสนับสนุนทำให้เขาทำงานได้ยาก ไม่มีเวลาได้เตรียมทีมมากเท่าไหร่”
ขณะเดียวกัน มิโยะ โอกาโมโตะ เฮดโค้ชชบาแก้ว รับสั้นๆว่า “เราต้องอยู่ในสายเดียวกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่เราจะเตรียมตัวให้ดีที่สุด ในทุกสิ่งที่สามารถทำได้”
เราจะอยู่กับความทรงจำบอลโลก 2 สมัยตลอดไป
หรือสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการไปบอลโลกสมัย 3
เฮือกนี้คือเฮือกสุดท้าย เส้นตาย (จริงๆ) ของ “ชบาแก้ว”.