ไทยรัฐออนไลน์
อดีตผู้รักษาประตูที่ไม่ผ่านการทดสอบกับ อาร์เซนอล เปิดใจหลังเป็นฮีโร่เซฟจุดโทษชนะเปรู พาออสเตรเลียไปลุยฟุตบอลโลก 2022
วันที่ 14 มิถุนายน 2565 ควันหลงฟุตบอลโลก 2022 รอบเพลย์ออฟระหว่าง โซนเอเชีย กับ โซนอเมริกาใต้ ที่เมืองอัล รายยาน ประเทศกาตาร์ ซึ่ง ทีมชาติออสเตรเลีย ผู้ชนะรอบเพลย์ออฟของเอเชีย เอาชนะ ทีมชาติเปรู อันดับ 5 จากอเมริกาใต้ ในการดวลจุดโทษตัดสินช่วงซัดเดนเดธ 5-4 หลังเสมอ 0-0 ในเวลา 120 นาที และมีการยิงพลาดในช่วงการดวล 5 คนแรกทีมละ 1 ราย
ทำให้ ออสเตรเลีย ตีตั๋วไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ปลายปีนี้ได้สำเร็จ ถือเป็นการคว้าโควตาเวิลด์คัพ รอบสุดท้าย สมัยที่ 5 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2006 และเป็นครั้งที่ 6 ของชาติ ซึ่งถือเป็นชาติที่ 31 ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่กาตาร์ โดยจะเข้าไปอยู่ในกลุ่มดี ร่วมกับ ฝรั่งเศส, เดนมาร์ก และตูนิเซีย
ขณะที่ เปรู ซึ่งก่อนเกมมีรายงานว่า บรรดาหมอผีมารวมตัวกันร่ายมนตร์คาถา เพื่อช่วยให้ทีมชาติของตัวเองได้ไปบอลโลกสมัยที่ 6 ของประเทศ ต้องผิดหวังกลับบ้าน
เกมนี้ แอนดรูว์ เรดเมย์น ผู้รักษาประตูมือ 2 ถูกส่งลงไปเป็นตัวสำรองในนาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลาพิเศษ แทน แมทธิว ไรอัน กัปตันทีม ก่อนที่นายทวารวัย 33 ปี ซึ่งเคยไปทดสอบฝีมือกับ อาร์เซนอล ทีมดังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในสมัยยังเป็นผู้เล่นเยาวชน แต่ไม่ผ่าน หลังจาก "ปืนใหญ่" เลือกเซ็นสัญญากับ วอยเชียค เชสนี แทน จะเป็นฮีโร่เซฟจุดโทษของ อเล็กซ์ วาเลรา ในช่วงซัดเดนเดธได้สำเร็จ
หลังจบเกม แอนดรูว์ เรดเมย์น ที่เพิ่งลงเล่นให้ทีมชาติออสเตรเลียชุดใหญ่เป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต ออกมาเปิดใจว่า "ไอเดียนี้ (เปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูก่อนดวลจุดโทษตัดสิน) เป็นการวางแผนล่วงหน้าก่อนเลือกตัวผู้เล่นลงสนาม ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่เราเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ กาตาร์ ผมก็คิดแบบนั้น"
"ผมเน้นการฝึกซ้อม 2-3 อย่างตลอดช่วงที่ผ่านมา แต่สุดท้ายแล้วมันก็เหมือนกับการเสี่ยงเหรียญว่าจะออกหัวหรือก้อย มันต้องตัดสินใจว่าจะไปทางขวาหรือทางซ้าย แต่ผมอยากบอกว่าผมไม่ใช่ฮีโร่ เพราะผมแค่ทำหน้าที่ของผมเหมือนที่ทุกคนทำในคืนนี้".