‘พิยดา’ แจ้งเกิดกีฬาเยาวชน ถูกดึงติดทีมชาติมุ่งสู่โอลิมปิก

สมาคมยิมนาสติกชื่นชมพิยดา พีรมธุกร จากสุราษฎร์ธานี ที่คว่ำ 3 เยาวชนทีมชาติ ไปแบบขาดลอยก่อนหน้านี้ ดันติดทีมชาติ เข้าโครงการโรดทูโตเกียว...

การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 33 “ชุมพร-ระนองเกมส์” ที่ จ.ชุมพร และ จ.ระนอง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายพรรณภพ อุ่นเสียม ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ระนองได้จัดตั้งอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาภายในองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ด้วยงบก่อสร้าง 14.8 ล้านบาท ซึ่งมีเพียงอาคาร แต่ยังขาดอุปกรณ์ ทว่านายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. ได้ลงมาตรวจและบอกว่าจะจัดอุปกรณ์ทดสอบสมรรถภาพร่างกายและอุปกรณ์ฝึกซ้อมพละกำลังกล้ามเนื้อให้ ศูนย์แห่งนี้จะเปิดให้ประชาชนชาวระนองได้ใช้ และวางแผนจะเสนอให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกจากภาคใต้ที่จะใช้เป็นสถานที่เก็บตัวนักกีฬาทีมชาติ

“ถ้าได้อุปกรณ์ต่างๆมาพร้อมก็จะเสนอใช้ศูนย์วิทย์แห่งนี้เป็นสถานที่เก็บตัวทีมชาติ และได้วางแผนปรับปรุงสนามฟุตบอลและยิมเนเซียมให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น อีกทั้งจะนำของดีเมืองระนองอย่างน้ำแร่จากบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติที่ขึ้นชื่อติดอันดับ 3 ของโลก และไม่มีกลิ่นกำมะถันแห่งเดียว ของไทย ต่อสายเข้ามายังศูนย์เพื่อรองรับนักกีฬาทีมชาติที่จะมาเก็บตัวฝึกซ้อมด้วยวารีบำบัด ซึ่งถือเป็น จุดขายในการพัฒนากีฬาควบคู่กับการท่องเที่ยวด้วย”

ด้าน น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมได้ช้างเผือก คือ “น้องปอปอ” ด.ญ.พิยดา พีรมธุกร วัย 13 ปี จากสุราษฎร์ธานี ที่สามารถเอาชนะดีกรีเยาวชนทีมชาติได้ทั้ง 3 คน ด้วยคะแนนที่ขาดลอย ส่งผลให้สมาคมเตรียมดึงเข้าศูนย์ฝึกทีมชาติ ร่วมโครงการ “โรดทูโตเกียว” ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศญี่ปุ่นในอีก 3 ปีข้างหน้าเป็นที่แน่นอนแล้ว

ส่วนผลเหรียญทองที่น่าสนใจมีดังนี้ กอล์ฟ วันสุดท้าย บุคคลหญิง “จีน” อาฒยา ฐิติกุล จากนครปฐม ดีกรีเยาวชนทีมชาติไทย วัย 14 ปี ที่เพิ่งได้รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟหญิงอาชีพ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2017” รอบสุดท้ายสวิงร้อนเก็บเพิ่ม 7 อันเดอร์ พลิกแซงคว้าแชมป์ด้วยสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 205 ขณะที่ “อ๋อม” ฐิตาภา ภักดีเศรษฐกุล จากสงขลา ดีกรีทีมชาติไทยเช่นกัน ผู้นำหลังจบรอบสอง วันสุดท้ายเก็บเพิ่ม 4 อันเดอร์ สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 206 รับเพียงแค่เหรียญเงิน

ขณะที่ทีมหญิง สงขลา ที่นำโดย “อ๋อม” ฐิตาภา แก้ตัวสำเร็จ คว้าเหรียญทอง สกอร์ 433 ส่วนทีมชาย เหรียญทองเป็นของชลบุรี ที่มี ถิรวัฒน์ จิรายุสกมล, เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์, อติรุจ วินัยเจริญชัย, วนิพันธุ์ มีสมอรรถ สกอร์ 885 และบุคคลชาย เอกปริษฐิ์ หวู่ จากระยอง 1 โอเวอร์พาร์ 289 ได้เหรียญทองเทควันโด รอบชิงชนะเลิศ รุ่น 51 กก.ชาย ณัฐภัทร์ อินทร์คง จากราชบุรี ชนะ กิตติวิน ยีมูดา จากภูเก็ต 26-21, รุ่น 55 กก.ชาย ธีรพัฒน์ หลาคำมูล จากน่าน ชนะ พันธกานต์ เกษรบัว จากสมุทรสาคร 15-3, รุ่น 63 กก.ชาย สหรัก สุดตา จากร้อยเอ็ด ชนะ อันเดรีย ฮูซาย จากชลบุรี 9-7, รุ่น 46 กก.หญิง สิริปรียา มะหะหมัด จากสุพรรณบุรี ชนะ สุกฤตาพัชร ศิริรัตน์ จากสุราษฎร์ธานี 10-4, รุ่น 49 กก.หญิง ชนกานต์ เสาวรส จากกรุงเทพฯ ชนะ วันดี ไข่เสน จากภูเก็ต 10-2, รุ่น 55 กก.หญิง เพ็ญพิชชา จุลพวก จากสุโขทัย ชนะ ณัตติชา พูลทะจิตร์ จากชัยนาท 11-10

สรุปเหรียญรางวัลที่แต่ละจังหวัดได้รับ เรียงตามลำดับเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง 5 อันดับแรก ดังนี้ อันดับ 1 กรุงเทพฯ 96-84-98, อันดับ 2 ชลบุรี 39-36-34, อันดับ 3 นครศรีธรรมราช 33-31-37, อันดับ 4 นครราชสีมา 31-25-14, อันดับ 5 สุพรรณบุรี 29-30-30