ไทยรัฐออนไลน์
ฟุตซอลไทยลีก 2020 ขยับอีกครั้งเลกแรก ฟาดแข้ง 1 ส.ค.-27 ก.ย.ใช้สนามกลางและห้ามแฟนเข้าชม ส่วนเลกสองรอเอเอฟซี สรุปวันหวดชิงแชมป์เอเชียให้ชัดเจน ถ้าไม่เตะปีนี้ เลกสองจะแข่ง 14 ต.ค.-27 ธ.ค. แต่ถ้าต้องแข่งซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือน พ.ย. ก็อาจไม่มีเวลาพอ ทำให้เลกสองจะปรับรูปแบบเตะแบบเพลย์ออฟเพื่อให้จบสิ้นปี หรือไม่ก็ต้องขยายไปจบ ม.ค.ปีหน้า แต่ก็ขึ้นกับไทยรัฐทีวีเจ้าของลิขสิทธิ์ด้วย ขณะที่ “บิ๊กป๋อม” ย้ำไทยพร้อมเสียบแทนเติร์กเมนิสถานจัดชิงแชมป์เอเชีย
วันที่ 5 มิ.ย.63 “บิ๊กป๋อม” นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ฝ่ายพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาด ได้นัดประชุมกับ 14 สโมสรฟุตซอลไทยลีก ผ่านทางระบบออนไลน์ Meet-Google.com ถึงความคืบหน้าในการเปิดฟุตซอลไทยลีก 2020
โดยข้อสรุป ได้กำหนดทางเลือกเป็น 3 แนวทาง ทางแรกขยับเปิดการแข่งขันในเลกแรกเป็น 1 ส.ค.-27 ก.ย. และเลกสองกำหนดแข่ง 14 ต.ค.-27 ธ.ค.
ส่วนแนวทางที่สอง กรณีถ้ามีการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ซึ่งมีรายงานว่าเอเอฟซี อาจจะจัดแข่งในช่วงวันที่ 1-15 พ.ย. ถ้าต้องแข่งจริงก็จะต้องขยับโปรแกรมให้ทีมชาติ โดยเลกเรกจะแข่งตามเดิม ส่วนเลกสองที่ต้องการให้ลีกจบภายในปีนี้ก็ได้มีการเสนอจะให้แข่งแบบเพลย์ออฟ
และแนวทางที่ 3 ถ้าไม่แข่งแบบเพลย์ออฟ ก็อาจจะต้องขยายเวลาปิดลีกไปเป็นเดือน ม.ค.ปีหน้าแทน แต่โปรแกรมเลกสองก็จะเตะถี่หน่อย
ซึ่งทาง “บิ๊กป๋อม” เผยว่า กำหนดการแข่งขันเลกแรกเราเลื่อนไปเปิด ส.ค.เพราะเหมาะสมกับทุกทีมที่จะซ้อม รวมถึงรอการคลายล็อกระยะ 4 ที่จะออกมาด้วย ซึ่งเลกแรกชัดเจนว่าเราจะจัดแข่งสนามกลางและห้ามแฟนบอลเข้าชม
“ส่วนเลกสอง มันยังไม่ลงตัวตรงการชิงแชมป์เอเชีย เพราะเอเอฟซีก็ยังไม่ประกาศ แต่มีข่าวอาจจะจัดแข่งช่วง พ.ย. ถ้าอย่างนี้ ก็ทำให้ระยะเวลาที่จะจบภายในปีนี้คงยาก ก็มีอีกทางคือเตะแบบเพลย์ออฟ เพื่อให้กระชับขึ้น แต่ถ้าสโมสรต้องการแข่งแบบลีกก็คงต้องขยายเวลาไปอีกเดือน ไปจบ ม.ค.ปีหน้า"
"แต่เรื่องนี้ ก็ต้องคุยกับผู้ได้รับลิขสิทธ์ิอย่างไทยรัฐด้วยว่า จะเห็นดีแบบไหน แต่ทั้งหมดทั้งปวง ก็จะมีการประชุมอีกครั้งกลางเดือนนี้ ที่น่าจะได้ความชัดเจนจากเอเอฟซี รวมถึงการคลายล็อกระยะที่ 4 ก็จะกำหนดโปรแกรมแข่งได้ลงตัวขึ้น”
“บิ๊กป๋อม” กล่าวอีกว่า ในส่วนของฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย เวลานี้ต้องรอเอเอฟซีเท่านั้นว่าจะแข่งช่วงไหน แต่เราเตรียมการของเราไว้ให้พร้อมเสมอ รวมถึงกรณีถ้าเติร์กเมนิสถานไม่สามารถจัดได้ ประเทศไทยก็พร้อมจะดึงมาจัดแทนได้ทันที
ที่ประชุมยังได้กำชับถึงเรื่องการซ้อม ที่แม้จะผ่อนปรนให้ซ้อมได้ แต่ก็ฝากทุกทีมยังต้องช่วยกันป้องกันตามมาตรการภาครัฐ ไม่ว่าการสวมหน้ากากอนามัย การวัดอุณหภูมิ หมั่นใช้เจลล้างมือ รักษาระยะห่าง การซ้อมนอกจากนักกีฬาก็ขอให้มีแค่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่เกิน 10 คนเท่านั้น ห้ามคนนอกเข้ามาชมเด็ดขาด.