ไทยรัฐออนไลน์
2 หมัดไทยผ่านฉลุยผ่านเข้ารอบสากลโอลิมปิกเกมส์รอบคัดเลือกโซนเอเชีย/โอเชียเนีย โดย “เจ้าเหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด กับ “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ทะยานเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย ขณะที่ “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข, พรนิภา ชูตรี และจักรพงษ์ ยมโคตร พลาดท่าตกรอบ 8 คน แต่ “เจ้าเอ็ม” ยังมีลุ้นโควตาสุดท้ายในรุ่น 69 กก.ชาย เช่นเดียวกับ จักรพงษ์ ยมโคตร ยังมีลุ้นในรุ่น 81 กก.ชาย ในการชกกับผู้แพ้ในรอบ 8 คน เนื่องจากรุ่นนี้ให้โควตา 5 คนไปโอลิมปิกเกมส์
การแข่งขันมวยสากลโอลิมปิกเกมส์รอบคัดเลือกโซนเอเชีย/โอเชียเนีย ที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เมื่อคืนวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นการชกรอบ 8 คนสุดท้าย หากชนะจะตีตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ทันที เริ่มที่รุ่น 75 กก.หญิง พรนิภา ชูตรี ที่ได้บายรอบแรก พบ รานี ปูจาร์ จากอินเดีย ตลอดการชกทั้ง 3 ยก พรนิภา ที่ประสบการณ์เป็นรองต้านความแข็งแกร่งของนักชกอินเดียที่ดักต่อยได้อย่างจะแจ้งทุกยก ทำให้ พรนิภา พ่ายคะแนนขาดลอย 0-5 ตกรอบ 8 คน ชวดโควตาโอลิมปิกเกมส์
รุ่น 69 กก.ชาย “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข พบคู่ปรับเก่า “อัปไลคาน ซุสซูปอฟ” จากคาซัคสถาน ที่ เจ้าเอ็ม เคยพ่ายมาในชิงแชมป์โลก เกมการชกทั้ง 3 ยก นักชกคาซัคออกหมัดได้อย่างรวดเร็วเข้าเป้าตลอด แม้เจ้าเอ็มพยายามตั้งการ์ดสูงชิงต่อยหนึ่งสองแต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าเป้า ครบยก วุฒิชัย เป็นฝ่ายพ่ายคะแนน 0-5 เสียง แต่ยังมีโอกาสลุ้นโควตาสุดท้ายในการชกกับผู้แพ้ในรอบ 8 คน เนื่องจากรุ่นนี้ให้โควตา 5 คนไปโอลิมปิกเกมส์
รุ่น 81 กก.ชาย จักรพงษ์ ยมโคตร พบ อเดล อัลฮินดาวี่ นักชกเจ้าภาพ จักรพงษ์ ยมโคตร ที่ประสบการณ์น้อยกว่า ต้านความแข็งแกร่งของนักชกเจ้าภาพไม่ไหว ตลอดการชกทั้ง 3 ยกนักชกเจ้าภาพออกหมัดได้อย่างหนักหน่วงและเข้าเป้ามากกว่า จึงเป็นฝ่ายชนะคะแนน 5-0 เสียง แต่จักรพงษ์ยังมีโอกาสลุ้นโควตาสุดท้ายในการชกกับผู้แพ้ในรอบ 8 คน เนื่องจากรุ่นนี้ให้โควตา 5 คนไปโอลิมปิกเกมส์
ส่วนการชกเมื่อคืนวันที่ 7 มี.ค. เป็นรอบ 16 คนสุดท้าย เริ่มที่รุ่น 52 กิโลกรัมชาย “เจ้าเหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด พบ คิม อินคยู จากเกาหลีใต้ ยกแรก “ธิติสรรค์” ที่เสียเปรียบรูปร่าง เป็นฝ่ายเดินเกมรุกไล่ออกหมัดเน้นลำตัวเป็นหลัก ก่อนที่ยกสอง นักชกโสมจะแก้ทางมวยหันมาเดินเข้าใส่ออกหมัดหนึ่งสองต่อยทำคะแนนตีตื้นขึ้นมา จนต้องมาชิงดำในยกที่ 3 ซึ่ง เจ้าเหลิม ยังคงใช้สไตล์เดินลุยต่อยเน้นลำตัวเป็นหลัก ก่อนที่ช่วง 10 วินาทีสุดท้ายจะมาได้โอกาสทองออกหมัดเป็นชุดเข้าใส่นักชกโสม ครบยก ธิติสรรค์ ปั้นโหมด เป็นฝ่ายชนะไปอย่างเฉียดฉิว 3-2 เสียง ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายพบกับออสเตรเลีย ที่เคยมาเทรนนิ่งแคมป์ที่ไทย
หลังการชก “เจ้าเหลิม” กล่าวว่า เป็นมวยที่ชกยากมาก ยกแรกเขาแพ้เรา เลยมาแก้เกมในยกที่ 2 ทำให้ต่อยถึงกับเข้าไม่ติดเหมือนกัน ตอนนั้นคิดได้แต่เพียงต้องรีบแก้เกมคืนให้ได้ในยกที่ 3 ด้วยการเร่งต่อยแบบไม่หยุดและเปลี่ยนสไตล์การชกใหม่ ก่อนจะมาได้จังหวะในช่วง 10 วิสุดท้ายที่ชกได้เข้าเป้ามากกว่าจึงทำให้ชนะ ส่วนรอบหน้าไม่หนักชกง่ายกว่าเยอะ เราเคยเจอกันมาแล้วไม่น่าห่วง มั่นใจตีตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์แน่นอน
รุ่น 57 กิโลกรัมชาย “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ที่ได้บายในรอบแรกลงชิงตั๋วโอลิมปิกสมัยที่ 3 พบคู่ปรับเก่า “เอียน คล๊าก เบาติสต้า” จากฟิลิปปินส์ ซึ่วสถิติที่ผ่านเป็นเจ้าสดที่เป็นฝ่ายชนะถึง 3 ครั้งแพ้ 1 ครั้ง ตลอดการชกทั้ง 3 ยกต่างฝ่ายต่างชิงจังหวะออกหมัด แต่เป็นเจ้าสดที่ต่อยเข้าเป้าได้มากกว่า โดยในยกที่ 2 กับ 3 นักชกตากาล็อกพยายามการ์ดสูงเดินเข้าใส่อย่างหนัก แต่สุดท้ายก็เข้าไม่ติดครบยก ฉัตร์ชัยเดชา เป็นฝ่ายชนะขาดลอย 5-0 เสียง ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย และเป็นคนที่ 8 ของนักชกไทย โดบรอบต่อไปจะพบกับเวียดนามที่เคยมาเทรนนิ่งแคมป์ที่ไทย
หลังการชก “เจ้าสด” ถึงกับโล่งอก ก่อนกล่าวว่า ดีใจที่สุดที่ผ่านไปได้ ยอมรับว่ากดดันทีเดียว ตนพักนานหลายวันกว่าจะชกทำให้อืดไปบ้าง ที่สำคัญน้องๆ ผ่านเข้ารอบ 8 ไปหมดแล้วเหลือตนเป็นคนสุดท้าย พอผ่านได้ทำให้คลายความกดดันไปเลย รอบต่อไปเจอกับเวียดนามไม่น่ากลัวแต่ก็ไม่ประมาท มั่นใจจะคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ได้อีกครั้ง