ไทยรัฐออนไลน์
“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ทำได้ตามเป้าหลังเสมอ อิรัก 1-1 เข้ารอบ 8 ทีมศึกยู-23 เอเชีย ได้สำเร็จ และนี่คือ 4 สิ่งที่ได้เห็นจากเกมนี้
1.ลุงโนะมาเหนือเปลี่ยน 7 ตำแหน่ง
ใครจะไปเชื่อว่าเมื่อรายชื่อ 11 ตัวจริงออกมาจะได้เห็น อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย เปลี่ยนถึง 7 ตำแหน่ง คิดว่ากุนซืออิรักก็คงอึ้งไปเหมือนกัน แต่ที่อึ้งไปกว่านั้นคือแม้จะเปลี่ยนถึง 7 ตำแหน่ง รูปเกมกลับออกมาดีเกินคาด สู้กับอิรักได้อย่างสนุกเร้าใจ ช่วยกันวิ่งช่วยกันเล่น ต้องยกนิ้วให้ นิชิโนะ จริงๆ ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ และในที่สุดก็ประสบความสำเร็จชื่นมื่นกันไป
2.”เบนจามิน เจมส์ เดวิส”ปล่อยของตั้งแต่นัดแรก
ดาวรุ่งจากสโมสรฟูแล่ม ในลีกแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงนัดแรกกับทีมชาติไทย และสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนบอลด้วยลีลาการเล่นอันดุดัน กล้าเล่นกล้าลุย ไปกับบอลได้ดี ถ้าได้ใช้เวลารู้จักกับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น มีการสื่อสารกันมากขึ้น แน่ใจเลยว่าเจ้าตัวจะประสบความสำเร็จกับช้างศึกได้ไม่ยากอย่างแน่นอน
3.ช้างศึกเอาอยู่
เกมนี้ไทยนำก่อนตั้งแต่ 6 นาทีแรกจากการยิงจุดโทษของ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ จากนั้นมีโอกาสได้ประตูเพิ่มแต่มีจังหวะเกือบโดนอยู่เหมือนกัน ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นำอยู่ 1-0 จากนั้นครึ่งหลังอิรักบุกใส่เลย และแค่ไม่กี่นาทีพวกเขาก็ตีเสมอเป็น 1-1 จาก โมฮัมหมัด กาซิม จากนั้นรูปเกมไทยเรริ่มดีขึ้น แต่ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายต้องยอมรับว่าบีบหัวใจแฟนบอลช้างศึกเหลือเกิน เพราะอิรักบุกมาราวกับพายุ และเกือบได้ประตูชัยจากการโหม่งจ่อๆ ของ มูรัด โมฮัมหมัด ในนาทีที่ 90 แต่ กรพัฒน์ นารีจันทร์ เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม และภาพรวมเกมรับของไทยนอกเหนือจากจังหวะเสียประตู ก็ถือว่าเอาอยู่ในหลายๆ จังหวะ อิรักไม่ค่อยได้ครอสบอลจากซ้ายและขวาตามถนัดมากนัก
4.ทำได้ตามเป้า
สรุปผลงานช้างศึกในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดแรกชนะ บาห์เรน 5-0, นัดที่สองแพ้ออสเตรเลีย 1-2 และนัดสุดท้าย เสมออิรัก 1-1 มี 4 คะแนน เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างประวัติศาสตร์เช้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย เป็นครั้งแรกอีกด้วย