ไทยรัฐออนไลน์
กุนซือทีมชาติคูราเซา ออกมาเปิดใจหลังพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ด้วยการดวลจุดโทษชนะ เวียดนาม 5-4 หลังเสมอใน 90 นาที 1-1
วันที่ 9 มิ.ย. ความเคลื่อนไหวศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 หลังจบเกมรอบชิงชนะเลิศ ที่สนามช้าง อารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่ง ทีมชาติคูราเซา ดวลจุดโทษเอาชนะ ทีมชาติเวียดนาม ไป 5-4 หลังจากเสมอกันในเวลา 90 นาที 1-1 ทำให้ทีมชาติคูราเซา คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ได้สำเร็จ ส่วนทีมชาติเวียดนาม คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศ
หลังจบเกม เรมโก ไบเซนตินี กุนซือทีมชาติคูราเซา ยอมรับว่าการเจอกับเวียดนามเป็นเกมที่ยาก และรู้สึกแฮปปี้ที่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ และยกย่อง เหงียน คอง เฟือง กองหน้า และ ดัง วาน ลัม ผู้รักษาประตูของเวียดนาม เป็นพิเศษ
“ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งทีคว้าชัยชนะ และได้แชมป์ไปครอง เรามาที่นี่เพื่อเล่นฟุตบอลที่ดี เรามาเพื่อเป็นแชมป์ และเราก็ทำได้สำเร็จ นักเตะทุกคนก็มีความยินดีเช่นเดียวกับผม ที่เรามาคว้าแชมป์ที่ประเทศไทย ผมเชื่อว่าคนที่กือราเซาก็มีความยินดีทั้งประเทศ ก็ขอบคุณทุกคนครับ นี่ไม่ใช่เกมที่ง่าย แต่เราเชื่อว่าทีมเรามีโอกาสคว้าชัยชนะใน 90 นาทีอยู่แล้ว หากชาร์ลิสันไม่พลาด 2-3 จังหวะท้ายเกม นี่เป็นเกมที่ดี มีคุณภาพ และเป็นเกมที่ยากสำหรับเรา”
“เวียดนามเป็นทีมที่แข็งแกร่ง พวกเขามีศักยภาพที่ดี โดยเฉพาะผู้รักษาประตู (ดัง วาน ลัม) และนักเตะหมายเลข 10 (เหงียน คอง เฟือง) เวียดนามทำให้เราเล่นได้ยากในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังเราเล่นเกมของตัวเองได้มากขึ้น และโชคดีที่ได้ประตูนำไปก่อน ทำให้ความกดดันลดลง แม้สุดท้ายพวกเขาจะตีเสมอ และทำให้เรากลับมากดดันอีกครั้ง แต่สุดท้ายผมก็ดีใจที่เราคว้าชัยชนะได้” ไบเซนตินี กล่าว