หน้าแรกแกลเลอรี่

"เพชรมรกต" วิ่งแก้บน 37 กม. หลังโค่นเต็งแชมป์คิกบ็อกซิ่ง

ไทยรัฐออนไลน์

21 พ.ค. 2562 12:00 น.

หากบอกว่า “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” ที่เพิ่งประเดิมเวทีคิกบ็อกซิ่งไปเพียงนัดเดียว จะมีชัยชนะเหนือนักสู่เบอร์หนึ่งของโลกอย่าง “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” ในทัวร์นาเมนต์วัน เฟเธอร์เวต คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังปรีซ์ แฟนหมัดมวยเกือบร้อยทั้งร้อยคงไม่มีใครเชื่อ 


วันที่ 21 พ.ค.62 แต่หลังจากผ่านค่ำคืนที่สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ในการแข่งขัน ONE: ENTER THE DRAGON รวมถึงผู้ชมทั่วโลกที่รับชมการแข่งขัน ต่างต้องจดจำชื่อของ “เพชรมรกต” ได้นับแต่นั้น

โดยเฉพาะวินาทีที่กรรมการชูมือให้ เพชรมรกต เป็นผู้กำชัยชนะเหนือนักชกคิกบ็อกซิ่งเต็งหนึ่งของทัวร์นาเมนต์ ด้วยคะแนน 2-1 เสียง เพชรมรกต จึงเป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ช็อกโลก และทำให้วงการคิกบ็อกซิ่งสั่นสะเทือน

ซึ่ง เพชรมรกต ให้สัมภาษณ์อย่างตื่นเต้นหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันว่า “ผมดีใจมากครับ ที่ชนะเบอร์หนึ่งของโลกได้ เพราะเขาไม่เคยแพ้ใครมาเกือบ 5 ปี” และถึงแม้จะล้มยักษ์ได้ แต่ก็ยังไม่กล้าเรียกตัวเองว่า “เก่งที่สุดในโลก” โดยยอมรับว่า ยังอ่อนประสบการณ์บนสังเวียนคิกบ็อกซิ่ง แถมยังมีข้อบกพร่องที่ต้องนำมาปรับปรุงแก้ไขต่อไป

อย่างไรก็ตาม หลังบินกลับถึงเมืองไทยในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพชรมรกต ได้วิ่งแก้บนจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังพระบรมรูปทรงม้า เป็นระยะทางร่วม 37 กิโลเมตร โดยมี พีรภัทร ศิริเรือง นักวิทยาศาสตร์การกีฬาคอยประกบ พร้อมเพื่อนร่วมค่ายอย่าง เพชรเก่ง และ แพรวพราว ร่วมวิ่งด้วย

“ผมลงเครื่องถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณบ่ายสามโมงกว่า เสร็จจากรอรับกระเป๋าก็เริ่มวิ่งราว 4 โมงครึ่ง ใช้เวลาวิ่งประมาณ 4 ชั่วโมงถึงพระบรมรูปทรงม้า ยอมรับว่าเหนื่อยแต่มันเป็นความภาคภูมิใจ”

สำหรับรอบต่อไปในรอบรองชนะเลิศ เพชรมรกต จะได้เผชิญหน้าทำศึกสายเลือดกับ “โจ ณัฐวุฒิ” นักชกไทยซึ่งไปโด่งดังที่อเมริกา ในฐานะอดีตแชมป์รายการไลออนไฟต์สองรุ่น ซึ่งทั้งคู่ต่างมีความเห็นเดียวกันว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เห็นคนไทยผ่านเข้ารอบในทัวร์นาเมนต์นี้ แม้จะต้องทำศึกสายเลือด แต่ไม่ว่าใครชนะก็คือชื่อเสียงของประเทศชาติ และนอกเวทีก็ยังเคารพกันเหมือนพี่น้องเช่นเดิม

ติดตามความเคลื่อนไหวของรายการ “วัน แชมเปียนชิพ” ได้ทางเฟซบุ๊ก ONE Championship และ www.onefc.com