หน้าแรกแกลเลอรี่

พลิกวิกฤติเป็นโอกาส

Lemon Juice

28 ก.พ. 2562 12:00 น.

เรียกได้ว่าทั้ง “ปัสสาวะเหนียว” และ “เกร็ง” ไปพร้อมๆ ในเวลาเดียวกัน สำหรับการตามลุ้นตามเชียร์ทีมชาติไทยยู-22 กับทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียนเวอร์ชั่นล่าสุด...

ถึงยังไงก็แล้วแต่ การทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศก่อนจะคว้ารองแชมป์มาครองได้ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร สำหรับขุนพลชุดเฉพาะกิจ ที่แบกอายุจนหลังแอ่นลงสนาม

นักเตะของไทยชุดนี้ ภายใต้การคุมทัพของ อเล็กซานเดร กามา มีอยู่หลายรายที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์ 22 ปี เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ราว 19-20 ปีเท่านั้น

“เพื่อเตรียมทีมในการแข่งขันรายการนี้ เราได้เรียกนักกีฬามาก่อนอย่างที่ทราบกันจำนวน 38 คน แต่หลายคนก็ไม่สามารถมาได้ เนื่องจากลีกกำลังจะเริ่มการแข่งขันแล้ว แต่เราก็เชื่อมั่นในตัวผู้เล่นเหล่านี้ที่ถูกเรียกมา ทุกคนมีความสามารถ พรสวรรค์ และเคยติดทีมชาติมาแล้วเกือบทั้งหมด”

“บางคนก็มีอายุเต็มรุ่น เราจะพยายามทำให้ผลงานออกมาดี ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ และผมก็ได้บอกคอนเซปต์ของทีมให้กับทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

“เป้าหมายหลักในการแข่งขันครั้งนี้ก็คือการได้เรียนรู้และรู้จักนักกีฬามากขึ้น แต่ผมเองก็อยากจะเอาชนะเช่นกัน เราอยากจะไปที่นั่นเพื่อประสบความสำเร็จ แต่เราไปด้วยการนำผู้เล่นอายุน้อยกว่าเกณฑ์ไป หลายทีมน่าจะใช้นักเตะเต็มรุ่น ส่วนเราก็มีนักเตะรุ่นอายุ 19-20 ปี เป็นแกนหลัก แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด และเรียนรู้นักเตะให้มากขึ้น และนักเตะบางคนอาจจะได้ต่อยอดไปเล่นในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก หากทำผลงานได้ดี”

นั่นคือคำกล่าวของกุนซือใหญ่ชาวบราซิเลียน ที่เหมือนจะทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่า การเตรียมทีมครั้งนี้ต้องเจออุปสรรคแน่ๆ เพราะต้นสังกัดไม่ยอมปล่อยตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดมาอยู่กับทีมได้

จะว่าไปเรื่องนี้ไม่มีใครผิดหรือถูกหรอกนะครับ ต้นสังกัดเองเป็นคนจ่ายเงินเดือน ก็ย่อมมีสิทธิ์เต็มที่ในการบริหารจัดการคิวนักเตะ ถ้าเกิดเดือดร้อนบาดเจ็บขึ้นมาต้องอดใช้งาน แถมต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาด้วย

ขณะที่ในมุมมองของทีมชาติเอง ก็ยอมได้นักเตะที่ดีที่สุดร่วมทัวร์นาเมนต์ เพราะนั่นย่อมหมายถึงหน้าตาของของประเทศ ไม่ว่ารายการเล็กใหญ่ เป้าหมายคือแชมป์ หรือไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ส่วนนักเตะเองเชื่อว่ามีใจให้ทีมชาติอยู่แล้ว แต่เมื่อภารกิจมันรัดตัวแบบนี้ ก็ต้องเกรงใจต้นสังกัดเป็นธรรมดา เรื่องแบบนี้ว่ากันไม่ได้ ต้องเข้าใจเหตุผลของทุกฝ่าย

แต่จนแล้วจนรอด ในที่สุด “กามา” ก็พยายามบริหารจัดการทีมให้ดีที่สุด จนจบทัวร์นาเมนต์ด้วยผลงานที่ไม่ขี้เหร่เลย หากเทียบกับอุปสรรคที่ต้องเจอก่อนหน้านี้ และก็ต้องยกนิ้วกับนักเตะรวมถึงทีมงานทุกคนด้วย ที่ฝ่าฟันช่วยกันเล่นจนถึงที่สุด

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากอุปสรรคที่เจอ หากจะมองในมุมกลับก็พอจะเห็นเรื่องดีอยู่บ้าง ที่นักเตะหลายคนได้รับโอกาสลงสนามเพื่อพิสูจน์ผลงาน ว่าตัวเองมีดีพอหรือไม่สำหรับทีมชาติ

ส่วนจะดีแค่ไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับ กามา และทีมงานแล้ว ว่าจะให้ใครได้ไปต่อ ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกที่เวียดนาม

เพราะเป้าหมายของทีมชุดนี้ มันใหญ่กว่าระดับอาเซียนมาก การให้นักเตะใหม่หรือต่ำกว่าเกณฑ์ได้เจอกับคู่แข่งที่อายุเหนือกว่า แรงกดดันจากแฟนบอล และอุปสรรคต่างๆ บนสนาม น่าจะช่วยให้แข้งยังบลัดชุดนี้เติบโตขึ้นได้ไม่มากก็น้อย.

-Lemon Juice-