หน้าแรกแกลเลอรี่

หัวใจไม่แพ้! ‘สิงห์ทองน้อย’ จากผู้ป่วยมะเร็งสู่นักสู้หัวใจแกร่ง

ไทยรัฐออนไลน์

17 ก.ย. 2561 19:00 น.

เปิดปูมชีวิตสุดมหัศจรรย์ของ "สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล" ที่ก้าวข้ามโรคมะเร็ง หันเหชีวิตจนได้รับโอกาสหวนคืนสู่สังเวียนอีกครั้ง ก่อนที่จะขึ้นโชว์ฝีมือในศึก ONE: KINGDOM OF HEROES...

วันที่ 17 ก.ย.61 สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล คือหนึ่งในตำนานนักสู้ที่ผ่านชีวิตยากลำบาก เด็กหนุ่มจากจังหวัดนครราชสีมา ถูกเลี้ยงดูจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน ทำงานรับจ้างหาเงินหล่อเลี้ยงชีวิตให้อยู่รอดไปได้แบบวันต่อวัน ทำให้เขาตัดสินใจเข้าสู่วงการกีฬาหมัดมวย ด้วยความหวังที่จะยกระดับฐานะครอบครัวให้ดีขึ้น

“พ่อแม่ผมทำงานหนักมาก ผมเลยออกไปหางานทำ ทำทุกอย่างเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัวด้วยการชกมวย ผมฝึกหนักทุกวันจนบางครั้งรู้สึกเหนื่อย ท้อแท้จนอยากจะเลิก แต่เมื่อคิดถึงว่าเรากำลังทำเพื่ออนาคตของตัวเราและคนที่เรารัก ผมจึงตัดสินใจว่าจะหยุดไม่ได้ ผมต้องทำให้พวกเขามีความสุข” 

สิงห์ทองน้อย พยายามฝึกฝนตนเองอย่างต่อเนื่อง ผลของการทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนัก และการขึ้นชกรายการต่างๆ ทำให้ชื่อของ สิงห์ทองน้อย กลายเป็นที่รู้จักในวงการหมัดมวย และได้รับการยอมรับจากแฟนมวยในประเทศไทย จากผลงานความสำเร็จที่จับต้องได้นั่นคือเข็มขัดแชมป์มวยลุมพินี ที่เหล่านักมวยทุกคนใฝ่ฝันครอบครอง

สิงห์ทองน้อย ผ่านสังเวียนการชกมวยตลอดอาชีพมาทั้งหมด 300 แมตช์ กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่แฟนมวยเมืองไทยยอมรับฝีไม้ลายมือ และเมื่อถึงจุดอิ่มตัว เขาก็ตัดสินใจแขวนนวมแล้วกลับไปใช้ชีวิตนอกสังเวียนด้วยการเป็นพ่อค้าขายนมแพะ อย่างไรก็ตาม Evolve MMA เล็งเห็นความสามารถที่ยอดเยี่ยมจึงชักชวนมาร่วมงานกัน 

แต่จนแล้ววันหนึ่ง เขาต้องเจอกับข่าวร้าย เมื่อถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งระยะที่สาม “ตอนที่คุณหมอบอกอาการผม ผมช็อกมาก ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองเป็นมะเร็ง และมีเนื้องอกออกมา 2 เซนติเมตรบริเวณจมูกของผม ยาวไปจนถึงต่อมน้ำเหลืองที่คอ ผมร้องไห้ เพราะรู้ตัวว่าต้องตายแน่นอน”

แม้การรักษาอันแสนทรมาน จะทำให้เพื่อนๆ และครอบครัวอยากให้เขากลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่เพราะใจรักในกีฬามวยไทยทำให้ สิงห์ทองน้อย อดทนเข้ารับการรักษาจนในที่สุดแพทย์ก็บอกข่าวดีที่สุดในชีวิต “ผมดีใจมาก มันทำให้ผมได้พบชีวิตใหม่ มองเห็นอนาคตของตัวเอง และครอบครัวได้ชัดขึ้นกว่าเดิม”

หลังหายป่วยจากมะเร็ง สิ่งหนึ่งที่ไม่หายไปด้วยกับการรักษาครั้งนั้นคือความรักในกีฬามวยไทย เขาจึงมุ่งหวังใช้ชีวิตที่สองที่ได้รับมาเป็นแรงผลักดันที่จะกลับมาฟิตร่างกายและขึ้นสังเวียนที่เขารักอีกครั้ง และหลังจากฝึกซ้อม เตรียมร่างกายมาเป็นอย่างดี ในที่สุดนักมวยไทยวัย 38 ปี ก็จะได้ขึ้นเวทีสมใจในรายการ ONE: KINGDOM OF HEROES ที่กรุงเทพฯ วันที่ 6 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะเจอกับคู่ต่อสู้อย่าง มาซาฮิเดะ คูโดะ จากญี่ปุ่น

“ผมเชื่อว่านักกีฬาศิลปะป้องกันตัวที่ดี ต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย พร้อมทำงานได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นหนักหรือเบา ขณะเดียวกัน ชีวิตการแข่งขันของผมตลอดอาชีพที่ผ่านมา ครอบครัวคือสิ่งที่คอยขับเคลื่อน และเป็นกำลังใจให้ผมมาตลอด ดังนั้นการทำทุกอย่าง เพื่อให้พวกเขามีความสุขคือเป้าหมายสำคัญที่สุดของผม ไฟต์นี้ผมจะสู้เพื่ออนาคตของตัวผมเอง วันที่ 6 ตุลาคมนี้ที่กรุงเทพฯ ผมจะทุ่มเททุกสิ่งและคว้าชัยชนะมาให้ได้”.