ไทยรัฐออนไลน์
เอเอฟซีส่งเทียบเชิญอดีตกองหน้าทีมชาติไทย พร้อมด้วย มิโลวาน ราเยวัช ร่วมพิธีจับสลากแบ่งสายเอเชียน คัพ 2019 ในเดือนพฤษภาคมนี้ ที่ยูเออี...
วันที่ 11 เม.ย.61 พิพัฒน์ ต้นกันยา อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทย ได้รับเกียรติจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ให้เป็นหนึ่งในสักขีพยาน การจับสลากแบ่งสายฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย หรือ เอเชียน คัพ 2019 ที่โรงแรมอาร์มานี นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้
สำหรับ พิพัฒน์ ถือเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ส่งให้ทางเอเอฟซีพิจารณาให้ได้รับเกียรติเป็นสักขีพยานในพิธีจับสลากครั้งนี้ ซึ่ง พิพัฒน์ ได้รับการจดจำจากผลงานอันโดดเด่นจากการทำคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ “ช้างศึก” ชนะโอมาน 2-0 ในเอเชียน คัพ 2007 และเป็นครั้งล่าสุดที่ฟุตบอลชายทีมชาติไทยได้ลงเล่นในรอบสุดท้ายของรายการแข่งขันระดับทวีป
ซึ่งอดีตกองหน้าวัย 39 ปี กล่าวว่า "ผมรู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยังคงนึกถึงตัวผมอยู่ แม้เราจะไม่ได้รับใช้ชาติมาเป็นระยะเวลานาน การได้รับเลือกครั้งนี้ก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และแสดงให้เห็นว่าทุกคนยังให้ความสำคัญในตัวเราอยู่"
"การได้เดินทางไปเป็นสักขีพยานครั้งนี้ มันทำให้ผมได้ย้อนไปถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย เมื่อปี 2007 ที่เราเป็นเจ้าภาพ โดยช่วงหลังจากนั้นฟุตบอลไทยก็ซบเซาลงไปถึง 12 ปี ตอนนี้เราก็ดีใจที่มีน้องๆ ที่มีฝีเท้าเป็นหนึ่งในระดับแนวหน้าของเอเชีย ผมเองก็รู้สึกตื่นเต้น แล้วด้วยศักยภาพของนักเตะและสมาคมฯ ทำให้เราได้ก้าวไปอยู่ในระดับเอเชีย มันทำให้เรารู้สึกภูมิใจมาก"
"การจับสลากครั้งนี้ผมเองก็หวังอยู่เหมือนกันว่าทีมชาติไทยจะไม่ได้อยู่ในสายที่แข็งเกินไป และสามารถผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้สำเร็จ ฟุตบอลรายการนี้ยิ่งใหญ่เป็นรองแค่รายการฟุตบอลโลกเท่านั้น ผมเชื่อว่าหากเราทำผลงานในการแข่งขันครั้งนี้ได้ดี มันน่าจะเป็นการต่อยอดไปสู่ฟุตบอลโลกครั้งต่อไป และจะทำให้ความฝันของเราเข้าใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น"
"สุดท้ายก็ฝากถึงน้องๆ นักฟุตบอลทีมชาติไทยในตอนนี้ ว่าขอให้ทำเต็มที่เสมอ และเชื่อฟังแท็กติกของโค้ชอย่าง มิโลวาน ราเยวัช เพราะเราต้องยอมรับว่าเขาคือโค้ชระดับโลก ผมเองก็รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ร่วมงานกับโค้ชอย่างเขา แต่จากที่ผมเห็นทางราเยวัชเองมีส่วนทำให้นักเตะหลายคนพัฒนาฝีเท้าขึ้นมา"
"การไปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการพิสูจน์ตัวเอง และเชื่อว่าสำหรับนักเตะไทยเองก็มีสิทธิ์ที่จะเก็บเกี่ยวอะไรมากมายจากการแข่งขันครั้งนี้ อย่างเช่นการสร้างโปรไฟล์เพื่อไปค้าแข้งต่างประเทศ เหมือนคนที่ไปก่อนหน้าอย่าง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา รวมถึง ธีราทร บุญมาทัน ก็อยากให้ทุกคนทำเต็มที่ เพื่อทีมชาติไทยของเราและตัวเอง"
นอกจากนี้ ทางเอเอฟซีจะพิจารณาจากอันดับบนฟีฟ่าแรงกิ้ง ที่จะทำการประกาศในวันที่ 12 เมษายนนี้ ซึ่ง มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย ก็ได้รับเชิญเป็นหนึ่งใน 24 โค้ชทีมชาติ ที่เข้ารอบสุดท้ายเอเชียน คัพ ให้เป็นสักขีพยานในการจับสลากด้วยเช่นกัน
สำหรับ 24 ชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ประกอบไปด้วย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กาตาร์, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ไทย, ซาอุดีอาระเบีย, ออสเตรเลีย, อุซเบกิสถาน, อิหร่าน, ซีเรีย, อิรัก, จีน, ปาเลสไตน์, โอมาน, อินเดีย, เลบานอน, เติร์กเมนิสถาน, จอร์แดน, บาห์เรน, เวียดนาม, คีร์กีซสถาน, เกาหลีเหนือ, ฟิลิปปินส์ และ เยเมน.