หน้าแรกแกลเลอรี่

สุพจน์ ชี้ฟอร์มดีต่อเนื่อง ช่วยให้ติดทัพ "ช้างศึก" ลุยคิงส์คัพ

ไทยรัฐออนไลน์

9 มี.ค. 2561 17:00 น.

"สุพจน์ จดจำ" กองหน้าทีมกระบี่ เอฟซี ชี้การทำผลงานยิงประตูอย่างต่อเนื่องจากการลงสนามให้ต้นสังกัดในซีซั่น 2017 และช่วยออกสตาร์ทฤดูกาล 2018 มีส่วนช่วยให้ตนเองมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดคิงส์ คัพ ครั้งที่ 46...

วันที่ 9 มี.ค.61 ภายหลังจากที่ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย ได้ประกาศรายชื่อ 23 นักเตะทีมชาติไทย ชุดลงแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 46 ออกมาเมื่อวานนี้ ซึ่งมีชื่อของ "เจ้าบอย" สุพจน์ จดจำ กองหน้าทีมกระบี่ เอฟซี สโมสรในศึกเอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ อยู่ในทีมชุดนี้ด้วย

โดย สุพจน์ จดจำ ได้กล่าวว่า "ดีใจมากที่มีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดคิงส์คัพ เพราะไม่คิดว่าเขาจะประกาศรายชื่อ 23 คนเลย แต่พอในชื่อก็ดีใจมากครับ เพราะฟุตบอลรายการนี้มีความสำคัญและได้เล่นในประเทศไทย ทำให้เราจะมีโอกาสแสดงฝีเท้าให้แฟนบอลไทยได้เห็นด้วยครับ"

"เมื่อก่อนเราเคยเห็น เคยเชียร์เพื่อน หรือนักเตะทีมชาติไทยในทีวี แต่หลังจากมีชื่อแล้วความรู้สึกมันพูดไม่ออกครับ เหมือนฝันเลยก็ว่าได้ แต่ว่าผมก็จะพยายามโฟกัสไปที่โอกาสลงสนามมากกว่าครับ"

"ผมคิดว่าการที่มีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดคิงส์คัพ เพราะว่าเป็นจังหวะต่อเนื่อง และฟอร์มการเล่นของเราตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว มาจนถึงฤดูกาลนี้ ซึ่งผมสามารถทำประตูได้ และได้มีโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง ทำให้มันต่อยอดมาถึงตรงนี้ได้ครับ"

"ส่วนการเบียดเป็น 11 ตัวจริงนั้น อย่างพี่ "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา เขาเป็นยอดกองหน้าของประเทศไทย และได้ไปเล่นในญี่ปุ่นด้วย ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะเบียดแย่งตัวจริงจากเขาได้ แต่ว่าผมพยายามโฟกัสไปที่โอกาสลงสนามมากกว่า เมื่อได้รับโอกาสลงสนามแล้วเราต้องทำให้เต็มที่ และสร้างผลงานให้ดีที่สุดครับ"

"เป้าหมายในการแข่งขันครั้งนี้คือการป้องกันแชมป์ให้ได้ ฝากถึงแฟนบอลชาวไทยนะครับให้ช่วยมากให้กำลังใจและส่งแรงใจให้นักเตะไทยเยอะๆ นะครับ ใครว่างก็มาเชียร์กันที่สนามครับ"

สำหรับการแข่งขันรอบแรกจะมีขึ้นวันที่ 22 มีนาคม 2561 คู่แรก ทีมชาติสโลวะเกีย พบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวลา 16.30 น. คู่ที่สอง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติกาบอง เวลา 19.30 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ทั้ง 2 คู่ ส่วนรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม 2561 เวลา 19.30 น. ขณะที่คู่ชิงอันดับ 3 จะแข่งขันในเวลา 16.30 น. โดยเกมทุกนัดจะถ่ายทอดสดทางช่องไทยรัฐทีวี, Youtube Thairath และ Facebook ThairathTV

ส่วนแฟนบอลชาวไทยสามารถซื้อตั๋วชมการแข่งขันได้ที่ ไทย ทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา มีให้เลือก 2 แบบ คือ แมตช์เดย์ บัตร 1 วัน ชมได้ 2 คู่ ราคา 100, 200, 300, 400 และ 500 บาท ส่วนบัตร แพ็กเกจ สามารถเข้าชมการแข่งขันได้ 2 วัน 4 คู่การแข่งขัน ราคา 170, 340, 510, 680 และ 850 บาท และติดการแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ในวันที่ 8 มีนาคมนี้