บี บางปะกง
ความฝันของ “บิ๊กแข้งเทพ”
นั่งดูถ่ายทอดสดทีมสโมสรจากไทยลงลุยฟุตบอลถ้วยเอเชีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ด้วยอารมณ์ที่ต่างกันสุดขั้วจริงๆครับ!
“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังไทยแลนด์ บุกไปเยือน โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ที่ญี่ปุ่น ด้วยความหวังเต็มเปี่ยม
เชื่อมั่นว่าเกมนี้ยังไงต้องมีแต้มกลับบ้าน เพราะ มารินอส อยู่ในช่วงฟอร์มดิ่ง ผลงานในเจลีกตกไปอยู่อันดับ 15 ของตาราง
ส่วนทีมเซราะกราว สมบูรณ์ฟูลออพชั่นทุกอย่าง ใช้นักเตะต่างชาติลงสนามอย่างเต็มที่ โดยมีแข้งไทยเป็นตัวจริงแค่ 3 คน
แถมวีกที่ผ่านมา ก็ขอเลื่อนคิวเตะในไทยลีกไป เพื่อให้ตัวเองพร้อมมากที่สุดสำหรับเกมนี้
คงหวังลึกๆว่าจะไปสอยเค้าคาบ้านให้ได้...ว่างั้นเถอะ !
ขนาด “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ยั่งมั่นอกมั่นใจเกินร้อย และเชื่อว่าเกมนี้ลูกทีมจะช่วยยกระดับบอลไทยให้เห็นกะตา
แต่ที่ไหนได้ พอลงสนามไปเล่นกันจริงๆ เจ้าถิ่น มารินอส ก็ทำให้เห็นเลยว่า
มาตรฐานเจลีก ยังไงก็เหนือกว่า ไทยลีก อยู่วันยังค่ำ
พวกเขารวมพลังขย้ำนักเตะจากถิ่นอีสานใต้ซะเละตุ้มเป๊ะ ขาดลอยถึง 5-0
ซึ่งจุดเปลี่ยนของเกมนี้ อยู่ที่การได้ใบแดงของ “เจ้าพี” ศศลักษณ์ ไหประโคน ในช่วงกลางครึ่งแรก
ทำให้บุรีรัมย์ ที่ฟอร์มการเล่นสู้เจ้าถิ่นไม่ได้อยู่แล้ว กลายเป็นเสียเปรียบบานเบอะ
จนโดนบุกทะลวงยิงไส้แตกและแพ้ยับเยินอย่างที่เห็นกัน
ส่งให้สถานการณ์ในถ้วยใหญ่เอเชีย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อิลิท ของแข้งเซรากราว ที่เดิมโอกาสเข้ารอบทำท่าจะสดใสอยู่แล้ว
กลายเป็นตึงเครียดขึ้นมาทันที เพราะหล่นไปอยู่ที่ 6 ของตาราง แถมลูกได้เสียก็ติดลบ 3 อีกต่างหาก
ต่างจากผลงานของ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ที่เล่นในบ้าน เป็นคู่ถัดมา
ซึ่งแม้จะโดนยอดทีมจากฮ่องกง ลีแมน เอฟซี ยิงขึ้นนำไปก่อน
แต่สุดท้ายพวกเขาก็มาไล่ตีเสมอ ก่อนจะรัวแซงชนะไปอย่างสะใจถึง 4-1
บวกเพิ่มเป็น 10 แต้ม จากการลงสนาม 4 นัดที่ผ่านมา
เป็นตัวแทนจากไทยลีกเพียงหนึ่งเดียว ที่ขึ้นไปนำบนหัวตาราง ACL อยู่ในห้วงเวลานี้
โดยต้องการอีกแค่หนึ่งคะแนนเท่านั้น ก็จะการันตีการผ่านเข้าไปเล่นรอบน็อคเอาท์แบบชัวร์ๆทันที
แถมทีมยังรับทรัพย์จาก เอเอฟซี อีกอื้อซ่า จากผลงานที่ผ่านมา ชนะ 3 เสมอ 1 ซึ่งต้องถือว่าไม่ธรรมดา
หนำซ้ำในศึกไทยลีก พวกเขาก็คว้าชัยมาแล้ว 4 นัดรวด จนผงาดแซงขึ้นไปยืนหนาวในตำแหน่ง “จ่าฝูง”มาได้ 2 วีกแล้วด้วย
ซึ่งแม้ บุรีรัมย์ จะยังมีโปรแกรมตกค้างอยู่อีกถึง 3 แมตช์
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องต้องซีเรียส เพราะเตะก่อน ชนะก่อน ขึ้นนำก่อน ยังไงก็รู้สึกดีต่อใจ
ส่วนบทสรุปสุดท้ายจะออกมาเป็นยังไง...ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต
ซึ่งกับฟอร์มที่ไฉไลไม่หวือหวา แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพเต็มถังของพลพรรคบียู ที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้
ทั้งหมดคงต้องยกเครดิตให้กับการทำทีมอย่างลงตัวของ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน
เพราะปีที่ผ่านมา ไม่ได้เสริมทัพผู้เล่นอะไรมากมาย เหมือนบิ๊กทีมอื่นๆ สักเท่าใด
ตัวต่างชาติ ก็แค่เติมบางตำแหน่งที่ขาดให้ครบโควตา
ส่วนตัวไทยแทบไม่ได้ดึงใครมาเพิ่มเลย มีแต่ดันดาวรุ่งให้ขึ้นมามีโอกาสในทีมชุดใหญ่บ้าง...ก็เท่านั้น
เรียกว่าถ้ามองถึงการตัวเลขลงทุนในซีซั่นนี้ แข้งเทพ ตกไปอยู่ที่ 4 เลยด้วยซ้ำ
สวนทางกับผลงาน ที่มาแรงแซงทางโค้ง และทำท่าจะ “เสถียร”ขึ้นเรื่อยๆในทุกถ้วยทุกรายการที่ลงแข่ง
สร้างความสุขสมหวังและแฮปปี้ให้กับคนเป็นประธานสโมสร อย่าง “บิ๊กขจร เจียรววนท์”
ที่คอยเป็นแบ็คอัพชั้นดี คอยดูแลซัพพอร์ตทุกองคาพยพของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
ขณะที่ บุรีรัมย์ ของ “บิ๊กเน” มีความฝันที่จะยกระดับทีมตัวเอง ให้ขึ้นไปเป็นยอดทีมของทวีปเอเชีย
ด้วยการใช้นักเตะต่างชาติระดับคุณภาพ ที่เงินเดือนแพงระยับ ลงเล่นเป็นตัวจริงเกือบยกทีม
แต่ฝันของ บิ๊กขจร ต่างออกไป
เพราะสิ่งที่นายใหญ่แข้งเทพ อยากเห็นเป็นที่สุด ตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำฟุตบอลอาชีพ
คือการที่สโมสรของเมืองไทย ใช้ทรัพยากรนักเตะไทยล้วนๆ บวกกับมันสมอง สองมือ ของโค้ชคนไทย (แท้)
ก้าวไปประสบความสำเร็จในเวทีอินเตอร์ให้ได้
นั่นแหละ...คือความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต...อย่างแท้จริง !!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com