หน้าแรกแกลเลอรี่

ถึงเวลาเฉิดฉาย!!

บี บางปะกง

12 มี.ค. 2567 06:00 น.

ถึงเวลาเฉิดฉาย!!

ไอ้ที่เค้าบอก “สงครามยังไม่จบ อย่างเพิ่งนับศพทหาร” ท่าจะจริงแฮะ! 
หลังฟุตบอลไทยลีก สุดสัปดาห์สุดท้าย ก่อนเข้าสู่ “ฟีฟ่าเดย์” เกมคัดบอลโลก ของทีมชาติไทย 
จบลงไป ด้วยอาการแต้มสะดุด ของจ่าฝูง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 
ที่โดนเจ้าถิ่น ชลบุรี เอฟซี ตามตีเสมอในช่วงท้ายเกม 1-1 เก็บเพิ่มได้แค่คะแนนเดียวเท่านั้น 
ทำให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์เวลานี้ยังไม่มีอะไรแน่นอนซะแล้ว 
จากที่หลายคนเคยมองว่า แข้งเซราะกราว คงแบเบอร์ หลังแซงเอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ เมื่ออาทิตย์ก่อน 
แต่ที่ไหนได้ พลพรรคแข้งเทพ กลับฟื้นขึ้นมาหน้าตาเฉย จากการบุกไปเชือดชัยเหนือ สิงห์ เชียงราย 1-0 เมื่อวันเสาร์
ยึดตำแหน่งรองจ่าฝูงคืนมาได้สำเร็จ เพราะ การท่าเรือ หวิดเสียท่าคาบ้านให้ อุทัยธานี เอฟซี 
ดีที่มายิงสองประตูรวด ตามตีเสมอแบบหืดจับ 3-3 ทำให้ต้องหล่นไปอยู่ที่ 3 ตามระเบียบ
เท่านั้นยังไม่พอ ผลแข่งขันวันถัดมายังเป็นใจให้ บียู อีก เมื่อทีมปราสาทสายฟ้าเก็บชัยไม่สำเร็จ 
รอยห่างระหว่างแต้มจึงถูกลดทอนลงเหลือแค่ 4 คะแนน และ แข้งเทพ ยังเตะน้อยกว่าอีก 1 แมตช์ 
ถ้าเก็บชัยชนะได้ นั่นหมายถึง จ่าฝูง กับ รองจ่าฝูง จะต่างกันแค่แต้มเดียวทันที 
ทีนี้ล่ะอะไรก็เกิดขึ้นได้...กับอีก 9 เกมที่เหลือของฤดูกาลนี้ ซึ่งน่าจะบดบี้กันมันหยดติ๋ง...เลยทีเดียว 
ส่วนอีกทีมที่ต้องจับตา เพราะทรงบอลฟื้นขึ้นมาดูดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเลกสอง 
สำหรับขุนพลกิเลนผยอง เมืองทอง ยูไนเต็ด 
ที่เริ่มต้นเลกหลังด้วยการปราชัย 2 แมตช์รวด ต่อ 2 ทีมหัวตาราง ทรู แบงค็อกฯ และ สิงห์เจ้าท่า จนหล่นไปอยู่ใกล้โซนตกชั้น 
ก่อนจะพลิกสถานการณ์กลับมาเก็บ 10 แต้มจาก 4 นัดอย่างยอดเยี่ยม จนปีนขึ้นมารั้งที่ 7 ของตาราง
โดยเฉพาะแมตช์ล่าสุดที่เพิ่งเปิดธันเดอร์โดม สเตเดียม ถล่มเอาชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ขาดลอย 4-0 
ฉลองวันคล้ายวันเกิด เบิร์ธเดย์ ย้อนหลังให้กับท่านประธานใหญ่ ระวิ โหลทอง 
ได้แฮปปี้ มีความสุข ไปพร้อมๆ สาวกกิเลนผยอง โดยถ้วนหน้า 
ซึ่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ คงเป็นของใครไปไม่ได้ 
นอกจาก “ฟร้องซ์” ปรเมศย์ อาจวิไล หัวหอกวัยเบญจเพส ตัวกลั่น
ที่ระเบิดแฮตทริก ยิงคนเดียว 3 ลูกเป็นครั้งแรกในศึกไทยลีกได้อย่างสวยงดงาม ใส่ทีมจงอางอีสาน 
ถือเป็นการฉลอง การคัมแบ็กกลับมามีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่อีกครั้ง 
ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม ซี
ที่ทีมช้างศึก จะบู๊แข้งกับนักเตะพลังโสม เกาหลีใต้ ในวันที่ 21 และ 26 มีนาคม นี้ อย่างพอเหมาะ พอเจาะ 
โดย ปรเมศย์ เป็นหนึ่งในสองแข้งกิเลน นอกจาก เจริญศักดิ์ วงศ์กร ที่กุนซือ มาซาทาดะ อิชิอิ เรียกมาเป็นอาวุธในทีมชาติชุดนี้    
ซึ่งความจริง “เจ้าฟร้องซ์” เป็นตัวเลือกแรกๆ ในแนวรุกของทีมช้างศึกมาตั้งแต่ยุค มาโน โพลกิง แล้วล่ะ 
แต่เจ้าตัวโชคไม่ดีโดนอาการเจ็บเล่นงานมาตั้งแต่ปีที่แล้ว กว่าจะมาสมบูรณ์เต็มที่ก็ปาเข้าไปในช่วงเลกสอง 
ยังดีที่ความคมกริบในจังหวะสุดท้ายไม่ได้หายไปไหน  
พอร่างกายกลับมาแข็งแกร่ง ก็ดูท่าจะน่ากลัวขึ้นกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ
นี่คือศูนย์หน้าสไตล์เดียวกับ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่เมืองทอง ปั้นขึ้นมาเองจากทีมเยาวชน 
ถ้าใครจำได้ครั้งนึง “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เคยบอกไว้ว่า... 
ถ้าให้เขาเลือกปั้นดาวยิงรุ่นใหม่ของเมืองไทยสักคน 
เค้าคนนั้นต้องเป็น “เจ้าฟร้องซ์” ปรเมศย์ คนนี้ อย่างไม่ต้องสงสัย 
เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วนของการเป็นยอดดาวยิงชั้นดี 
ตั้งแต่ คาแรกเตอร์ รูปร่าง สัญชาตญาณ และความสามารถ ในการซัลโวประตู  
ที่สามารถพัฒนาให้เก่งขึ้นไปได้อีกในวันข้างหน้า  
ที่ผ่านมา ปรเมศย์ เคยถูกดูแคลน ว่าเป็นนักเตะจำพวกดาวรุ่งตลอดกาล ทำท่าเหมือนจะไปได้ดี แต่ไปไม่ค่อยสุด  
จนมาถึงวันนี้ วันที่เจ้าตัวกำลังจะได้รับโอกาสอีกครั้งในทีมชาติชุดใหญ่ กับภารกิจคัดบอลโลก 
เชื่อว่าสายตาของโค้ชอิชิอิ คงไม่ต่างอะไรจากที่ “เดอะตุ๊ก” เคยมองเห็นมานานแล้ว 
จะก้าวขึ้นเป็น “ซุปเปอร์สตาร์” ดาวดวงใหม่ อย่างเต็มตัว ในทีมช้างศึก 
ต้องเฉิดฉายให้ได้ หากได้รับโอกาสให้ลงไปทำหน้าที่ในสนาม 
แฟนบอลทุกคนเอาใจช่วย “ฟร้องซ์” เต็มที่...อยู่แล้วครับ!!!   

- บี บางปะกง - 
      joggingboy_be@yahoo.com