มีของแถม

ทำเอาอึ้งไปเหมือนกัน เมื่อที่ประชุมการหารือเรื่องของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกฤดูกาลใหม่ ปี 2023/ 24 ระหว่างสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ บ.ไทยลีกจำกัด และสโมสรสมาชิก ซึ่งหลายสโมสรบิ๊กสูงสุดผู้มีอำนาจเต็มมาเอง อาทิ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม, นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ และ มิติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรลีโอ เชียงราย

แต่ส่วนของสมาคมนั้น “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เฮดสูงสุดไม่ได้เข้าประชุม มี “เลขาฯโจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคม เป็นตัวแทน และ “บิ๊กแชมป์” กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการซีอีโอบริษัท ไทยลีก จำกัด นั่งหัวโต๊ะ

ที่ว่าอึ้งนั้นไม่ใช่เรื่องคน แต่เป็นข้อมูลที่เปิดในที่ประชุม มีบริษัทหนึ่งยื่นประมูลลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยแบบครบวงจรแค่ 50 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น ทั้งๆที่ปัจจุบันดูเหมือนจะมีตัวเลขอยู่ที่ราวๆปีละ 300 ล้านบาท ทำให้เกิดข้อเสนอให้ 16 ทีมในไทยลีกจะออกมาตั้งบริษัทใหม่เพื่อดูแลสิทธิประโยชน์ด้วยตัวเอง

นั่นชี้ชัดได้ว่า ลิขสิทธิ์มีปัญหา ไม่ได้มีราคาค่างวดเหมือนอดีต จะเป็นด้วยเหตุผลใด หรือหลายๆเหตุผลรวมกันก็ตาม แต่นั่นคือความตกต่ำที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ภายใต้การบริหารจัดการของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และบริษัท ไทยลีกฯ รวมถึงกลไกที่เลือกใช้ในยุคปัจจุบัน

เรื่องเงินๆทองๆของเดิม ที่ยังคั่งค้าง ติดค้าง กับสโมสรสมาชิกต่างๆ ยังไม่รู้ว่าจะเคลียร์กันได้จบเรียบร้อยหรือไม่อย่างไร และภายในเวลาใด หวังน้ำบ่อหน้าได้เม็ดเงินเข้ามาช่วย ก็ดูจะเหือดแห้งกว่าเดิมเสียอีก

เมื่ออนาคตเกิดปัญหาขึ้นอีกเช่นนี้ และดูจะมีทิศทางที่ชี้ชัดต่ำลง ไทยลีก 1 จะรวมทีมตั้งบริษัทกันเอง แล้วไทยลีก 2 กับไทยลีก 3 ที่ได้รับเงินสนับสนุนต่ำเตี้ยอยู่ทุกวันนี้จะเป็นอย่างไร

บอลลีกไทยจะเปิดฤดูกาลใหม่ในเดือน ส.ค.นี้ ต้องกังวลกันไหม อนาคตจะเป็นเช่นไร!!!

นี่ถือเป็นภารกิจส่งท้ายของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯชุดปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระในเดือน ก.พ.ปีหน้า ส่วนจะคาราคาซังต่อเนื่องไปถึงชุดใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้จะเป็นชุดเก่าหรือจะมีทีมใหม่เข้ามาเบียดก็ตาม

เรื่องของลิขสิทธิ์ การหาเงินเข้ามา ทั้งจากปัญหาเดิมและอุปสรรคใหม่ๆยังจะต้องเป็นภารกิจอันสำคัญ ที่หนักหนาสาหัสยิ่ง ต่อเนื่องไปอย่างแน่นอน นี่จึงเป็นโจทก์ข้อใหญ่ที่ใครจะมาจะไป จะต้องขบคิดและพิจารณาว่าอยากเข้ามา หรือดำรงอยู่ หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ใช่จะมีแต่เรื่องหนักสำหรับใครที่คิดจะเข้ามาเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯคนต่อไป ยังมีโบนัสเป็นของแถมรอไว้ กับการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมใหญ่ประจำปี หรือ FIFA Congress 2024 ในวันที่ 17 พ.ค.2567

งานนี้ถือเป็นงานใหญ่ยักษ์ที่มีประธานฟีฟ่า พร้อมด้วยซุปเปอร์สตาร์นักเตะโลก และผู้แทน 211 ประเทศ รวมหลายพันคนเข้าร่วมงาน ซึ่งแน่นอน แม้งบประมาณส่วนใหญ่ฟีฟ่าหามาเอง เราอำนวยความสะดวก แต่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯของไทย ย่อมต้องมีบทบาทในฐานะเจ้าภาพ ได้โชว์หน้าโชว์ตาเป็นเกียรติอย่างยิ่งในโลกแห่งฟุตบอล

เรียกว่าเป็นของแถมอันล้ำค่าที่หาโอกาสได้ยากเต็มทน ของผู้ที่จะเข้ามานั่งตำแหน่งประมุขลูกหนังไทยคนใหม่

แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีเงื่อนไข หรือระเบียบข้อใดเปิดช่องให้ไปเลือกตั้งกันหลังจัดประชุมได้หรือไม่

ของอย่างนี้อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ต้องรอดูกันต่อไป...

“เบี้ยหงาย”