"น้าฉ่วย" กุนซือจอมเก๋า ฉุนจัด ไม่มีชื่อเรียน "โปรไลเซนส์" ทั้งที่สมัครไปแล้ว

"น้าฉ่วย" กุนซือจอมเก๋า ฉุนจัด จวกส. บอลไทยยับ หลังไม่มีชื่อเรียน "โปรไลเซนส์" ทั้งที่สมัครไปแล้ว

วันที่ 24 พ.ค. 66 "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือจอมเก๋า วัย 69 ปี รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของการเรียนโค้ชในระดับ “โปรไลเซนต์” ที่กำลังจะเปิดคอร์สในเร็วๆ นี้ หลังไม่มีชื่อเรียน ทั้งๆ ที่สมัครไปแล้ว

โค้ชฉ่วย ตัดสินใจยื่นสมัครเข้าเรียนด้วย โดยใช้ทุนส่วนตัว ซึ่งค่าเรียนประมาณ 500,000 บาท จำเป็นต้องเรียน เพราะต้องการที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กำหนด เกี่ยวกับโค้ชไทยลีกจะต้องมีโปรไลเซนส์ แต่สุดท้ายก็ไม่มีชื่อเข้าคอร์สเรียน พยายามสอบถามไปกับเจ้าหน้าที่ต่างๆ ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าเพราะอะไร

โค้ชฉ่วย กล่าวว่า "ผมพยายามทำตามกฎ โค้ชที่คุมข้างสนาม ต้องมีโปรไลเซนส์ ผมก็จะไปเรียน ใช้เงินส่วนตัว แต่ก็ไม่มีชื่อเรียน ผมถามว่าเพราะอะไร ก็ไม่มีใครตอบผมได้ ผมว่าเรื่องการเลือกโค้ชที่ไปเรียน ซี / บี / เอ หรือโปรไลเซนส์ ก็คงจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคนกลุ่มนึง บางคนไม่มีโปรไฟล์มาเลย แต่ได้ไปเรียน ไหนจะต่างชาติอีก ก็ต้องบอกว่ากลุ่มผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจในการเลือก เลือกแต่พรรคพวกตัวเองหรือเปล่า"

"ปัญหามันน่าจะอยู่ใต้พรม ยังไม่มีใครสะบัดให้สังคมได้รับรู้ ส.บอล ไม่สามารถจัดการเรียนด้วยการหาสปอนเซอร์มาได้ ก็ต้องมีค่าสมัคร สมัยก่อนมีเรียนไลเซนส์ แต่ไม่เสียเงินเยอะอะไรขนาดนี้ โอเคครั้งนี้ต้องเสียเงินเยอะ ผมก็อยากจะเรียนเพื่อให้ได้ตามหลักการของ ส.บอล แต่บางทีก็เสียความรู้สึกเหมือนกัน"

"คนได้เรียน กับคนที่ไม่มีชื่อ กระบวนการคัดเลือก เอาอะไรมาตัดสินว่าใครจะได้ หรือไม่ได้ ต่างชาติที่มาทับกับโค้ชคนไทย ทำไมถึงให้สิทธิ์โค้ชต่างชาติมาก่อนคนไทย แล้วโค้ชที่เขาทำฟุตบอลอาชีพในปัจจุบัน เขาจะเอาไลเซนส์จากไหนมาประกอบวิชาชีพ ถ้าไม่มีชื่อเรียน จริงๆ ก็น่าจะให้สิทธิ์กับโค้ชที่ทำลีกอาชีพก่อน โค้ชบางคนไม่เคยทำฟุตบอลระดับไทยลีก หรือลีกอื่นๆ มาเลย แต่มีชื่อ ถ้าถามถึงเรื่องอายุ อายุเยอะเกี่ยวไหม แล้วทุกวันนี้ผมอายุเยอะ ก็ยังมีสโมสรเขาจ้างทำทีม ทำอยู่ตลอด พาทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ไทยลีก 2 พาทีมขึ้นไทยลีกมาก็เยอะ ผลงานทุกคนเห็นอยู่แล้ว ถ้าผมอายุเยอะแล้วไม่มีใครจ้างก็ว่าไปอย่าง"