ไทยรัฐออนไลน์
ชมคลิปแอสซิสต์แรกในไทยลีกของ เจ้าชายบรูไน ซึ่งไม่ภูมิใจกับฉายาแข้งรวยสุดในโลก เผยค่าเหนื่อยน้อยกว่านักเตะไทยบางคนใน ชลบุรี เอฟซี
วันที่ 19 ม.ค. 65 เฟซบุ๊กแฟนเพจ TOYOTA Spirit of Football เผยบทสัมภาษณ์และเรื่องราวของ ฟาอิก เจฟรี โบลเกียห์ หลานชายของสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ หรือประมุขของประเทศบรูไนคนปัจจุบัน ซึ่งมีการเปิดเผยว่าเขามีทรัพย์สินส่วนตัวมากมาย คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 15,000 ล้านยูโร (ประมาณ 6 แสนล้านบาท) จนได้รับการขนานนามว่าเป็นนักเตะที่รวยที่สุดในโลก
ฟาอิก เจฟรี โบลเกียห์ เพิ่งทำแอสซิสต์แรกในการค้าแข้งในศึกไทยลีก 1 (รีโว่ ไทยลีก) ให้กับ ชลบุรี เอฟซี ในเกมล่าสุดที่ออกไปแพ้ หนองบัว พิชญ เอฟซี 2-3 เมื่อวันเสาร์ที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา จากการลงสนามเพียงแค่นัดที่ 2 ในประเทศไทย ซึ่งทั้ง 2 นัดเจ้าตัวลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง
อย่างไรก็ตาม ดาวเตะทีมชาติบรูไน วัย 23 ปี รายนี้ กลับไม่รู้สึกภูมิใจกับฉายา "แข้งรวยสุดในโลก" ที่สื่อมวลชนมอบให้ ซึ่งเขายืนยันว่าอยากให้ทุกคนมองที่ผลงานในสนามของเขามากกว่า ส่วนเรื่องราวในชีวิตค้าแข้งของ ฟาอิก เจฟรี โบลเกียห์ ที่ไม่ง่ายเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบในเพจ TOYOTA Spirit of Football มีดังนี้
"ฟาอิค โบลเกียห์ เกิดที่สหรัฐอเมริกา ก่อนย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ และเริ่มเป็นนักเตะเยาวชนกับ เซาแธมป์ตัน จากนั้นไปทดสอบฝีเท้ากับ เชลซี และ อาร์เซนอล ก่อนได้สัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ เลสเตอร์ ซิตี้ และได้ลงเล่นให้ทีมยู-19 ไป 5 นัด ก่อนขึ้นไปยู-23 แต่ก็ไม่ได้ลงสนามแม้แต่นัดเดียว"
"ปี 2020 เขาย้ายไปร่วมทีม มาริติโม ชุดใหญ่ ในลีกโปรตุเกส ก่อนที่กลางปี 2021 จะถูกส่งลงไปเล่นทีม B และย้ายมาร่วมทีม ชลบุรี เอฟซี ในเลกสอง ศึกรีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2021-22"
"เบื้องหลังดีลนี้ เขาได้คุยกับ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ โดยตรง และมีเงื่อนไขว่าจะมาเล่นเพื่อพิสูจน์ตัวเองบนเส้นทางลูกหนังเท่านั้น โดยค่าเหนื่อยของเขาน้อยกว่านักเตะไทยบางคนในทีม ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ราว 1 แสนบาท หรือต่ำกว่านั้น"
"ส่วนความเป็นอยู่ในทีม "ฟาอิค โบลเกียห์" ใช้ชีวิตไม่ต่างจากนักฟุตบอลทั่วไป โดยพักในที่ที่สโมสรจัดให้ และฝึกซ้อมเหมือนเพื่อนร่วมทีม และหากเขาถือของแบรนด์เนมมาที่สนามซ้อม "โค้ชเตี้ย" จะเตือนว่าอาจดูไม่ค่อยดี เพราะจะเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะแก่ดาวรุ่งในทีม"
"เขาไม่ขอให้สัมภาษณ์หรือพูดถึงครอบครัวของเขาแม้แต่น้อย เพราะต้องการโฟกัสที่การฝึกซ้อมในสนาม และลงแข่งขันเท่านั้น และดูจะไม่ค่อยชอบใจกับคำจำกัดความที่ว่าเขาเป็น "นักเตะรวยที่สุดในโลก" ซึ่งเขาหวังพิสูจน์ตัวเองในฐานะนักฟุตบอลอาชีพให้ได้ เพราะเขารู้ดีว่าการเป็นลูกคนรวยก็ประสบความสำเร็จไม่ได้ ถ้าไม่มีเป้าหมาย และความตั้งใจในการลงมือทำให้เกิดขึ้นจริง"
*ขอบคุณภาพจาก Facebook : Chonburi Football Club