ไทยรัฐออนไลน์
ผู้จัดการทีมชลบุรี โพสต์ข้อความพร้อมผลตรวจของนักเตะในทีมหลังโดน แข้ง หนองบัว พิชญ ชักศอกใส่ที่คอแต่กลับไร้ใบแดงจากเหตุการณ์นี้
วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2565 ความเคลื่อนไหวหลังจบเกมรีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2021-22 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในคู่ที่น่าสนใจ คือเกมที่ “พญาไก่ชน” หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 3-2 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
ไฮไลต์ที่น่าสนใจ คือในนาทีที่ 82 ซึ่ง ฉัตรชัย เจียกกลาง ผู้เล่นตัวสำรองของเจ้าถิ่น แจกศอกเข้าเต็มๆ หน้า ชิษณุพงษ์ โชติ ดาวรุ่งของทีมชลบุรี เอฟซี จนเกือบมีเรื่องราวบานปลาย แต่หลังจากเหตุการณ์สงบลง ปรากฏว่าผู้ตัดสิน วินัต โพธิ์พัฒน์ กลับแจกเพียงแค่ใบเหลือง เพื่อเป็นการตักเตือนคู่กรณีเท่านั้น ขณะที่สัญญาณจากห้อง VAR ก็ไม่มีการแจ้งเตือนให้เป็นจังหวะใบแดงแต่อย่างใด
โดยล่าสุด “บิ๊กบอล” ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีมชลบุรี ได้ออกมาโพสต์ผลการตรวจจากแพทย์ของ ชิษณุพงษ์ โชติ ซึ่ง แพทย์ได้ระบุว่า เส้นเสียงและฝาปิดกล่องเสียงบวม จากการถูกชักศอกใส่
ซึ่งทาง "บิ๊กบอล" ได้โพสต์ภาพผลตรวจ พร้อมข้อความว่า "ใครที่เห็นภาพนี้ละรู้จักกับ ผู้ตัดสินในสนามและผู้ตัดสินในห้อง VAR. ที่บอกผมว่า ไม่โดน หรือ ไม่รุนแรง กับอีกคนบอกว่าไม่เห็น งั้น เอารูปนี้ไปให้พวก ผู้ตัดสินชุดนี้ คู่นี้ดูที ขอบคุณ"
ขณะเดียวกัน ฉัตรชัย เจียกกลาง คู่กรณีที่เป็นผู้ชักศอกใส่ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาขอโทษกับทุกฝ่ายที่ทำให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้อีกทั้งยังยืนยันว่า เป็นเพียงอารมณ์ในเกมเท่านั้น แท้จริงแล้วเจ้าตัวไม่ได้มีนิสัยชอบทำร้ายเพื่อนร่วมอาชีพอย่างแน่นอนและจะแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก
"สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ตัวผมเองต้องขอกล่าวคำว่าขอโทษแก่นักฟุตบอลทีมชลบุรี เอฟซี แฟนบอลชลบุรี สโมสรชลบุรี เอฟซี และขอโทษแฟนบอลหนองบัว สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของสโมสร อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน ผมขอยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอารมณ์ร่วมในเกมการแข่งขันเท่านั้น ตัวผมเองไม่ได้มีนิสัยที่ชอบทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมอาชีพแต่อย่างใด เวลาแค่เสี้ยววินาทีในการตัดสินใจ และผมยอมรับตรงๆว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากๆที่ได้กระทำแบบนั้นไป แต่พอเหตุการณ์ตรงนั้นจบลง ต่างฝ่ายต่างก็ได้เข้าไปขอโทษซึ่งกันและกัน จับมือกัน ผิดพลาดประการใดผมต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ส่วนตัวผมเองก็จะใช้ประสบการณ์ตรงนี้ปรับปรุงและแก้ไขเรื่องอารมณ์และการตัดสินใจให้ดีขึ้นกว่านี้ครับขอโทษและขอบคุณครับ"