จ๊อกกิ้งบอย
รอบแบ่งกลุ่มของ ศึกฟุตบอลสโมสรเอเชีย “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2021” จบลงไปเรียบร้อยแล้วล่ะครับ!!
ผลงานของ 4 ทีมตัวแทนประเทศไทย มีเพียงทีมเดียวที่รอดสันดอนผ่านเข้าไปลุ้นต่อในเกม “น็อกเอาต์” รอบ 16 ทีมสุดท้าย คือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีกป้ายแดง
ส่วนที่เหลือ คือ สิงห์ เชียงราย, การท่าเรือ เอฟซี และ ราชบุรี มิตรผล จับมือกันตกรอบเรียบวุธ ด้วยผลงานที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
กลุ่มเอฟ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี แพ้โปฮัง สตีลเลอร์ส (เกาหลีใต้) 0-2, แพ้ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม (มาเลเซีย) 0-1, แพ้นาโงยา แกรมปัส (ญี่ปุ่น) 0-4, แพ้นาโงยาฯ 0-3, เสมอโปฮังฯ 0-0 และเสมอ ยะโฮร์ฯ 0-0
จบ 6 นัด ด้วยการมีเพียง 2 แต้ม รั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม โดยยิงประตูไม่ได้เลย แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่ากับการมาบู๊ถ้วยเอเชียเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
ขณะเดียวกัน “เจ้าไอซ์” กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล นายทวารด่านสุดท้ายของทีมราชันมังกร ก็ยังสร้างเซอร์ไพรส์ ด้วยการ เป็นแข้งไทยเพียงหนึ่งเดียว ที่ถูกเลือกให้ติดโผ 11 นักเตะทีมยอดเยี่ยม ACL 2021 รอบแบ่งกลุ่ม โซนตะวันออก อีกด้วย หลังเจ้าตัวโชว์ฟอร์มเซฟอุตลุดในทุกเกมที่ลงสนาม
กลุ่มเอช สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แพ้ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส (เกาหลีใต้) 1-2, ชนะแทมปิเนส โรเวอร์ (สิงคโปร์) 1-0, เสมอกัมบะ โอซากา (ญี่ปุ่น) 1-1, เสมอ กัมบะฯ 1-1, แพ้ ชุนบุคฯ 1-3 และชนะแทมปิเนสฯ 3-0
มี 8 แต้ม จาก 6 นัด ยิงได้ 8 เสีย 7 จบอันดับ 3 ของกลุ่ม ตกรอบก็จริง แต่ได้รับเสียงปรบมือจากแฟนบอลอย่างเกรียวกราว เพราะขุนพล “กว่างโซ้ง” เล่นทุกนัดได้อย่างสมศักดิ์ศรี ทั้งที่เป็นทีมเดียวที่ต้องออกนอกบ้านไปทำศึกไกลถึงอุซเบ-กิสถาน
ขณะที่กลุ่มเจ การท่าเรือ เอฟซี แพ้คิตฉี (ฮ่องกง) 0-2, ชนะกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ (จีน) 3-0, เสมอเซเรโซ โอซากา (ญี่ปุ่น) 1-1, แพ้เซเรโซฯ 0-3, เสมอคิตฉี 1-1 และชนะกว่างโจวฯ 5-1
เก็บไปได้ 8 แต้มเช่นเดียวกับเชียงราย แต่ฟีดแบ็กที่ออกมาต่างกัน เพราะดูคู่ต่อสู้ของ “สิงห์เจ้าท่า” แล้ว พวกเขาน่าจะสร้างผลงานลุ้นเข้ารอบได้มากกว่านี้
โดยเฉพาะการเจอกับสโมสรฮ่องกง ถ้าเราเก็บได้ 6 คะแนนป่านนี้ก็สบายไปแล้ว แต่นี่ดันเก็บได้แค่แต้มเดียว นับเป็นผลงานที่น่าผิดหวังที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ จะต้องกลับไปประเมินทีมตัวเองโดยด่วน...ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
ส่วนที่เป็นไปตามเป้าและคุ้มค่ากับการลงทุนที่สุด ก็ต้องเป็น “เดอะ แรบบิต” บีจี ปทุม
ที่ลงเล่นในกลุ่มเอฟ ชนะคายา เอฟซี (ฟิลิปปินส์) 4-1, แพ้อุนซาน ฮุนได (เกาหลีใต้) 0-2, ชนะเวียตเทล (เวียดนาม) 2-0, ชนะเวียตเทล 3-1, ชนะคายา 1-0 และแพ้อุลซานฯ 0-2
จบรองแชมป์กลุ่ม โดยมี 12 คะแนนผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์โซนตะวันออกไปพบกับยอดทีมเคลีก ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส แชมป์กลุ่มเอช ที่เอาชนะกว่างโซ้งฯ ในรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 2 นัด
ต้องถือเป็นงานหินของแข้ง “กระต่ายแก้ว” โดยแท้ เพราะรอบนี้จะเตะแบบโป้งเดียวจอด แมตช์เดียวรู้เรื่องไปเลยในช่วงกลางเดือน ก.ย.
อย่างไรก็ตาม การหลุดเข้ามาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างนี้ จงภูมิใจเถิดว่าเราคือสโมสรหนึ่งเดียวจากอาเซียน
เพราะที่เหลือในฝั่งนี้อีก 7 ทีม ล้วนมาจากเคลีก เกาหลี และเจลีก ญี่ปุ่น ทั้งสิ้น
ซึ่งนอกจากชุนบุคที่ต้องเจอกับบีจีแล้ว ผลการประกบคู่อื่นๆ ประกอบด้วย นาโงยา แกรมปัส (ญี่ปุ่น) พบแดกู เอฟซี (เกาหลีใต้), เซเรโซ โอซากา (ญี่ปุ่น) พบโปฮัง สตีลเลอร์ส (เกาหลีใต้) และ อุลซาน ฮุนได (เกาหลีใต้) “แชมป์เก่า” พบคาวาซากิ ฟรอนตาเล (ญี่ปุ่น)
เรียกว่างานนี้เป็น “กระต่าย” ในฝูง เสือ สิงห์ ก็คงไม่ผิดนัก
ส่วนพอถึงเวลาจริง บีจีจะเอาตัวรอดจากคมเขี้ยวของคู่ต่อสู้ได้หรือเปล่า?
คงต้องตามลุ้นกัน...อีกสักเฮือก!!!
จ๊อกกิ้งบอย