สนามเด็กเล่น

เตะต่อเนื่อง “นันสต็อป” กันไปเลยสำหรับฟุตบอลไทยลีก ซีซัน 2020–21 ซึ่งเมื่อวันวาเลนไทน์ อาทิตย์ที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ครบรอบ 1 ปีเต็ม ของฤดูกาลอันแสนยาวนานไปเรียบร้อยแล้ว

โดยแมตช์กลางสัปดาห์ “นัดที่ 20” จะไม่มีการถ่ายทอดสดทาง “ฟรีทีวี” เนื่องจากทางช่องหลัก อย่าง NBT2HD (สทท.11 เดิม) ติดภารกิจถ่ายทอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจของสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ต้องโยกโปรแกรมหลายคู่ไปยิงสดผ่านทางเฟซบุ๊กสโมสร

ไฮไลต์ของเกม “มิดวีก” ศึกไทยลีกสัปดาห์นี้ หนีไม่พ้นบิ๊กแมตช์ระหว่างจ่าฝูงผู้ไม่เคยแพ้ใคร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 2ที่มีแต้มตามหลัง “เดอะ แรบบิต” อยู่ถึง 13 คะแนน

ว่ากันว่าเกมนี้ถ้าการท่าเรือบุกไปล้างแค้นเก็บ 3 แต้มจากบีจีไม่สำเร็จ!! นั่นหมายถึงถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แทบจะเอาไปตั้งรอฉลองล่วงหน้าไว้ที่ลีโอ สเตเดียม กันได้เลย

อีกเกมกลางสัปดาห์ที่น่าสนใจ อยู่ที่สมุทรปราการ สเตเดียม ซึ่งขุนพล “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้ จะกลับมาปักหลักในถิ่นตัวเอง รับการมาเยือนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

ทั้งสองทีมทำบอลในสเปกเดียวกันคือใช้ผู้เล่น “ดาวรุ่ง” ขึ้นมาเป็นแกนหลัก แต่ผลงานในไทยลีกที่กลับมารีสตาร์ตกันเที่ยวนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

สมุทรปราการของกุนซือ “มาซาทาดะ อิชิอิ” ฟอร์มเปรี้ยงปร้างเหลือเกินก่อนช่วงปีใหม่ แต่พอมาเจอเบรกโควิดเท่านั้นแหละ ทำเอาเครื่อง “สะดุด” แพ้ติดกันมาแล้ว 3 นัดอย่างเหลือเชื่อ เพิ่งจะกลับมาเก็บสามแต้มได้ในเกมสุดสัปดาห์ที่บุกไปเชือดชัยทีมบ๊วย ระยอง เอฟซี

ตรงกันข้ามกับ “กิเลนผยอง” ที่ผลงานเข้าตากรรมการซะเหลือเกิน คว้าชัยชนะ 4นัดรวดทั้งบอลถ้วยและบอลลีก โดยหนึ่งในนั้นเป็นการเขี่ยนักเตะเขี้ยวสมุทรพ้นเส้นทางเอฟเอคัพ ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วย

ต้องยกเครดิตความดีความชอบให้กับฝีไม้ลายมือการคุมทีมของ “โค้ชโอ้” มาริโอยูรอฟสกี กุนซือมาดเกรียน แต่ “กึ๋น” ของเจ้าตัวไม่ได้เกรียนเหมือนภาพลักษณ์ภายนอกที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะ

กุนซือมาริโอคือผู้ที่เข้ามาปลุกพลังความฮึกเหิมของเหล่า “กิเลนยังบลัด” อย่างแท้จริง เขามีบุคลิกส่วนตัวบางอย่างของการเป็น “ผู้นำ” ที่พูดอะไรออกมาแล้วลูกทีมทุกคนเชื่อ ซึ่งคุณสมบัติตรงนี้แหละที่มีอยู่ในยอดโค้ชหลายๆคนที่ประสบความสำเร็จ

ตอนที่ประธาน ระวิ โหลทอง ผลักดันให้เจ้าตัวเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆบอกตามตรงผมเองก็ยังไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวของ “โค้ชโอ้” เท่าใดนัก เพราะมองว่าเขายังใหม่เหลือเกินบนเส้นทางสายนี้

คิดว่าเจ้าตัวคงมาสร้างสีสันประเดี๋ยวประด๋าว เพื่อรอกุนซือคนใหม่

แต่ที่ไหนได้อดีตแข้งทีมชาติมาซิโดเนียกลับทำให้แฟนกิเลนกลับมาเลือดสูบฉีดอีกครั้ง ด้วยสไตล์การเล่นที่มันส์เร้าใจ และเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ

เรียกว่าคาแรกเตอร์ของโค้ชเป็นยังไง เด็กเมืองทองชุดนี้ก็เล่นฟุตบอลสไตล์อย่างนั้นไม่มีผิดเพี้ยน

ซุปเปอร์มาริโอพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าชัยชนะของกิเลนพลังหนุ่มที่มีเหนือยอดทีมทั้งบุรีรัมย์ และบีจีในบอลถ้วย ไม่ใช่เรื่อง “ฟลุก” แต่อย่างใด

ผลงานการพาทีมปีนขึ้นมาอยู่อันดับท็อปไฟว์ของตารางในตอนนี้มันตอบได้เป็นอย่างดีว่าเขาเจ๋งเป้งแค่ไหน

นี่คือ “กุนซือเจเนอเรชันใหม่” ที่น่าจับตามองที่สุดของวงการลูกหนังไทย

เขากำลังจะทำให้บอลลีกบ้านเรา เป็น “สนามเด็กเล่น”

ที่มีอนาคตอย่างยั่งยืน...ในอีกไม่ช้าเกินรอ!!!

บี บางปะกง