บี บางปะกง
ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ของวงการลูกหนังบ้านเรา ที่เป็นประเด็นให้แฟนบอลได้วิพากษ์วิจารณ์กันมากที่สุด...ตั้งแต่ช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมา
หนีไม่พ้น...เรื่องของ “ดัง วาน ลัม” นายประตู “มือ 1” ทีมชาติเวียดนาม ของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ตกเป็นข่าวว่าได้รับความสนใจจากสโมสรเซเรโซ โอซากา ในเจลีก ญี่ปุ่น ที่จะดึงตัวเขาไปเฝ้าเสาให้
ซึ่งตอนแรกแฟนๆกิเลนผยอง ต่างก็อวยพร ให้เจ้าตัวได้ไปค้าแข้งในแดนปลาดิบสมใจปรารถนา ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เพราะมองว่านายทวารที่มีอยู่อย่าง “สมพร ยศ” น่าจะยืนเป็นตัวจริงยาวๆได้
และบางทีการย้ายออกไปของนายด่านเหงียนผู้นี้ น่าจะเป็นการเปิดทางให้ยอดขวัญใจคนเดิม อย่าง “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ได้กลับคืนสู่รังเก่าในอนาคตอันใกล้ด้วย
ซึ่งทุกอย่างดูวินวินกันทุกฝ่าย และน่าจะจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
แต่แล้ว “ตัวแปร” สำคัญที่ทำให้ดีลนี้เกิดปัญหาบานปลายขึ้นมา จนกลายเป็นรอยร้าวระหว่างสโมสรเมืองทองกับตัวนักเตะอย่างไม่น่าจะเกิด
ก็คือเอเย่นต์ส่วนตัวของ ดัง วาน ลัม ที่ชื่อ “อังเดรย์ กรูซิน”
ผมสังหรณ์ใจอยู่แล้วเชียวว่าเคสนี้มันไม่น่าจะราบรื่น หลังได้คุยกับ กานต์ จันรัตน์ ผู้จัดการหนุ่มกิเลนผยอง ที่ยืนยันว่าดีลดังกล่าวไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถ้าเอเย่นต์ไม่เข้ามาก้าวก่ายให้เสียกระบวน
แปลง่ายๆก็คือทางเมืองทองไม่อยากเอาตัวกลางเข้ามายุ่ง อยากติดต่อเรื่องนี้โดยตรงระหว่างสโมสรกับสโมสร
เพราะมันเอี่ยวเกี่ยวพันกับเม็ดเงินซื้อขายจำนวนไม่น้อย เนื่องจากดัง วาน ลัม ยังมีสัญญาอยู่กับเมืองทอง
ก่อนที่จู่ๆ อังเดรย์ กูซิน จะออกมาประกาศว่า นายด่านทีมชาติญวนได้บอกเลิกสัญญาไปแล้ว เพราะทีมกิเลนทำผิดเรื่องการจ่ายค่าเหนื่อยที่ไม่เป็นไปตามกฎฟีฟ่า
ขณะที่เอสซีจี เมืองทองฯ โดย ผอ.สโมสร “บิ๊กเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ก็ออกมาแถลงโต้ทันควันและยืนยันว่า ดัง วาน ลัม ยังเป็นนักเตะในสังกัด
พร้อมกับเตรียมฟ้องร้องเอเย่นต์ที่กล่าวให้ร้ายทีมจนเสียหาย!!
เรียกว่างานนี้ไม่มีใครยอมใคร และทำท่าจะเป็น “หนังชีวิต” หาจุดลงตัวไม่ได้ เพราะต่างก็อ้างเหตุผลว่าตัวเองทำถูกต้อง ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่กระแสแฟนบอลไม่ต้องพูดถึง ใส่กันเละตุ้มเป๊ะ สาปส่งกันยันลูกบวช!!
โดยเฉพาะ “ดัง วาน ลัม” ที่โดนข้อหาไม่มีความเป็น “มืออาชีพ” เพราะหายหน้าหายตา ไม่ยอมมาฝึกซ้อมเลย...นับตั้งแต่มีข่าวจะย้ายทีม
หนำซ้ำยังปรากฏภาพของเจ้าตัวไปโล้ชิงช้าเล่นแบบชิลชิล สบายอารมณ์อยู่ชายทะเลอีกต่างหาก
แถมเอเย่นต์ตัวดีก็ออกมาสวนคำวิจารณ์ของผู้คน บอกนักเตะในคาถามีความเป็นมืออาชีพเสมอ และยังคงเป็น “มือ 1” ของอาเซียนในยุคปัจจุบันอย่างไม่ต้องแปลกใจ
ขณะเดียวกันยังพาดพิงถึง “ตอง” กวินทร์ ด้วยว่าไม่ได้เล่นมาแล้วกว่า 2 ปี ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดไปทำมะเขืออะไร
สรุปก็คือตอนนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังทำ “สงครามประสาท” เข้าใส่กันอย่างไม่มีลดราวาศอก
สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็คง...จบลงแบบไม่สวยสักเท่าไหร่
ไม่ใครก็ใคร? ต้องโดนเปิดแผลให้สังคมประณามไปอีกนาน
จริงๆแล้วคำว่า “มืออาชีพ” เป็นฝั่งไหน? ที่มันไม่มีกันแน่
เชื่อว่าทุกท่าน...คงมีคำตอบในใจ!!!
บี บางปะกง