หน้าแรกแกลเลอรี่

Thank you..ที่ทิ้งกัน !!

บี บางปะกง

2 พ.ย. 2563 05:57 น.

บอลไทยลีก เวอร์ชั่น “ฟรีทีวี” เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไม่ถูกโฉลกกับเจ้าบ้านเอาซะเลยนะครับ !!โดยเฉพาะศึกบิ๊กแมตช์ทั้ง 3 คู่ที่จบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือนเรียบวุธ 

“กว่างโซ้ง” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เปิดบ้านพ่าย “จ่าฝูง” บีจี ปทุม 0-1 เช่นเดียวกับ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ก็โดนทีเด็ดของ การท่าเรือ บุกมายิงประตูโทนท้ายเกม จนไม่ชนะใครมาแล้วถึง 6 นัด

แต่ที่ฮือฮาปาจิงโกะ..เป็นที่สุด ก็คือทีเด็ดของ “โค้ชโอ้” มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่พาขุนพล “กิเลนยังบลัด” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด บุกไปคว้าชัยเหนือคู่ปรับตลอดกาล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์สุดมัน 3-2 เก็บอีก 3 คะแนนเต็มต่อเนื่องในฐานะทีมเยือน หลังจากวีกที่แล้วเพิ่งบุกไปเผด็จศึก โปลิศเทโร 3-1 ถึงถิ่น

นับเป็นผลงานชิ้นโบแดงของ “กุนซือมาริโอ” อย่างแท้จริง ที่สามารถปลุกพลังแข้งกิเลนให้ตื่นจากภวังค์ได้ถึงขนาดนี้

สัปดาห์ก่อนตอนไปเอาชนะเทโรได้ หลายคนยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเมืองทองจะดีขึ้นจริงหรือเปล่า หรือเป็นแค่สูตร “บอลเปลี่ยนโค้ช” ให้พอตื่นเต้นเท่านั้น  

แต่คราวนี้..“เกรียนโอ้” นำพลพรรคกิเลนผยอง บุกมาเหยียบจมูกทีมเซราะกราวได้คารังช้างอารีน่าสำเร็จ..เท่านั้นแหละ ตัวเขาเองเลยได้สถาปนาเป็น “เทพโอ้” ของสาวกเมืองทองไปในบัดดลเลยทีเดียว !!

ถือเป็นการลบสถิติแย่ๆ ในอดีตไปในตัวด้วย เพราะใครจะเชื่อว่า ‘มาริโอ ยูรอฟสกี้’ เมื่อครั้งยังเป็นผู้เล่น เขาเคยเผชิญหน้ากับขุนพล “ปราสาทสายฟ้า” มาแล้ว 15 นัด เสมอ 7 นัด แพ้ 8 นัด และไม่เคยเอาชนะยอดทีมอีสานใต้ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ดังนั้นการบุกมาคว้าชัยในครั้งนี้ จึงถือเป็นการเปิดซิงเก็บ 3 แต้มเหนือบุรีรัมย์เป็นครั้งแรกในชีวิตของเจ้าตัวอย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดองเป็นที่สุด

ต้องยกเครดิตความ ‘ตาถึง’ บวก ‘ใจถึง’ ของบิ๊กบอสกิเลน คุณระวิ โหลทอง ที่สั่งการให้ “เสี่ยเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผลักดันอดีตตำนานของสโมสรทั้ง มาริโอ กับ ดานโญ เซียก้า ขึ้นมาเป็นตัวชูโรง ท่ามกลางกระแสทัดทานของบอร์ดบริหารทีมหลายคน ที่มองว่าภารกิจครั้งนี้มัน “เสี่ยง” เกินไป กับการใช้งานกุนซือหน้าใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์และไม่มีเอไลเซนส์ให้มากุมบังเหียนทีมอย่างนี้

แต่ บิ๊กระวิ กลับมองตรงกันข้าม เขาเห็นแววอะไรบางอย่างในตัว “เกรียนโอ้” ทำให้เชื่อว่าหมอนี่แหละ..มีดีพอที่จะเรียกสปิริตของนักเตะกิเลนให้คืนกลับมาได้ไม่ยาก หลังจากที่เคยดูคลิปสัมภาษณ์ลูกหม้อเมืองทอง อย่าง “เจ้าเต้” พิธิวัตร สุขจิตธรรมกุล ที่ไปได้ดิบได้ดีกับเชียงราย บอกว่าเขาพัฒนาตัวเองจนขึ้นมาเป็นนักเตะแถวหน้าของบอลไทยทุกวันนี้ เพราะมีแรงบันดาลใจจาก มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่เขาเคยเป็นเด็กฝึกหัดคอยดูแลรองเท้าสตั๊ดให้เมื่อครั้งยังเล่นในทีมเยาวชนกิเลนผยอง และประทับใจในความทุ่มเทเกินร้อยทุกครั้งที่ดาวยิงทีมชาติมาซิโดเนียลงสนาม ซึ่งถือเป็นแบบอย่างในการเล่นฟุตบอลของตัวเองมาจนถึงปัจจุบัน 

เหลือเชื่อนะครับ นักเตะกิเลนชุดนี้ ก็คือชุดเดิม ชุดเดียวกันกับที่กุนซือ อเล็กซานเดร กามา ทำมาตั้งแต่ต้นฤดูกาลนั่นแหละ แต่ทำไม? ความกระเหี้ยนกระหือรือในการลงเล่น..ถึงได้แตกต่างกันถึงเพียงนี้ จะบอกว่าโค้ชกามา ไม่มีคู่มือใช้งานแข้งกิเลนก็ดูกระไรอยู่ 

ตัวบราซิล 3 คน ทั้ง ลูคัส โรช่า, วิลเลี่ยน พอพพ์ รวมถึง แดร์เลย์ เขาเป็นคนดึงมาเองกะมือแท้ๆ แต่ตอนอยู่กับกุนซือแซมบ้ากลับโชว์ฟอร์มไม่ออก จนทำท่าจะโดนเททิ้งอยู่รอมร่อ ไหง..พอเปลี่ยนมาเป็น “โค้ชโอ้” ปุ๊บ ! แต่ละพระหน่อกลับเล่นดีอย่างกะคนละคน ปั๊บ ! แถมยังสนองคุณ กามา ด้วยการเรียงหน้าซัลโวทีมเซราะกราวได้ครบยี่ห้อ ‘เมด อิน บราซิลเลี่ยน’ อีกตะหาก

แล้วอย่างนี้จะให้สรุปว่า ปัญหาของกิเลนที่ผ่านมา มันเกิดขึ้นจากอะไร? คนที่แฟนเมืองทองต้อง Thank you หลายๆ มากที่สุด ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก กุนซือคนเก่า อย่าง “อเล็กซานเดร กามา” นั่นไง

ขอบคุณ..ที่ทิ้งกัน !!!


                                             บี บางปะกง