ได้หมด...ถ้าสดชื่น!!

ไฮไลต์ฟุตบอลไทยลีก สัปดาห์นี้ อยู่ที่เกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ ระหว่างจ่าฝูง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 ในเวลาหกโมงเย็น วันอาทิตย์ที่ 27 ก.ย.นี้

นี่เป็นการพบกันที่ถูกที่ถูกเวลาเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะทั้งคู่ต่างกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีด จากฟอร์มที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ
ยิ่งพวกเขาเพิ่งบุกไปเชือดชัยเหนือทีมเต็งด้วย กัน อย่างการท่าเรือ เอฟซี ถึงแพท สเตเดียมด้วยแล้ว

ยิ่งทำให้การเจอกับบียูเที่ยวนี้ เปรียบเสมือนการการันตีโควตาเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่มไปในตัวโดยปริยาย หากทีมใดเก็บ 3 แต้มเข้ากระเป๋าได้สำเร็จ

พูดถึงบีจีแล้ว ชั่วโมงนี้ก็มีกระแสข่าวฮอตขึ้นมาอีกครั้ง ว่าเตรียมที่จะยื่นข้อเสนอดึงตัว “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กลับจากเจลีกญี่ปุ่น ในช่วงเลกที่สอง ต้นปีหน้า

ประเด็นการกลับไทยของธีรศิลป์เป็นที่ถกเถียงในหมู่แฟนบอลบ้านเราพอสมควรครับ บางคนอยากให้สู้ต่อ เพราะมั่นใจว่ายังไงชั้นบอลของเจ้าตัวก็สู้กับแข้งซามูไรได้สบาย

ล่าสุดแม้จะลงเล่นเป็นตัวสำรองให้ชิมิสุ เอสพัลส์ แต่ก็ยังทำประตูสุดสวยให้กับทีม ถ้าได้รับโอกาสจากโค้ชมากกว่านี้หน่อย รับรองทุกอย่างโนพรอบเบลม

แต่หลายคนก็เริ่มเชียร์ให้กลับบ้าน มาทิ้งทวนเป็นสีสันในไทยลีกของเราจะดีกว่า

โดยเฉพาะถ้ามาอยู่กับ “เดอะแรบบิท” แล้วได้จับคู่กับดิโอโก หลุยส์ ซานโต คิดดูว่า มันจะระเบิดเถิดเทิงขนาดไหน
สัปดาห์ที่แล้วผมมีโอกาสไลฟ์สดพูดคุยกับ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ถึงทรรศนะของ 4 แข้งไทยในเจลีกว่าอนาคตจะเป็นแบบไหน อย่างไร?

อดีตยอดศูนย์หน้าเบอร์ 1 ตลอดกาลของเมืองไทย ที่เคยมีประสบการณ์ไปค้าแข้งกับลัคกี้โกลด์– สตาร์ ในลีกเกาหลีใต้เมื่อหลายสิบปีก่อน วิเคราะห์ว่า

ในส่วนของ “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับ “โก๋อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน คงไม่มีปัญหาในการโกยเงินเยนต่อไปเรื่อยๆในญี่ปุ่น

เพราะฝีเท้าและผลงานของทั้งคู่เป็นที่ยอมรับของต้นสังกัดอย่างสบายเฉิบอยู่แล้ว

โดยเฉพาะชนาธิป ถ้าจะขยับขยายจริงๆ ควรต้องมองเป้าไปที่ลีกใหญ่กว่าในยุโรป หรือไม่ก็ย้ายไปเล่นในเคลีก หรือไชนีสซุปเปอร์ลีกที่ศักดิ์ศรีใกล้เคียงกับลีกแดนปลาดิบ

อย่าเพิ่งคิดกลับไทยตอนนี้ เพราะมันเหมือนถอยหลังลงคลอง เสียดายโอกาสในการพัฒนาฝีเท้าไปสู่ระดับทวีป

แต่ในส่วนของ “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กับ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งอายุ อานาม “เลข 3” นำหน้าแล้ว
จะตัดสินใจยังไงก็ได้ เพราะถือว่าผ่านจุดพีกของการเล่นฟุตบอลมาหมดแล้วทั้งในระดับชาติและสโมสร

ยิ่ง “มุ้ย” นี่ไม่ต้องพูดถึง เพราะถือว่าประสบการณ์ชีวิตโชกโชน เคยอยู่ทั้งในอังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ ตอนเป็นดาวรุ่ง
เป็นแข้งไทยคนแรกที่ได้ไปโชว์ฝีเท้าในลาลีกาสเปนกับอัลเมเรีย ช่วงฮอตๆ

ได้โอกาสไปชิมลางในเจลีกกับซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา ก่อนจะกลับมาลุยแดนซามูไรอีกคำรบ กับชิมิสุ เอสพัลส์ อยู่ในปัจจุบัน

เรียกว่าเส้นทางที่เหลือนับจากนี้ไม่มีอะไรที่เจ้าตัวต้องพิสูจน์อีกแล้ว ทุกอย่างที่เข้ามาถือเป็น “กำไร” ลูกเดียว

จะลุยต่อไปในญี่ปุ่นกับทีมเดิมหรือลองโยกไปเล่นสโมสรอื่นให้มันหายข้องใจก็ทำได้ทั้งนั้น ไม่มีอะไรเสียหาย

แม้กระทั่งจะกลับมาปิดฉากในเมืองไทย

รับรองทุกที่พร้อมอ้าแขนต้อนรับ...ด้วยความเต็มใจยิ่ง

ประมาณว่า...ได้หมดถ้าสดชื่น ว่างั้นเถอะ!!!

บี บางปะกง