หน้าแรกแกลเลอรี่

อย่าทิ้งลีกรากหญ้า

บี บางปะกง

14 ก.ค. 2563 05:01 น.

เรียน คุณบี บางปะกง ที่นับถือคุณบีและแฟนลูกหนังคงจะทราบกันดีแล้วว่า ฟุตบอลลีกอาชีพของไทย นับตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันมาตั้งแต่ระยะแรกเริ่มจนถึงปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเกมรายการนี้เป็นหนึ่งในมิติของการสร้างประโยชน์ที่มีต่อวงการกีฬาและประเทศชาติต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างมากมาย

และจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การแข่งขันไทยลีกในฤดูกาล 2020 ต้องสะดุดหยุดลงไป

ซึ่งจากปัญหานี้ภายหลังที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้อนุมัติให้ 14 ชนิดกีฬากลับมาจัดการแข่งขันได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป รวมถึงฟุตบอลลีกไทยด้วย

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความเคลื่อนไหวของการเตรียมการที่จะเปิดโอกาสให้นักเตะแต่ละสโมสรได้กลับมาลงสนามดวลแข้งกันต่อ จะพบว่าข่าวสารที่ออกมาจากสมาคมกีฬาลูกหนังจะมุ่งไปที่ลีกบน ซึ่งประกอบไปด้วย T1 และ T2 เสียเป็นส่วนใหญ่

ในขณะที่ลีกรองในระดับ T3 และ T4 หรือลีกรากหญ้า ยังไม่มีความเคลื่อนไหวให้แต่ละสโมสรและแฟนๆในภูธรได้ทราบกันมากนัก

จากการติดตามข่าววันนี้พบว่าหลายทีมในระดับ T4 ทำท่าว่าจะถอดใจไม่ไปต่อเพราะมีปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องรายได้ หรือเม็ดเงินสนับสนุนจากองค์กรที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสปอนเซอร์ต่างๆ รวมถึงกระแสที่ฉุดไม่ขึ้น ไม่สามารถทำให้เกมการแข่งขันเข้าไปนั่งในใจของแฟนลูกหนังภูธรได้ดังในอดีต

ก่อนหน้านี้ เมื่อกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของวงการลูกหนังอาชีพโดยเฉพาะการปรับรื้อโครงสร้างและรูปแบบการจัดการแข่งขันในลีกต่างๆที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯมุ่งหวังในการจะขับเคลื่อนให้เกมการแข่งขันเป็นลีกอาชีพที่ตอบโจทย์และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะ T3

แต่ทำไปทำมาวันนี้คุณบีทราบหรือไม่ว่าในสภากาแฟลูกหนังต่างจังหวัด มักจะมีการกระแซะและเหน็บแนมไปในทางที่ไม่สู้ดีนัก เช่นวลีที่ว่า “ลีกรากหญ้าเปรียบเสมือนเป็นเพียงไม้ประดับหรือลูกเมียน้อย” ที่ไม่ค่อยจะได้รับความสนใจจากผู้เกี่ยวข้องมากนัก

มาถึงวันนี้หวังว่าคณะกรรมการที่สมาคมแต่งตั้งให้ไปดำเนินเรื่องการปรับรื้อโครงสร้างเพื่อให้ลีกในระดับรากหญ้ากลับมามีสีสันและสร้างวิถีชีวิตหรือวัฒนธรรมการชมและเชียร์ของชาวบ้านให้กลับมาคึกคักดังในอดีตยังไม่มีข่าวและความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมผ่านสาธารณะให้พบเห็น

ลีกภูมิภาคในอดีตยุคที่ คุณวรวีร์ มะกูดี กุมบังเหียนสมาคมลูกหนัง จะพบว่าในยุคนั้น ลีกภูมิภาคภายใต้การประสานของ คุณวิมล กาญจนะ และทีมงาน ได้สร้างปรากฏการณ์แห่งความเป็นจริงว่า

ถ้ามีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ลีกภูมิภาคจะเป็นหนึ่งในมิติของวงการลูกหนังบ้านเราที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสังคมและที่ตรงประเด็น

สำหรับวัตถุประสงค์อีกประการคือเป็นเวทีหรือสนามของการค้นพบนักเตะหน้าใหม่ในลักษณะการปั้นดาวรุ่งเพื่อที่จะมุ่งเข้าสู่ทีมชาติในอนาคต

จากการที่จะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงของการแข่งขันฟุตบอลอาชีพในบ้านเราเพื่อเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของแฟนลูกหนังในการที่จะสนับสนุนและพัฒนาให้ไทยลีกก้าวมั่นอย่างยั่งยืนและเป็นไปตามมาตรฐานสากล

ย้อนไปในเดือนเมษายนที่ผ่านมา KBU SPORT POLL โดย ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนที่ติดตามและสนใจข่าวสารทางการกีฬาในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเรื่อง “ทิศทางอนาคตไทยลีกในมุมมองของแฟนลูกหนัง”

ซึ่งจากการสำรวจในครั้งนั้นพบว่า มีหลายประเด็นที่แฟนกีฬาลูกหนังสะท้อนมุมมองที่สอดคล้องกับแนวคิดของการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง

หนึ่งในนั้นเมื่อสอบถามเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการแข่งขันไทยลีก 3-4 ในฤดูกาลใหม่ แฟนลูกหนังส่วนใหญ่ระบุให้ปรับรูปแบบด้วยการควบรวมเข้าด้วยกัน

เมื่อกล่าวถึงการปรับรื้อโครงสร้างของไทยลีกกันแล้วสิ่งหนึ่งที่สมาคมกีฬาลูกหนังและบริษัทไทยลีกไม่ควรจะมองข้ามคือการปรับรูปแบบของลีกล่าง โดยเฉพาะลีก 3 และ 4 ที่แฟนกีฬาระดับรากหญ้ารอคอยมานานเพื่อให้การจัดการแข่งขันกลับไปเป็นลีกภูมิภาคหรือลีกระดับภูธรดังในอดีต

ทั้งนี้เป็นเพราะลีกดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ของการสร้างวัฒนธรรมด้านกีฬารวมทั้งการเสริมสร้างแรงจูงใจที่ก่อให้เกิดกระแสและนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มในมิติต่างๆสำหรับแฟนลูกหนังในระดับรากหญ้าได้อย่างมากมาย

ที่สำคัญคือความรักความผูกพันกับทีมบ้านเกิดของตนเอง

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร

ooooooo

สถานการณ์บอลลีกไทยในตอนนี้

อย่าว่าแต่ลีกรากหญ้าเลยครับ...ที่กำลังย่ำแย่

ขนาดลีกยอดหญ้าทั้ง T1 กับ T2

หลายทีมยังทำท่าจะเข้า “ไอซียู” อยู่รอมร่อเลย

ให้ตายเถอะ!!!


บี บางปะกง