บี บางปะกง
อย่าลืม..ยาแดง !!
ฟุตบอล “อาเซียนคัพ ” หรือศึก Asean Mitsubishi Electric Cup 2024
ได้ 4 ทีมพระกาฬ เข้าไปฟาดแข้งในรอบตัดเชือกแบบ เหย้า-เยือน เป็นที่เรียบร้อย
ทีมชาติไทย พบ ฟิลิปินส์ และ เวียดนาม เจอ สิงคโปร์
ดูจากคู่แข่งแล้ว โอกาสของ ทีมไทย ที่คว้าชัย 4 นัดรวด เก็บ 12 คะแนนเต็ม
ในการทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ไปป้องกันแชมป์สมัยที่ 8 ดูดีเหลือเกินครับ
หลัง ทีมชาติฟิลิปปินส์ พลิกล็อคหักปากกาเซียนด้วยการบุกไปเฉือนชนะ อินโดนีเซีย ถึงบ้าน 1-0
เขี่ยอิเหนา ร่วงตกรอบ พร้อมทะยานเข้าไปบู๊รอบรองฯ กับ ทีมช้างศึก อย่างพลิกความคาดหมายเป็นที่สุด!
นับเป็นการเข้ารอบตัดเชือกถ้วย เอเอฟเอฟ เป็นสมัยที่สอง หลังจากเคยสร้างประวัติศาสตร์หนแรกในอาเซี่ยนคัพ 2018
เจอกับแข้งตากาล็อค ยังไงก็เบากว่าต้องไปน็อคกับ นักเตะชวา เป็นไหนๆ
อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปเผชิญกับ ‘นรกทีมเยือน’ ที่จาการ์ตา อย่างที่หลายคนหวาดหวั่นในตอนแรก
ยิ่งสถิติที่ผ่านมา ในการเจอกัน ทีมชาติไทย เป็นฝ่ายข่ม ฟิลิปปินส์ ทุกประตู
โดยล่าสุดทั้งคู่เพิ่งเจอกันมาในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ที่สงขลา เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมานี้เอง
ซึ่งก็เป็น นักเตะไทย ที่เป็นฝ่ายลุยฝนเอาชนะ “ดิ อัซกาลส์” ไปได้ 3-1
ส่วนในถ้วยอาเซียนคัพ ทัพช้างศึก ก็เคยยกพลบุกไปเยือนฟิลิปปินส์มาแล้ว ในรอบแบ่งกลุ่มปี 2018
โดยทีมไทย มีกุนซือ มิโลวาน ราเยวัช กุมบังเหียน
ส่วนนักเตะตากาล็อค คุมทีมโดยอดีตเฮดโค้ชทีมชาติอังกฤษคนดัง สเวน โกรัน อีริกส์สัน
ผลปรากฎว่าเกมนัดนั้นจบลงด้วยการเสมอกัน 1-1
ทีมชาติไทย ขึ้นนำไปก่อนใน น.56 จาก ศุภชัย ใจเด็ด
ก่อนจะโดนเจ้าถิ่นตีเสมอ น.81 แบ่งแต้มกันไป และทั้งสองทีมผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปได้ ในท้ายที่สุด
จากวันนั้น ถึงวันนี้ 6 ปีผ่าน ทีมชาติไทย จะต้องไปเยือน ฟิลิปปินส์ อีกครั้ง ในวันที่ 27 ธ.ค.ที่จะถึง
คราวที่แล้วเราไปเล่นที่ปานาอัด สเตเดี้ยม เมืองบาโคลอด ซึ่งสนามเป็นหญ้าจริง
แต่คราวนี้สังเวียนแข้งเปลี่ยนไป เป็นสนามหญ้าเทียม ขนานแท้และดั้งเดิม ที่ริซัล เมโมเรียล กรุงมะนิลา
ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่แข้งช้างศึกของเรา อาจจะต้องหนักใจหน่อย
เพราะสภาพ“หญ้าเทียม”ของที่นี่ ไม่ค่อยได้รับการดูแลให้ทันสมัย และเซฟตี้กับนักฟุตบอล เท่าใดนัก
ไม่เชื่อก็ลองไปถาม ขุนพลเวียดนาม ที่บุกไปเยือนสนามแห่งนี้ ในรอบแรก ดูก็ได้
กว่าจะตีเสมอแบ่งแต้มออกมาแบบฉิวเฉียด เล่นเอาหืดรับประทาน
ที่สำคัญพอเตะจบนักเตะเหงียนแต่ละคน แข้งขาถลอกปอกเปิก ได้รอยแผลกลับบ้านไปตามๆกัน
นั่นจึงทำให้ โค้ชมาซาทาดะ อิชิอิ ต้องเร่งทำการบ้าน
ด้วยการพานักเตะเปลี่ยนไปฝึกซ้อมกันที่สนามหญ้าเทียม ศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬาฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยด่วน
เพราะมองว่าด้วยรูปแบบและกลยุทธการเล่นของฟิลิปปินส์ ไม่ใช่เรื่องน่าห่วง สำหรับผู้เล่นไทย มากนัก
แต่สิ่งที่น่าห่วง และอาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อการเข้าชิงของเราได้
คือเรื่องของ “พื้นสนามหญ้าเทียม” ที่ทีมช้างศึก ไม่ค่อยคุ้นชิน นี่แหละ อันตรายที่สุด
ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้วยการซ้อมหญ้าเทียมที่ ม.กรุงเทพธนบุรี สลับกับ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ คลอง 6
จึงเป็นอะไรที่ถูกต้องและสมควรเป็นอย่างยิ่ง!
ก่อนที่โค้ช อิชิอิ จะนำทัพช้างศึก บินสู่มะนิลาในวันคริสมาสต์ พุธที่ 25 ธ.ค.นี้
เตือนไว้ก่อน ว่าเตะสนามนี้ อย่าลืมเอา “ยาแดง” ไปด้วยละกัน !!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com