บี บางปะกง
ทำตามสากลโลก !!
ออกสตาร์ทเตรียมทีมอย่างเป็นเรื่องเป็นราวกันแล้ว สำหรับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
โค้ชซามูไร “ทาคายูกิ นิชิกายะ” ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาคุมทีม โดยมี กุนซือ มาซาทาดะ อิชิอิ คอยเป็นที่ปรึกษาอย่างใกล้ชิด
นี่คือสไตล์ “เจแปนเวย์” ที่สมาคมลูกหนังไทย ยุค “นายกแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เลือกที่จะใช้สร้างทีมชาติยุคใหม่ อย่างจริงจัง!
เพราะเห็นแล้วว่าแนวทางนี้ มีโอกาสที่จะทำให้แข้งช้างศึกเดินตามรอยความสำเร็จของ “ทีมชาติญี่ปุ่น” ได้ในอนาคต
ขณะที่คีย์แมนหลักในการพัฒนาทีมชาติไทยทั้งระบบ ถูกขับเคลื่อนโดยฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ
ที่มี “คนฟุตบอล” ตัวจริง เสียงจริง อย่าง “อาจารย์หรั่ง” ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน กับ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เป็นแกนนำ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นับตั้งแต่ “เสี่ยปิ๊บ” ปวิณ ภิรมย์ภักดี บิ๊กบอสบีจี ลาเก้าอี้อุปนายกสมาคมลูกหนังไป
ความหวังในการเดินหน้าทำงานเพื่อฟุตบอลไทย โดยเฉพาะทีมชาติ ที่เปรียบเสมือนสินค้าหน้าโชว์รูม
ก็ตกไปเป็นภาระ (หนักอึ้ง) ของทั้ง ด็อกเตอร์หรั่ง และ ปิยะพงษ์ อย่างเลี่ยงไม่ออกจริงๆ
ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งสองคนก็พยายามตั้งอก ตั้งใจ ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย อย่างสุดกำลังความสามารถ
โดยอาศัยประสบการณ์ และคอนเนคชั่น ที่อยู่ในวงการฟุตบอลบ้านเรา มาทั้งชีวิต
ทำในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อความเจริญก้าวหน้า ของบอลไทยอันเป็นที่รัก
ส่งให้ภารกิจของการเตรียมทีมชาติชุดต่างๆ เริ่มเข้ารูปเข้ารอยขึ้นตามลำดับ
ทีมชาติชุดใหญ่ มีโค้ชอิชิอิ เป็นหัวใจ ในการพัฒนาทีมสู่เป้าหมายในอนาคต อย่างชัดเจนที่สุด
ขณะที่ช้างศึกพลังหนุ่ม ยู 23 ก็ได้ โค้ชนิชิกายะ เข้ามาเป็นพลังเสริม
เพื่อให้การทำงานสอดคล้องไปในเวย์เดียวกัน ทั้งทีมชาติชุดใหญ่ และชุดเล็ก
ขณะเดียวกันทางนายกสมาคมฯก็ได้ให้นโยบายกับฝ่ายเทคนิค ในการที่จะส่งเสริมโค้ชไทยรุ่นใหม่ๆ
ให้ได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้การทำงานแบบมืออาชีพ ของกุนซือชาวญี่ปุ่น
ดังนั้นเราจึงได้เห็นหน้าตาทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของ นิชิกายะ เป็นผู้ฝึกสอนชาวไทยทั้งหมด
โดยแต่ละคนถือว่าคุณสมบัติเพียบพร้อม ตรงตามสเปก ที่ “อาจารย์ชาญวิทย์” ได้กำหนดเอาไว้
ไม่ว่าจะเป็นอดีตนายทวารทีมชาติ อย่าง “โค้ชตี๋” สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่เข้ามาทำหน้าที่โค้ชผู้รักษาประตู
“โค้ชเบิร์ท” สุธี สุขสมกิจ อดีตยอดดาวยิงทีมช้างศึก มาช่วยเทรนกองหน้ารุ่นน้องๆ
และ“โค้ชเต้ย” ภานุพงษ์ ผิวอ่อน โค้ชรุ่นใหม่ดีกรีโปรไลเซนส์
ที่มีประสบการณ์เป็นวิทยากรของ เอเอฟซี. และเคยทำงานให้สมาคมฯมาตั้งแต่ยุคนายกลูกหนังคนที่แล้ว
ส่วนที่เจ้าตัวถูกมองว่าเป็น “เด็กเส้น” เพราะเป็นลูกชายของ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ นั้น
คงไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้โฟกัสตรงนั้น
แต่เน้นไปที่คุณสมบัติ ความสามารถ ที่เหมาะสม ในการทำงานมากกว่า
โดยสตาฟฟ์ทุกคนที่ถูกเลือกมา โค้ชนิชิกายะ เป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย ด้วยตัวเองทั้งหมด
ซึ่ง “เดอะตุ๊ก” เอง ก็บอกแล้วว่า หาก 3 เดือน หรือ 6 เดือน เกิดทำงานร่วมกันแล้วไม่ลงล็อก
ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อความสบายใจ ของทุกฝ่าย
สำหรับ ทีมชาติไทย ยู 23 จะเริ่มเข้าแคมป์แรกในช่วงฟีฟ่าเดย์ เดือน ต.ค.นี้
โดย นิชิกายะ และทีมงาน จะเดินทางไปดูฟอร์มนักเตะในฟุตบอลลีก 23 ปี รวมทั้งดูการซ้อมของผู้เล่นรุ่นนี้ในสโมสรต่างๆด้วย
เพื่อเลือกเฟ้นแข้งฝีเท้าเข้าตามาร่วมทีมในแต่ละแคมป์นับจากนี้ ที่มีเป้าหมายเตรียมทีมไปสู่ 3 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่
เริ่มตั้งแต่ศึกชิงแชมป์อาเซียน ต่อด้วย ฟุตบอลชายกีฬาซีเกมส์ 2025 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปีหน้า 2568
และปิดท้ายด้วยฟุตบอล ยู 23 ชิงแชมป์เอเชียในปี 2026 ซึ่งเป็นเป้าสูงสุดของทีมช้างศึกชุดนี้
เรียกว่าแผนการสร้างทีมชาติไทยสายเลือดใหม่ ถูกเซตไว้เป็นระบบ ระเบียบ หมดแล้ว
เหลือแต่ทีมชาติไทย 20 ปี ที่เวลานี้ถูกเทคโอเวอร์ ไปโดยสโมสรใหญ่ทางอีสานใต้
ซึ่งคงต้องรอเวลาให้ภารกิจชิงแชมป์เอเชียของพวกเขา...สะเด็ดน้ำลงเสียก่อน
เสร็จแล้วสมาคมฯ ค่อยดึงเอากลับมาดูแลจัดการเอง
ให้ถูกต้อง...ตามที่สากลโลกเขาทำกัน !!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com