บี บางปะกง
ต้องสร้างอย่างต่อเนื่อง !!
‘เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง’
นี่คือสิ่งที่แฟนลูกหนังชาวไทยทั่วประเทศ อยากจะบอกแข้งช้างศึกยุคผลัดใบ ของกุนซือมาซาทาดะ อิชิอิ
หลังพวกเขายกพลไปยิงแซงเอาชนะทีมชาติเวียดนามถึงกรุงฮานอย ด้วยสกอร์ 2-1 ในเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ ที่ผ่านมา
แม้รูปเกมโดยรวมในแมตช์นี้จะดูไม่หวือหวาเร้าใจมากนัก
แต่ถ้าคิดถึงผลงานในการออกสตาร์ทเตรียมทีมระยะยาวสำหรับนักเตะไทยในเจเรอชั่นใหม่แล้วล่ะก็
ผมถือว่าน้องๆทำได้เกินเป้า และเห็นอย่างเดียวกับโค้ชอิชิอิว่า...
“ทุกคนที่ถูกส่งลงสนาม สามารถทำภารกิจทุกอย่างได้ตามที่คาดหวังเอาไว้ จากตอนที่ดูฟอร์มกับสโมสร"
ซึ่งก่อนเกมจะเริ่มขึ้นผมมองว่านัดนี้ ถ้าแข้งช้างศึกพลังหนุ่มไม่แพ้ทีม “ดาวทอง” กลับบ้านไป ก็ถือว่าแจ่มแล้ว
แต่พอเล่นกันจริงๆ พวกเค้ากลับทำได้ดีกว่านั้น ด้วยการเฆี่ยนเหงียนคาบ้านได้สำเร็จ
ส่งผลให้คะแนนในฟีฟ่าเวิลด์แรงกิ้ง ของทีมชาติไทย จะถูกบวกเข้าไปอีก 4.52 แต้ม
การันตี “อันดัน 99 “ของโลก ซึ่งเป็นการติดท็อป 100 ฟีฟ่าในรอบหลายปี ของแข้งช้างศึก เลยทีเดียว
ส่วน เวียดนาม ผลงานยำ่แย่สาละวันเตี้ยลง โดยเฉพาะในรอบ ปี2024 พวกเขา แข่ง 10 นัด ชนะ 1 และแพ้ไปถึง 9 เกม
ซึ่งแบบนี้อันดับโลกร่วงหนักแน่ๆ และจะกระทบต่อการจับสลากคัดเอเชี่ยนคัพครั้งถัดไปอย่างไม่ต้องสงสัย
เรียกได้ว่าแข้งญวนยุคนี้ ไม่มีความดุดัน น่าเกรงขาม เหมือนยุคที่มี ปาร์ค ฮัง ซอ กุมบังเหียน
และ เวียดนาม ก็ไม่ใช่คู่ต่อกร “หมายเลข1” ในภูมิภาคอาเซียนของเรา…อีกต่อไป
โดยชาติที่มาแรงแซงทางโค้ง และทำท่าจะถีบตัวหนีเราออกไปอีกสเต็ป ก็คือขุนพลอิเหนา อินโดนีเซีย
หนึ่งเดียวแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ผ่านเข้าไปลุ้นตั๋วบอลโลก 2026 โซนเอเชีย
ด้วยผลงานที่ต้องจับตา เพราะเตะคัดเวิลด์คัพไปแล้ว 2 แมตช์ มี 2 แต้ม
จากการบุกไปเสมอ ซาอุดิอาระเบีย 1-1 และเปิดบ้านเจ๊าออสเตรเลีย แบบโนสกอร์ ในเกมล่าสุด
ซึ่งหลายคนอาจมองว่า อินโดฯใช้ทางลัดด้วยการเอาผู้เล่นลูกครึ่งในยุโรป มาเล่นให้เกือบทั้งทีม
แต่นั่นคือวิธีการของเขา ที่มีกฎเกณฑ์ต่างๆในประเทศ เอื้อให้อย่างเต็มที่
ส่วนทีมชาติไทย แม้คราวนี้จะอกหักชวดไปลุ้นบอลโลก
แต่ถ้ามองในแง่ดี ก็ถือเป็นการเริ่มตั้งต้น “รีสตาร์ต” กันใหม่ ในแบบของเรา อย่างจริงจัง!
โดยมีเป้าหมายชัดเจน ที่จะสร้างประวัติศาสตร์ ไปลุยรอบสุดท้าย ‘ฟุตบอลโลก 2030’ ให้จงได้
ด้วยสไตล์ “เจแปนเวย์” ของกุนซืออิชิอิ ที่ถูกอกถูกใจแฟนบอลบ้านเราเป็นยิ่งนัก
ยิ่งได้มาเห็นฟอร์มของผู้เล่นหน้าใหม่ป้ายแดง ไม่ว่าจะเป็น โจนาธาน เข็มดี และ พาตริก กุสตาฟส์สัน
ที่เดบิวต์ทีมชาติชุดใหญ่ เป็นครั้งแรกในเกมนี้ อย่างยอดเยี่ยมด้วยแล้ว ยิ่งโอเคเข้าไปใหญ่
โดยเฉพาะ กุสตาฟส์สัน หัวหอกดาวรุ่งจอมแกร่งจากสโมสรนาราคลับในเจ3 ญี่ปุ่น
ถือว่าแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว จากการแอสซิสต์หนึ่ง และกระซวกตาข่ายอีกหนึ่ง ให้ทีมช้างศึกคว้าชัยในเกมนี้
นี่คือกองหน้า “วิญญาณเพชรฆาต” ที่ทีมชาติไทยตามหามานาน
เป็นคู่หูที่น่าจะเข้าขากับ “เจ้าแบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้อย่างเหมาะเหม็ง เพราะเซนต์บอลใกล้เคียงกัน
ยิ่งได้เล่นร่วมกับ “บุ๊คซัง” เอกนิษฐ์ ปัญญา ในแนวรุกบ่อยๆ ทุกอย่างก็น่าจะไหลลื่นขึ้นตามลำดับ
การบ้านของ อิชิอิ หลังจากนี้ คือต้องเน้นผู้เล่นหน้าใหม่เป็นหลัก เพื่อให้ซึมซับกับแทคติกของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
ฟุตบอลคิงส์คัพเดือนหน้าที่สงขลา ถ้าไม่คิดอะไรกันเยอะ
ก็โปรดใช้ขุมกำลังช้างศึกเลือดใหม่ชุดนี้นี่แหละ...ลงบู๊ให้เต็มพิกัด
เพราะความต่อเนื่องในการสร้างทีมนี่แหละครับ
คือปัจจัยสำคัญ (ที่สุด) ที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จ
ที่รอเราอยู่ ณ ปลายทาง !!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com