หน้าแรกแกลเลอรี่

คิงส์คัพสงขลา...ถึงเวลาแจ้งเกิด

บี บางปะกง

2 ก.ค. 2567 06:00 น.

คิงส์คัพสงขลา...ถึงเวลาแจ้งเกิด

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเขียนถึงฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 บ่อยหน่อยนะครับ

หลังสมาคมลูกหนังไทย เปิดรับสมัครจังหวัดที่มีความประสงค์ และความพร้อม ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันลูกหนังชิงถ้วยพระราชา ในช่วงฟีฟ่าเดย์ เดือนตุลาคมนี้ แบบโอเพ่น

โดยล่าสุด มี 3 จังหวัด ตกลงปลงใจยื่นใบสมัครมาถึงสมาคมฯ แล้ว ประกอบด้วย สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี, สิงห์ สเตเดียม จ.เชียงราย และ สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา

นั่นเท่ากับว่าบอลคิงส์คัพในปีนี้ ไม่จัดกันทางภาคเหนือ ก็คงได้ล่องใต้ไประเบิดแข้ง กันแห่งใดแห่งหนึ่งแน่ๆ

ซึ่งถ้าว่ากันถึงความเหมาะสมแล้ว ศักยภาพความพร้อมของทั้ง 3 จังหวัด เชื่อว่าจัดได้หมดแหละ

ติดที่ว่า เชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพมาแล้ว 3 ครั้ง น่าจะเปลี่ยนบรรยากาศไปเตะที่อื่นดูบ้าง

ส่วน เชียงราย ไม่เคยจัดคิงส์คัพมาก่อน แต่เชื่อในฝีมือไม้ลายมือคนหนุ่ม อย่าง “บิ๊กฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช บิ๊กบอสกว่างโซ้ง ที่มีตำแหน่งเป็นสภาลูกหนังชุดปัจจุบัน

ถ้าได้เป็นเจ้าภาพกันจริงๆ ก็น่าจะจัดได้ดีไม่แพ้ใคร

แต่ที่ผมเอาใจช่วยและลุ้นให้ไปแข่งมากที่สุด ก็น่าจะเป็นทางปักษ์ใต้ ที่จังหวัดสงขลา

เหตุเพราะบอลคิงส์คัพสัญจร เริ่มไปเตะต่างจังหวัดครั้งแรก ก็เมื่อปี 2548 ในศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 36

ที่ล่องใต้ไปเตะกันหลังเหตุการณ์สึนามิ ที่ 3 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน ทั้ง ภูเก็ต, พังงา และกระบี่

จากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นเวลา 19 ปีเข้าให้แล้ว ที่ฟุตบอลคิงส์คัพ ไม่เคยแวะเวียนไปจัดทางภาคใต้กันอีกเลย

ทั้งที่หลายปีที่ผ่านมามีกระแสเรียกร้องแทบทุกครั้ง ว่าให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เอาลูกหนังรายการยิ่งใหญ่ชิงถ้วยพระราชทานในหลวง มาให้แฟนบอลชาวใต้ได้สัมผัสกันบ้าง

ซึ่งก็ไม่เคยมีสัญญาณตอบรับ จากทางผู้จัดแต่อย่างใด ไม่รู้เป็นเพราะความไม่พร้อมของสถานที่แข่งขัน...หรือเปล่า?

กระทั่งฟุตบอล “คิงส์คัพ 2024” ในปีนี้ ดูเหมือน “จังหวัดสงขลา” จะแสดงเจตนารมณ์ ต้องการที่จะเป็นเจ้าภาพจัดฟาดแข้งอย่างชัดเจน...ตั้งแต่ต้นมือ

สำหรับรายละเอียดของการยื่นเสนอนั้น จังหวัดจะใช้ “สนามกีฬาติณสูลานนท์” ซึ่งมีความจุ 35,000 ที่นั่ง เป็นสังเวียนโม่เกือก

โดย สนามติณสูลานนท์ ถือเป็นสนามที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย เป็นรองเพียงสนามราชมังคลากีฬาสถาน เท่านั้น

เคยจัดการแข่งขันรายการสำคัญต่างๆ มาแล้วมากมาย ทั้งฟุตบอลในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 (นัดชิงอันดับที่ 3) เมื่อปี พ.ศ. 2541 รวมถึงฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 เมื่อปี พ.ศ. 2563 หรือเมือ 4 ปีก่อน

นอกจากนี้ สนามกีฬาติณสูลานนท์ ยังถือเป็นสนามเหย้าของสโมสรสงขลา เอฟซี ในฟุตบอลไทยลีก 3

และเคยสร้างสถิติคนดูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาชีพไทย ด้วยจำนวนตัวเลข 36,715 คน ในเกมไทยลีก 2 ปี พ.ศ. 2554 ที่ สงขลา เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ เอฟซี

ด้านสนามฝึกซ้อม จังหวัดสงขลา ได้เลือกสนามถึง 6 แห่งไว้ให้นักกีฬาแต่ละชาติได้ลงฝึกซ้อม

คือ สนามมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา, สนามมหาวิทยาลัยทักษิณ, สนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย, สนามกีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สนามกีฬาจิระนคร หาดใหญ่ และสนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ (พรุค้างคาว)

ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมที่พักไปถึงสนามซ้อมและสนามแข่งขันไม่ถึง 1 ชั่วโมง

ส่วนโรงแรมที่พักและร้านอาหารนานาชาติ ก็หายห่วง เพราะได้เตรียมโรงแรมเอาไว้ 4 แห่ง คือ Laguna Grand Hotel & Spa, BP Samila Beach Hotel, Crystal Hotel Hatyai และ Buri Sriphu & Convention Centre

เพื่อรองรับนักเตะและทีมงานที่จะเดินทางมาแข่งขันอย่างเต็มที่ รวมถึงมีร้านอาหารนานาชาติอยู่ในพื้นใกล้เคียง อย่างพร้อมสรรพ

โดย นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ประธานจัดหารายได้กองทุนกีฬาจังหวัดสงขลา ได้กล่าวถึงความพร้อมในการจัดการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพครั้งนี้ว่า

“สงขลา มีความพร้อมทุกด้าน เรามีความตั้งใจและมุ่งมั่น ทุกคนในจังหวัดสงขลาต่างรอคอยฟุตบอลพระราชทานชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ มานานหลายยุคหลายสมัย”

“ก่อนหน้านี้ จังหวัดสงขลาเคยยื่นขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 เมื่อปี พ.ศ. 2565 ก่อนที่จะเป็นจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพในครั้งนั้นไป”

“เด็กๆ ชาวสงขลาไม่เคยมีโอกาสได้ดูฟุตบอลระดับชาติมานานมากแล้ว อยากให้ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ช่วยพิจารณาจังหวัดสงขลาเป็นตัวเลือก ให้ชาวสงขลา และชาวใต้ ได้มีโอกาสชมฟุตบอลระดับชาติกันอีกครั้ง หลังจากไม่เคยมาจัดนานหลายปี”

เมืองสงขลา เป็นเมืองที่มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านสนามแข่งขัน สนามฝึกซ้อม โรงแรม และเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบาย

เราอยากให้สงขลาเป็น “เมืองกีฬา” (Sport City) อย่างแท้จริง

ที่นี่เคยจัดงานกีฬาระดับนานาชาติมาแล้วหลายครั้ง ทั้ง ฟุตบอล U23, จักรยานทางไกลนานาชาติ, สงขลามาราธอนนานาชาติ ฯลฯ

นอกจากนั้นสงขลายังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรมอันหลากหลาย อาหารอร่อย แหล่งท่องเที่ยวมากมาย ที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้มาชมการแข่งขัน

หากจังหวัดสงขลา ได้รับเลือกให้จัดการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ ก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้จังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคใต้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

เรียกว่ายืนยันความพร้อมชนิดเกินร้อยในทุกองคาพยพขนาดนี้แล้ว

หวังว่าจะได้เห็น “คิงส์คัพสงขลา” เกิดขึ้นได้จริงๆ ในปีนี้...เสียที!!!

- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com