เบี้ยหงาย
ได้เวลาออกศึกกันอีกครั้ง สำหรับนักเตะไทยในสัปดาห์นี้ทั้งทีมเล็ก 23 ปี ในรายการพิเศษ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตกรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย และ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งมีภารกิจอันสำคัญยิ่งกับแมตช์คัดบอลโลกโซนเอเชียกับเกาหลีใต้
ทีม 23 ปีนั้นเดินทางเข้าสมรภูมิตั้งแต่วันอาทิตย์ตอน 4 โมงเย็นเศษๆ ตอนนี้ปักหลักอยู่ที่นั่นเรียบร้อย เตรียมลงสนามนัดแรก พบกับเกาหลีใต้ เที่ยงคืนวันที่ 20 มี.ค. ส่วนชุดใหญ่ไปกันวันจันทร์ ก่อนจะลงเตะในวันที่ 21 มี.ค. เวลา 18.00 น.
อย่างที่ทราบกันว่า ทีม 23 ปี ของ “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร นั้น ไม่มีดาวดังร่วมทัพไป ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากสโมสรไม่ปล่อยตัว ขณะที่ทีมชุดใหญ่ก็เริ่มซ้อมกันมาตั้งแต่ 14 มี.ค. และคงจะได้ซ้อมครบทีมรวมทั้งตัวผู้เล่นจากต่างแดนที่เข้าไปสมทบที่เกาหลีใต้ ก็เรียกว่าเต็มทีมกันที่นั่น พอเพียงหรือเพียงพอรึเปล่า ไม่ต้องพูดอะไรกันอีกแล้ว ถือว่าได้ลองของทดสอบทีมกันมาตั้งแต่เอเชียนคัพ มืออาชีพไม่มีคำว่าไม่พร้อม
ว่าไปแล้วทีม 23 ปีนั้น เกมนี้เกมใหญ่จริง แต่ก็ยังพอถือได้ว่าผลแพ้ชนะเป็นอีกเรื่อง แต่จะได้ประโยชน์เต็มๆกับความแข็งแกร่งของเกม เพื่อนำไปใช้กับแมตช์ทางการที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ซึ่งถือเป็นเกมคัดฟุตบอลกีฬาโอลิมปิกโซนเอเชียด้วย โดยจะแข่งกันที่กาตาร์ 15 เม.ย. ถึง 3 พ.ค.นี้
ขณะที่ทีมชุดใหญ่ภายใต้เฮดโค้ช มาซาทาดะ อิชิอิ ไม่มีมุมของการหาประสบการณ์ แต่เป็นเกมจริงที่ใหญ่สุดแล้ว ควบทั้งนัดไปเยือน 21 มี.ค. และกลับมาเตะบ้านเรา 26 มี.ค. ที่ชี้ชะตาอนาคตของทีมได้เลย ทั้งถือเป็นเกมคัดบอลโลกครั้งแรกของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯชุดใหม่ที่นำโดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคม
แน่นอนสมาคมกีฬาฟุตบอลฯชุดใหม่ให้ความสำคัญเต็มที่ และแสวงหาช่องทางที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทีม แต่ก็ต้องยอมรับด้วยความเป็นจริงที่ว่า ทุกสิ่งอย่างเราเป็นรองเกาหลีใต้อยู่มาก เว้นเพียงเสียงเชียร์ในนัดที่เล่นในบ้าน
ส่วนจะแปลงข้อดีข้อเด่นกว่าข้อเดียวนั้น ให้เป็นประโยชน์สูงสุดได้แค่ไหน เป็นเรื่องในสนามที่ต้องรอดูอย่างมีความหวังกัน!
และก็ต้องยอมรับด้วยว่าโลกความจริงของฟุตบอลนั้น ผลที่ออกมาย่อมส่งตรงต่ออารมณ์ความรู้สึก ไม่ว่าจะเข้าใจ ยอมรับ หรือโลกสวยอย่างไร
เพียงแต่จะมากหรือน้อยเป็นเรื่องส่วนบุคคล
ในช่วงที่เตรียมออกศึกกันอยู่นี้ วันก่อน มาโน โพลกิง อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทยคนก่อนหน้านี้ ไปออกรายการแห่งหนึ่ง เปิดใจถึงปัญหาในการทำทีมชาติไทย ซึ่งระบุว่าเป็นงานยากของโค้ชทุกคนที่เข้ามารับหน้าที่ เป็นเรื่องยากทั้งระบบ เพราะบางครั้งไม่สามารถเรียกนักเตะเข้ามาใช้งานได้ทุกคน และมีการแทรกแซง
“ทีมชาติไทยสามารถไปได้ไกลกว่านี้ได้ และทำได้ดีกว่านี้ได้ แต่คุณต้องทำให้นักเตะทุกคนพร้อมมาเล่นให้ทีมชาติตลอดเวลา และทีมชาติต้องสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง มาก่อนลีก มาก่อนสโมสร”
มาโนแจงอย่างคนที่สัมผัสตรงกับปัญหา ในความสัมพันธ์ เชื่อมโยงระหว่างทีมชาติ ลีก และสโมสร เมื่อลีกทำเงินไม่ได้จริงก็ทำให้เกิดผู้มีอิทธิพลต่อทีมไปโดยปริยาย หลายอย่างก็รู้ๆกันอยู่ มีพูดกันบ้าง แต่ไม่เคยเอามาแก้ไขอย่างจริงจัง น่าสนใจดี ลองไปหาอ่านกันได้
สัปดาห์นี้ทีมชาติไทยจะลงสอบ สอบด้วยข้อสอบจริง รอให้คะแนนกัน...
“เบี้ยหงาย”
คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม