หน้าแรกแกลเลอรี่

อย่าคิดดึงกลับไทย!!

บี บางปะกง

31 ม.ค. 2567 14:41 น.

อย่าคิดดึงกลับไทย!!

ภารกิจบู๊แข้งของทีมลูกหนังชาติไทย ในศึกเอเชียนคัพ 2023 เสร็จสิ้นลงแล้วละครับ!!

เสียดายที่ทัพช้างศึกของเรา อดสร้างประวัติศาสตร์ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลชิงเจ้าเอเชียครั้งนี้

หลังปราชัยให้กับ อุซเบกิสถาน ทีมอันดับ 68 ของโลก อย่างหวุดหวิด 1-2 

จบเส้นทางที่รอบ 16 ทีม เช่นเดียวกับหนที่แล้ว เมื่อปี 2019

ซึ่งน่าจะเกิดจากแผนการจัดตัวของโค้ชมาซาทาดะ อิชิอิ ที่ค่อนข้างพลิกโผในช่วงครึ่งแรก 

กะว่าจะยันเสมอไว้ก่อน แล้วค่อยมาบดเอาประตูในครึ่งหลัง แต่ดันมาโดนอุซเบฯ ยิงขึ้นนำ ก็เลยผิดแผนไปหน่อย 

แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นไปตามเนื้อผ้า เพราะจะว่าไปแล้วฟอร์มของนักเตะ “หมาป่าขาวแห่งเอเชียกลาง” ในเกมนี้

ก็ดูดีกว่าเราอย่างชัดเจนจริงๆ 

แสดงให้เห็นถึงรอยห่างของทีมที่จะก้าวไปเป็นแถวหน้าระดับเอเชีย 

ว่าต้องพัฒนากันแบบไหน อย่างไร? ต่อไป 

ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายของกุนซือซามูไร ที่จะเก็บไว้เป็นการบ้านในช่วงเวลาที่เหลือ 

ก่อนที่จะลงทำศึกคัดบอลโลก 2026 โซนเอเชีย กับ เกาหลีใต้ ในช่วงเดือนมีนาคม เป็นด่านต่อไป   

อย่างน้อย อิชิอิ ก็คงได้เห็นแล้วว่า ขุมกำลังทีมช้างศึกที่เขาใช้งานในทัวร์นาเมนต์นี้ 

ใครบ้างที่เล่นได้ เล่นไม่ได้ กับแท็กติกทีมชาติ ที่เจ้าตัวพยายามใส่ลงไปตลอดทั้ง 4 เกมที่ผ่านมา 

โดยในส่วนฟีดแบ็กของแฟนบอลชาวไทยส่วนใหญ่ ค่อนข้างพอใจในผลงานการประเดิมจ๊อบแรกของโค้ชมาซะ 

ที่สามารถทำทีมชาติไทยในระยะเวลาอันสั้น และมีเวลาเตรียมทีมเพียงน้อยนิด  

ให้ต่อกรกับชาติเอเชียที่มีแรงกิ้งฟีฟ่าสูงกว่าเรา ได้อย่างน่าดูชมในทุกแมตช์   

เรียกว่าเป็นบอลที่มีทรง บวกรูปแบบการเล่นที่มีประสิทธิภาพ 

น่าชม น่าเชียร์ มากกว่าหลายปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ 

ซึ่งในส่วนตัวแล้วสิ่งที่ผมชื่นชม อิชิอิ มากที่สุด 

คือการใช้ทรัพยากรผู้เล่นที่เลือกมาลุยกาตาร์ ได้อย่างคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง

จากทั้งหมด 26 คนในทีม มีเพียง “แชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวารจอมเก๋าพี่ใหญ่ของทีมเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่ได้ลงเล่น 

ส่วนที่เหลืออีก 25 คน ได้รับโอกาสให้ลงสนามทั้งหมด 

โดย “เคน” พิชา อุทรา เป็นผู้เล่นคนสุดท้าย ที่ถูกใช้งานในเกมล่าสุด     

ซึ่งนี่คือสิ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพความเป็นยอดกุนซือของ อิชิอิ ได้เป็นอย่างดี 

ถูกต้องแล้วครับที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม 

จะมีแพลนต่อสัญญาให้เขาออกไปอย่างน้อย 2 ปี 

ที่จะทำให้เจ้าตัว ได้มีเวลาปรับจูนทีมชาติของเรา ได้อย่างเป็นเนื้อ เป็นหนัง

อันน่าจะส่งผลบวกต่อวงการฟุตบอลไทยในภาพรวม...ที่ติดลบเรื่องการพัฒนามาเนิ่นนาน  

โดยเฉพาะการที่โค้ชอิชิอิ กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา หลังจบเกมกับอุซเบกิสถานว่า...  

"จากเกมนี้ สิ่งที่เราต้องปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่เฉพาะทีมชาติไทยอย่างเดียว แต่รวมถึง ไทยลีก และสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ด้วย"

“เราต้องพยายามต่อยอดอย่างต่อเนื่อง เพราะทุกภาคส่วนก็มีความสำคัญ” 

“ทั้งฟุตบอลในประเทศ และสมาคมฯ ก็ต้องปรับปรุงทั้งระบบ และช่วยกันเพื่อเดินหน้าไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงหลังจากนี้"

และอีกอย่างที่ผมอยากจะเสริมอิชิอิ ก็คือการเปลี่ยนทัศนคติของทีมสโมสรในบ้านเรา

ถ้าคุณอยากเห็นทีมชาติไทยไปบอลโลกกันจริงๆ 

ต้องช่วยกันผลักดันนักเตะฝีเท้าดีไปค้าแข้งในลีกต่างประเทศกันเยอะๆ

ไม่ใช่คิดแต่จะดึงกลับมาเล่นให้ทีมตัวเอง เพื่อเอาผลงานในไทยลีก  

เหมือนที่บางสโมสร (บิ๊กๆ) พยายามจะทำในเอเชียนคัพคราวนี้ 

ถึงขนาดมีข่าวหนาหูว่าไปตื๊อ “นิคโก้” นิโคลัส มิคเกลสัน วิงแบ็กพลังม้าของ โอบี โอเดนเซ่ ถึงแคมป์กาตาร์  

ซึ่งถามว่าทำแบบนี้...แล้วมันส่งผลดีกับทีมชาติ และ ตัวนักเตะ ยังไง?

แทนที่จะช่วยกันส่งเสริมให้นักฟุตบอลไทย...ก้าวไปข้างหน้า 

แต่นี่ดันมาชวนให้ถอยหลังลงคลอง  

มันน่าจับเบิ๊ดกระโหลก..ซะให้เข็ด!!! 

บี บางปะกง 
  joggingboy_be@yahoo.com