หน้าแรกแกลเลอรี่

จุดตั้งต้น

เบี้ยหงาย

2 ม.ค. 2567 05:07 น.

ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นที่สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันวาน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย เปิดศักราชใหม่ และประเดิมก้าวแรกของทีมภายใต้โค้ชคนใหม่ล่าสุด มาซาทาดะ อิชิอิ ด้วยการแพ้ต่อญี่ปุ่น ทีมอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 17 ของโลก ไป 5-0

สกอร์ที่ออกมาเชื่อว่าไม่ได้ทำให้แฟนบอลส่วนมากแปลกใจแต่อย่างไร ด้วยเป็นข้อเท็จจริงอย่างที่รับรู้ รับทราบ และประเมินกันได้เองมาแต่ต้น

ซึ่งก็ไม่ได้หมายถึงการดูถูกดูแคลนกันแต่อย่างไร

และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อไปแน่นอน!

จากหลากหลายคอมเมนต์ที่เกิดขึ้น น่าสนใจที่มีผู้คนไม่น้อย แม้ไม่ได้พึงพอใจกับสกอร์ที่ออกมา แต่ก็ยังสะท้อนถึงบางแง่มุมที่เกิดในเชิงบวก

ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเล่นที่ดีขึ้น โดยเฉพาะเกมรับในช่วงครึ่งแรกกับนักเตะชุดแรกที่ไม่มีดาวดังหลายคนร่วมทีม จนบางคนเรียกว่าเป็นชุดบีไปเลย ซึ่งก็ยันญี่ปุ่นไว้ได้ใน 45 นาทีแรก

รวมถึงระยะเวลาในการเตรียมทีม ทำทีมของ อิชิอิที่เพิ่งมาคุมจริงๆไม่กี่วัน

ทั้งได้เห็นศักยภาพของนักเตะหลายๆคนในการลงสนามจริงกับทีมที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งอย่างญี่ปุ่น อันจะเป็นข้อมูลที่ชัดเจนและมีค่ายิ่งต่อการบริหารจัดการของโค้ชอิชิอิอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

อารมณ์ความรู้สึกของแฟนบอลในโลกออนไลน์ก็ไม่ได้รุนแรง ร้อนลุ่ม เกรี้ยวกราด อย่างที่เกิดขึ้นหลังเกมซึ่งทีมไทยพ่ายแพ้หมดรูปหลายๆครั้งในอดีต

นี่คงเป็นเรื่องดีๆบนความพ่ายแพ้ ที่สามารถเป็นพลังบวก เพื่อสิ่งที่ดีขึ้นในวันข้างหน้า!

อิชิอิประกาศออกมาชัดเจนถึงเป้าหมายในการเข้ามาคุมทีมชาติไทย ในการไปฟุตบอลโลก 2026 เป็นครั้งแรก โดยเขาบอกผ่านสื่อไว้ว่า มันเป็นเป้าหมายใหญ่และยิ่งใหญ่ ทั้งเรียกร้องขอให้ทุกฝ่ายมาสนับสนุนฟุตบอลไทยไปด้วยกัน และน้อมรับการวิจารณ์ที่จริงจังซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาทีมชาติไทยต่อไป

แต่ก่อนจะถึงแมตช์คัดบอลโลกที่เหลือ ในอีกราวๆสองสัปดาห์ข้างหน้า อิชิอิจะต้องนำทีมชาติไทยของเราลงสนามในศึกฟุตบอลเอเชียนคัพที่กาตาร์ โดยรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก ไทยเราจะพบกับคีร์กีซสถาน 16 ม.ค. ถัดไป 21 ม.ค. พบโอมาน และปิดท้าย 25 ม.ค. เจอซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะคัดเอาทีมที่ 1 และ 2 ในกลุ่ม ร่วมกับทีมอันดับ 3 ที่ดีสุด 4 ทีม จาก 6 กลุ่ม เข้ารอบต่อไป

ผลพวงจากการพ่ายญี่ปุ่นไปยับเยินในครั้งนี้ เสียเวลาที่จะตีโพยตีพายกันไป หรือตำหนิติเตียนอะไร และกับใครก็ตาม

ด้วยนี่คือจุดตั้งต้นของทีมชาติไทยในวงรอบใหม่ ได้เห็นพื้นฐาน รับรู้มาตรฐานด้วยกันแล้ว หลังจากนี้ต่างหากจะเป็นบทพิสูจน์ฝีมืออิชิอิ และนักเตะไทย

จะพัฒนาขึ้นจนเป็นความคาดหวังกันได้หรือไม่ ภาพจะค่อยๆปรากฏขึ้นมาเอง...

“เบี้ยหงาย”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม