หน้าแรกแกลเลอรี่

การบ้านช้างศึก

บี บางปะกง

21 ต.ค. 2566 06:00 น.

การบ้านช้างศึก

หลังจากภารกิจการลงสนามอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ของทัพช้างไทยในแดนยุโรปจบลง 

ต่อจากนี้ไปก่อนจะเข้าสู่ศึกการดวลแข้ง ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จะถึงในเร็วๆ นี้นั้น 

ผู้เกี่ยวข้องในการเตรียมทีมคงจะต้องทำการบ้าน และกำหนดแผนกลยุทธ์เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จให้เห็นผลในเชิงประจักษ์และจับต้องได้กันต่อไป

การเตรียมการแบบเดิมๆ ภายใต้ปัญหาสารพัน ซึ่งวงการลูกหนังโลกหรือชาติอื่นที่ประสบความสำเร็จเขาก้าวข้ามไปแล้ว 

ในกรณีนี้หากบ้านเรายังอยู่กับวังวน หรือหลุมดำดังที่ผ่านมา โอกาสที่บอลไทยจะได้ไปอวดศักดาในมหกรรมบอลโลก ดังที่ทุกภาคส่วนคาดหวัง

ก็อาจจะเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น

ด้วยโจทย์ที่กำลังรอความท้าทายอยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะการสู้ศึกคัดบอลโลก ที่ทีมช้างศึกต้องลงสนามสู้กับนักเตะระดับชั้นนำ ที่มีความมุ่งมั่นภายใต้แรงผลักดันของคนในชาติ 

อย่าง เกาหลีใต้ และสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้ง สิงคโปร์ นั้น

วันนี้แฟนบอลยังไม่ทราบว่าสมาคมกีฬาลูกหนังในฐานะองค์กรหลักที่รับผิดชอบโดยตรงจะมีแผน หรือมาตรการใดออกมารองรับ

การบริหารจัดการภายใต้การประสานสัมพันธ์กับสโมสรในไทยลีกเพื่อให้ได้มาซึ่งนักเตะ หรือขุมกำลังที่ดีที่สุด จึงเป็นหนึ่งในมิติที่ต้องเตรียมการแต่เร็ววัน

หากทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการแบบสากลนิยม หรือดังที่ชาติชั้นนำของวงการลูกหนังโลกได้ทำให้เห็นมาแล้ว

โอกาสที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายก็คงไม่น่าจะไกลมากนัก

วันนี้การบริหารจัดการภายใต้กระบวนทัศน์ และแผนงานที่เป็นระบบของนักบริหารมืออาชีพอย่างแท้จริง จึงเป็นหนึ่งในมิติที่ผู้เกี่ยวข้องพึงตระหนักและขับเคลื่อนให้เห็นผล

กลับมาที่ทัพช้างศึกกับการรอรับการมาเยือนของนักเตะจากแดนมังกรจีนในรายการบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดแรก วันที่ 16 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน

ซึ่งการพบกับนักเตะจากแผ่นดินใหญ่ในวันดังกล่าวนั้น ถือว่าเป็นอีกครั้งที่ไทยเราจะต้องเจอกับก้างชิ้นโต ยิ่งเมื่อส่องไปดูที่แรงกิ้งพบว่าปัจจุบันจีนอยู่อันดับที่ 80 ของโลก

ขณะเดียวกันผลงานการลงสนามอุ่นเครื่องที่ผ่านมานักเตะจากกำแพงเมืองจีนภายใต้การนำของเฮดโค้ชชาวเซอร์เบียร์ อาเล็กซานดาร์ ยานโควิด กำชัยเหนือคู่ต่อกร 2 เสมอ 1 และแพ้ 1 นัด

ที่น่าสนใจยังคว้าตำแหน่งที่ 3 ในศึกชิงแชมป์เอเชียแห่งชาติตะวันออก ภายใต้ผลงาน แพ้เกาหลีใต้ และ ชนะฮ่องกง1:0 จากผลงานดังกล่าวหากนำมาเทียบกับช้างศึกไทยต้องยอมรับว่าจีนเหนือกว่าอยู่หลายขุม

อย่างไรก็ตาม การได้เล่นในบ้านนัดแรกของทีมชาติไทยหากมีการเตรียมทีมดีๆ มีขุมกำลังนักเตะชั้นนำครบครันภายใต้แรงเชียร์จากสาวกลูกหนังหรือผู้เล่นคนที่ 12 โอกาสที่ช้างศึกไทยจะเก็บ 3 แต้มไว้ก่อนก็มีโอกาสเช่นกัน

หลังจากนั้นเมื่อผ่านการดวลกับจีนในนัดแรกแล้ว นัดที่สองวันที่ 27 พฤศจิกายน ขุนพลทัพไทยจะต้องจัดกระเป๋าออกไปเยือนนักเตะเพื่อนบ้านย่านอาเซียนอย่างทีมลอดช่องสิงคโปร์ 

และวันนี้ถึงแม้สิงคโปร์จะมีดีกรีอยู่ที่อันดับ 160 ของโลกก็ตามแต่หากพิจารณาจากการพบกันในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมาก็ใช่ว่าทีมชาติไทยจะชนะโดยง่าย

ยิ่งประกอบกับการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งภายใต้ศักดิ์ศรี และความคาดหวังของคนในชาติทีมสิงคโปร์คงจะสู้อย่างสุดฤทธิ์เช่นกัน

เมื่อผ่านพ้นการประลองแข้งกับจีนและสิงคโปร์ใน 2 แมตช์แรก ผลงานที่ออกมาเมื่อถึงวันนั้นคงพอจะเห็นรำไรแล้วว่า

ความหวังและโอกาสกับการที่จะทะลุสู่รอบที่สามในบอลโลก 2026 มีมากน้อยแค่ไหน

ที่น่าสนใจเมื่อกล่าวถึงการทำการบ้านหรือเตรียมทัพให้พร้อมที่สุดของกับการสู้ศึกในระดับเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นคัดเลือกบอลโลก 2026 หรือ เอเชียนคัพ 2023 

ล่าสุดการอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ครั้งต่อไป ขณะนี้ได้ข้อยุติแล้วว่าในวันเริ่มต้นปีใหม่ 1 มกราคม 2567

ช้างศึกไทยจะได้บู๊แข้งกับนักเตะซามูไรญี่ปุ่น ซึ่งเป็นทีมชั้นนำอันดับ 19 ของโลก ณ สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงโตเกียว

บทสรุปจากสภาพการณ์ และปัญหาที่ทัพช้างศึกต้องเผชิญมาอย่างต่อเนื่อง

หากต้องการให้ทึมชาติไทยมีโอกาสที่จะไปอวดศักดา หรือโลดแล่นในบอลโลกหรือรายการสำคัญระดับเอเชีย

คำถามจึงมีอยู่ว่าวันนี้สมาคมกีฬาลูกหนัง พร้อมหรือยังกับการที่จะทำการบ้าน

เพื่อเดินหน้าสำหรับพัฒนา และทลายกำแพงไปสู่ทิศทางอนาคตที่ดีกว่า

รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร

OOOOOOOO

ก็หวังว่าบทเรียนที่ทุกฝ่ายได้รับจากกระแส “ดราม่า” ของทีมชาติไทย ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ที่ผ่านมา 

จะทำให้ผู้บริหารสมาคมลูกหนัง และผู้รับผิดชอบทีมช้างศึก 

ได้ “หูตาสว่าง” และตระหนักแก่ใจแล้วว่า 

ถ้ารักชาติอย่าเก่งแต่ปาก หรือเอาแต่โพสต์หล่อๆ ในโซเชียล  

แต่ให้ลงมือทำวันนี้ และตอนนี้ อย่างจริงจังและจริงใจ 

ผมเคยบอกอยู่เสมอว่าผลงานทีมช้างศึก เปรียบเหมือน “สินค้าหน้าโชว์รูม” 

ถ้าภาพลักษณ์หน้าร้านมันออกมาสวยงามและดูดี 

ใครก็อยากแวะเวียนมาเยี่ยมชมสินค้าด้านใน

ตรงข้ามกันถ้าทุกอย่างมันดูขี้ริ้ว ขี้เหร่ ไม่เตะตาผู้คน 

ต่อให้หลังร้านมีดีแค่ไหน...ก็ไร้ค่า ไร้ประโยชน์ 

เชื่อผมเหอะ !!!  

- บี บางปะกง - 
        joggingboy_be@yahoo.com