ไทยรัฐออนไลน์
ฮีโร่ผู้ตีเสมอเอสโตเนีย เปิดใจถึงน้ำตากับประตูแรกในทีมชาติไทย เผยทุกความในใจจากทีมชุดลุยยุโรป
วันที่ 18 ตุลาคม 2566 จักพัน ไพรสุวรรณ กองหลังทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์หลังเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ ออกไปเสมอ ทีมชาติเอสโตเนีย 1-1 เมื่อคืนที่ผ่านมา กอบกู้ศรัทธาจากแฟนบอลกลับมาได้ หลังแพ้ ทีมชาติจอร์เจีย 0-8
เกมนี้ จักพัน ไพรสุวรรณ เป็นฮีโร่ขึ้นมาโหม่งทำประตูตีเสมอ 1-1 ให้ทีมชาติไทยในนาทีที่ 76 จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม หลังโดน เฮนรี อานิเยร์ ยิงให้ เอสโตเนีย ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 71 ซึ่งถือเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในนามทีมชาติด้วย จนมีภาพที่หลั่งน้ำตาออกมาระหว่างดีใจ กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกโซเชียล
ล่าสุด เจ้านุก ออกมาเปิดใจถึงประตูแรกในนามทีมชาติไทยว่า "ผมว่าเป็นเกมที่พวกเรามุ่งมั่นตั้งใจกันมากๆ ครับ อย่างที่หลายคนรู้กันว่าก่อนเกมเจอ เอสโตเนีย พวกเราทำผลงานได้ไม่ดี แมตช์นี้จึงตั้งใจและคาดหวังกันมากว่าจะต้องทำผลงานให้ดีที่สุดครับ"
"ส่วนประตูที่ทำได้ก็เหมือนคลายความกดดันออกจากอกไปมากๆ เลยครับ มันมีหลายๆ อย่างเข้ามา ผมเชื่อว่าน่าจะได้เห็นน้ำตาของผมแหละ ผมว่าสิ่งนั้นมันคือคำตอบจริงๆ"
จักพัน ยังพูดถึงนัดต่อไปของ "ช้างศึก" ที่จะลงเตะฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มซี นัดแรก เปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน ต้อนรับ ทีมชาติจีน วันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ว่า "หลังจากนี้ก็จะกลับไปทำผลงานในสโมสร เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับทีมชาติต่อไป ถ้าได้โอกาสมารับใช้ชาติอีก แน่นอนว่าผมจะทำผลงานอย่างเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์เสมอครับ"
แนวรับจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังพูดถึงผู้เล่นทีมชาติไทยชุดนี้ ซึ่งไม่ใช่ชุดฟูลทีมว่า "จริงๆ มันก็ใหม่แทบจะทั้งหมด รวมถึงตัวผมเองด้วย ถึงจะเคยติดทีมชาติหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ลงเล่นเยอะมาก แต่ผมว่าแคมป์นี้มันดูแฮปปี้และเป็นครอบครัวเดียวกัน หลายคนอาจจะไม่เคยเจอกัน ไม่เคยเล่นด้วยกันก็จริง แต่ทุกคนก็ปรับตัวเข้าหากัน พูดคุยกัน"
"ยิ่งหลังจบนัดแรก (แพ้ ทีมชาติจอร์เจีย 0-8) ที่เราทำผิดพลาดไป กลับมาอีกแมตช์หนึ่งทุกคนยิ่งเข้าหากันมากขึ้น ทำให้นัดนี้กลายเป็นเกมที่ดีครับ การมายุโรปครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีแทบจะในรอบ 50-60 ปีของทีมชาติไทยเลยก็ว่าได้"
"ผมว่าพวกเราก็โชคดีด้วยที่ได้มาทัวร์กับทีมชาติ ได้อะไรหลายอย่างในเกมการแข่งขัน ทั้งความเร็วของการเล่นหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมว่ากลับไปครั้งนี้เราสามารถนำมาปรับใช้ได้อีกเยอะเลยครับ"