ไทยรัฐออนไลน์
ประมุขลูกหนังไทย ผุดไอเดียเด็ด ขจัดการจุดพลุแฟลร์ อันนำมาซึ่งค่าปรับมโหฬาร แก้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ความเคลื่อนไหว ฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ช่วงหลังมีปัญหาบริเวณอัฒจันทร์โซน s ถูกแฟนบอลกลุ่มหนึ่งจุดพลุแฟลร์จนต้องจ่ายค่าปรับบานเบอะ
ไล่เรียงโทษที่สมาคมฯ ถูกปรับ จากการจุดพลุแฟลร์ ตั้งแต่ปี 2014
ฟุตบอล 16 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2014 ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม ถูกปรับ 11,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 363,000 บาท)
ฟุตบอลเอเอฟเอฟ แชมป์เปียนชิพ 2016 ณ ราชมังคลากีฬาสถาน ถูกปรับ 30,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,039,200 บาท)
ฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย 2023 ณ พัทยา จ.ชลบุรี ถูกปรับ 70,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,424,800 บาท)
ฟุตบอลเอเอฟเอฟ แชมเปียนชิพ 2022 ณ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม ถูกปรับ 20,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 692,800 บาท)
ล่าสุดเกิดขึ้นในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2023 รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบ 8 ทีมสุดท้าย ไทย แพ้ เกาหลีใต้ 1-4 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ บีจี สเตเดียม โดยทีมข่าวไทยรัฐสปอร์ตได้รับรายงานว่า มีจำนวนพลุ 8 ชิ้นที่ถูกจุด และมีขว้างสิ่งของลงสนาม แหล่งข่าวยืนยันว่าสมาคมฯ จะปรับเป็นชิ้น อยู่ที่หลักแสนบาทเป็นอย่างต่ำ
แต่ "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เตรียมผุดไอเดีย นำแผนที่เคยใช้สนามอดีตคือ การนำนักเรียน นักศึกษา ให้ไปเชียร์กันที่บริเวณโซน เอส เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวอีกครั้ง
โดยแมตช์ที่เคยใช้ต้องย้อนไปในสมัยฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 3 วันที่ 23 มีนาคม 2560 ระหว่าง ทีมชาติไทย ปะทะ ซาอุดีอาระเบีย โดยครั้งดังกล่าวเปิดให้นักเรียน นักศึกษา ลงทะเบียนรับบัตรฟรีทั้งหมด 751 ใบ ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน