บี บางปะกง
ถ้าอยากลองอะไรใหม่ๆ ที่ท้าทายกว่าเก่า ก็ลองยกหูติดต่อ โค้ชหนุ่ม "เคสึเกะ ฮอนดะ"
ภารกิจช้างศึก ภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซือมาโน โพลกิง..ในฟุตบอลชิงเจ้าอาเซียน
บรรลุเป้าหมายไปแล้วเปลาะหนึ่งครับ!
หลังนักเตะไทยอาศัยลูกเก๋า กร่ำประสบการณ์ อัดกัมพูชา 3-1
ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม เอ ได้ตามเป้าที่วางไว้
ซึ่ง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ก็ไม่ลืมที่จะทำตามสัญญา
ด้วยการควักกระเป๋าอัดฉีดน้องๆ ในทีมถึง 5 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อย
และเชื่อว่าน่าจะมีตามมาอีกหลายกำปั้น
หากลูกทีมสามารถป้องกันถ้วยอาเซียนคัพใบนี้ไว้ได้สำเร็จ
ไม่รู้แฟนๆ รู้สึกอย่างผมหรือเปล่า?
กับชัยชนะเหนือนักเตะทีมปลากรอบในครั้งนี้
ถามว่าดีใจมั้ย...ที่ทีมช้างศึกเข้ารอบ
ไอ้ดีใจน่ะ..ดีใจแน่ แต่บอกตามตรง ว่ามันยังไม่สุด...ยังไงไม่รู้
ซึ่งก็น่าจะเกิดจากความคาดหวัง..ที่อยากจะเห็น “ทีมชาติไทย” มีทรงบอลที่น่าประทับใจมากกว่านี้
มีพัฒนาการ และรูปแบบ แนวทางการเล่นที่ชัดเจน
ใม่ใช่อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะหน้าเดิมๆ
เอาตัวรอดไปได้ ในแต่ละแมตช์..อย่างที่เห็น
ต่างจากผู้แพ้ อย่าง “ทีมชาติกัมพูชา” ที่ทุกคนเห็นเขาเล่นแล้ว
บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ‘ดูดี มีอนาคต’
และจะเป็นทีมที่น่ากลัว ที่ก้าวขึ้นมาเป็น “เสืออาเซียน” ตัวใหม่..
ในอีกไม่ช้าไม่นาน อย่างแน่นอน!!
โดยทั้งหมดคงต้องยกความดี ความชอบ ให้กับการทำทีมของ “เคสึเกะ ฮอนดะ” อดีตแข้งซูเปอร์สตาร์ทีมชาติญี่ปุ่น
ที่ได้รับโอกาสให้เข้ามาสร้างทีมลูกหนังกัมพูชา ยุคใหม่
ในสไตล์ “เจแปนเวย์” อย่างจริงจัง มาไม่ต่ำกว่า 5 ปีแล้ว
ซึ่งผลงานของ ฮอนดะ เป็นที่ประจักษ์ชัด ว่าเจ้าตัวได้เข้ามายกระดับทีม “นักรบอังกอร์”
จากที่เมื่อก่อนเคยมีสถานะเป็นแค่ “ไม้ประดับ” ในภูมิภาคนี้
ให้กลายเป็นทีม “อันตราย” ที่น่าจับตาไปทั้งอาเซียน...ในปัจจุบัน
ดูได้จากเกมล่าสุดที่พวกเค้าเล่นกับทีมชาติไทย
ต้องยอมรับว่า นักเตะพลังหนุ่มกัมพูชา เล่นได้ดีผิดหู ผิดตาจริงๆ
กล้าเลี้ยง กล้าลุย เซตบอลสู้กับคู่แข่งแบบเท้าต่อเท้า ตั้งแต่แดนตัวเอง เข้าหาคู่ต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญ ยังหาจังหวะทำประตูทีมช้างศึกได้หลายต่อหลายครั้ง
จนมายิงไล่ได้หนึ่งลูกในครึ่งหลัง
ซึ่งต้องชื่นชม ฮอนดะ มากๆ ที่ปลูกฝังให้ลูกทีมทุกคนลบความกลัวทิ้งจากใจ
แล้วหันมาวิ่งไล่บี้ฝั่งตรงข้ามทุกตัว..แบบไม่เกรงหน้าอินทร์ หน้าพรหม ใกล้ตัวไหน เอาตัวนั้น
แถมเวลาถูกบีบ ถูกเพรสเข้าใส่ ยังกล้าต่อบอลทำชิ่งในพื้นที่แคบๆ อย่างแม่นยำอีกต่างหาก
เรียกว่า “กึ๋น” ในการทำทีมของกุนซือแดนซามูไรผู้นี้
เป็นอะไรที่มาแรง และเข้าตากรรมการ ที่สุดแล้ว ขอบอก
ดังนั้นเลยอยากฝากถึงสมาคมลูกหนังไทย โดยเฉพาะ “มาดามแป้ง” ที่รับผิดชอบทีมชาติยุคนี้แบบเต็มๆ
จบอาเซียนคัพแล้ว กุนซือมาโน สัญญาหมดพอดี
ถ้าอยากลองอะไรใหม่ๆ ที่ท้าทายกว่าเก่า
ก็ลองยกหูติดต่อ โค้ชหนุ่ม “เคสึเกะ ฮอนดะ”
พร้อมทีมงาน “Made in japan” แบบออริจินัล..ของเค้าดู
เผื่อ “ทีมชาติไทย” ของเรา...
จะได้มีอะไรที่ตื่นเต้นชวนติดตาม...อย่างมีความหวัง
มากกว่าที่เป็นอยู่ !!!