บี บางปะกง
ข้อจำกัด ณ ปัจจุบัน
หลังจากที่ผม..ออกมาใบ้ว่า “บิ๊กยอยักษ์”
กำลังจะถูกดันให้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทน ของ “บิ๊กอ๊อด” พล ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
ในตำแหน่งประมุขลูกหนังไทยคนต่อไป ซึ่งจะมีการเลือกตั้งกันขึ้น ในอีกปีเศษๆ ข้างหน้า
ก็ดูเหมือนว่าหลายคนจะพุ่งเป้าไปที่ “บิ๊กหยิม” ยุทธนา หยิมการุณ อุปนายกสมาคมลูกหนัง
ที่ช่วงหลังๆ มีบทบาทมากขึ้นทุกที กับการบริหารสมาคมฯ ในส่วนต่างๆ
โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นหัวใจหลัก คือ ทีมชาติชุด ยู 23 และทีมชาติชุดซีเกมส์ ที่กัมพูชา
ถามว่า ทำไม? ผมถึงมองว่า “ทีมช้างศึก 23 ปี” กับ “ทีมซีเกมส์” เป็นอะไร..ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยุคนี้ ต้องเน้นหนัก
เพราะทีมชุดนี้ เป็นทีมแห่งอนาคต ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นทีมชาติชุดพรีโอลิมปิก และชุดใหญ่ในอนาคตอันใกล้
ที่สำคัญการถูกกดดันจากท่านประธานโอลิมปิก “บิ๊กป้อม” พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ซึ่งต้องการเห็นทีมชาติไทย กลับมาคว้าเหรียญทองซีเกมส์ให้ได้อีกครั้งในปีหน้า
ถือเป็นประเด็นหลักที่ทำให้สมาคมฯ ต้องออกแอ็กชันกับทีมช้างศึกพลังหนุ่มชุดนี้...มากกว่าชุดอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
ถึงขนาดลงทุนปรับเปลี่ยนปฏิทินฟุตบอลลีกกันใหม่ให้จบเร็วขึ้น เพื่อจะได้เอื้อกับคิวเตะซีเกมส์ให้มากที่สุด
ด้วยมองว่าทีมชาติชุดใหญ่ คงไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว!!
เพราะมี “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม คอยดูแลทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ ว่าทำไม “บิ๊กหยิม” ยุทธนา จึงได้ถูกส่งให้มารับผิดชอบทีมชาติชุดนี้...เป็นพิเศษ
ซึ่งแม้เจ้าตัวจะเรียกตำแหน่งของตัวเองว่า “ผู้อำนวยการทีมชาติไทย” รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
แต่ขอบเขต และหน้าที่ มันก็ไม่ผิดอะไรกับ ตำแหน่ง “ผู้จัดการทีมชาติ” เหมือน มาดามแป้ง นั่นแหละ !!
โดยที่ผ่านมา “บิ๊กหยิม” ต้องเดินสายติดต่อพูดคุยเพื่อหากุนซือที่เหมาะสม...เข้ามาคุมทัพ ด้วยตัวเอง
ซึ่งก็มีชื่อของทั้ง “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน และ “โค้ชเทกุ” มาโกโตะ เทกุระโมริ อดีตกุนซือ บีจี ปทุม โผล่เข้ามาเป็นแคนดิเดต
แต่สุดท้ายแล้ว ก็น่าจะเป็น “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร ที่เป็นตัวเลือกสุดท้ายของ “บิ๊กหยิม” ไปเรียบร้อย
และคงจะมีการเปิดตัวกันอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 8 พ.ย. นี้แล้ว
ขณะที่แฟนฟุตบอลบ้านเรา...พอได้เห็นชื่อของเฮดโค้ชยู 23 เท่านั้น ก็พากันส่ายหน้า (ตามคาด)
เพราะไม่ค่อยเชื่อมั่นในฝีไม้ลายมือเท่าใดนัก
โดยวันก่อน “พี่เอก มังกรทอง” เอกพงศ์ โพธิ์อ่อง อดีตเหยี่ยวข่าวกีฬามือเก๋า ที่คลุกคลีอยู่กับฟุตบอลไทยและทีมชาติมานานกว่า 2 ทศวรรษ
โทรมาคุยกับผมถึงประเด็นนี้ด้วยความเป็นห่วง “บิ๊กหยิม” ว่า น่าจะหากุนซือที่เหมาะสมกว่า “โค้ชหระ”
เพราะไหนๆ จะสร้างทีมระยะยาวกันแล้ว ก็ควรมองไปที่โค้ชเกรด A ที่เป็นแถวหน้าของวงการอย่างแท้จริง
ยิ่งถ้าเป็นกุนซือที่มีดีกรีเป็นอดีตซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติ ที่มีบารมีมากพอ อย่าง โค้ชแบน หรือโค้ชซิโก้ ได้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่
เนื่องจากเด็กรุ่นนี้ ยังพอได้ทันเห็นความยอดเยี่ยมของพี่ๆ รุ่นนี้ ตอนที่เป็นนักเตะว่าเจ๋งเป้งเพียงใด
ซึ่งนั่นจะมีผลต่อความศรัทธา ที่ทำให้พวกเขาเคารพเชื่อฟังคนเป็นโค้ช...ได้อย่างดีที่สุด
ผมเองก็คิดเหมือนกับ “พี่เอก” นั่นละครับ!
ไม่ใช่ว่า “โค้ชหระ” ไม่ดี เพียงแต่เขาไม่น่าจะเหมาะกับตำแหน่ง “เฮดโค้ช” ก็เท่านั้น
ถ้าเป็นผู้ช่วยโค้ช ที่คอยให้ข้อมูล หรือทำหน้าที่สเกาต์ดูฟอร์มคู่ต่อสู้ เหมือนอย่างที่เคยเป็นมือขวาให้ โค้ชนิชิโนะ ในทีมชาติชุดใหญ่ น่าจะเวิร์กกว่า
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงทัศนะส่วนตัวของผม และ “พี่เอก” ที่อยากจะเห็นทีมชาติ 23 ปีและทีมช้างศึกชุดซีเกมส์ของบิ๊กหยิม..ดูดีกว่านี้
ซึ่งก็คงไม่ต่างจากความคิดของแฟนลูกหนังไทยทั่วไปในตอนนี้นักหรอก
แต่ที่สุดแล้ว ทุกอย่างก็คงเป็นเรื่องของความเหมาะสม และ “ข้อจำกัด” บางอย่าง...ในการทำทีมของคนเป็นผู้บริหาร
ที่คงไม่มีใครล่วงรู้ว่ามีอะไรกันบ้าง
โดยเฉพาะเหตุผลเรื่องเพดาน “ค่าจ้าง” กับสถานภาพทางการเงินของสมาคมฯ ณ ปัจจุบัน
น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ...ของการตั้งโค้ช...มากที่สุดแล้ว !!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com