หน้าแรกแกลเลอรี่

ชำแหละ 4 ประเด็นร้อนหลัง "ทีมชาติไทย" เชือด "ตรินิแดดฯ" คว้าที่ 3 คิงส์คัพ

ไทยรัฐออนไลน์

26 ก.ย. 2565 06:43 น.

"ช้างศึก" ทีมชาติไทย เอาชนะ ตรินิแดดแอนด์โตเบโก คว้าอันดับ 3 คิงส์คัพ และนี่คือ 4 สิ่งที่ได้เห็นจากเกมนี้

1.เปลี่ยนผู้เล่น 8 รายได้ผล

เกมนี้ มาโน เปลี่ยนผู้เล่นจากเกมแรกถึง 8 ราย พร้อมให้โอกาสนักเตะทุกคนที่เรียกมาลงสนามครบหมดทุกคน ซึ่งนี่ถือเป็นข้อดีของกุนซือชาวเยอรมนีที่มักจะให้โอกาสนักเตะได้พิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอ บางคนก็ถือเป็นนัดแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่อีกด้วย และทุกคนที่ถูกส่งลงสนามมาในเกมนี้ก็ทำผลงานออกมาได้ดีเลยทีเดียว แม้จะมาพลาดเสียไป 1 ประตูจากลูกตั้งเตะ แต่จังหวะนั้น เฉลิมศักดิ์ อักขี กำลังออกมาปฐมพยาบาลอยู่ข้างสนามพอดี ทำให้ไทยขาดแนวรับที่รูปร่างสูงไป 1 คนในตอนนั้น

2.แสดงให้เห็นถึงการเล่นร่วมกันมากกว่านัดแรก

สิ่งที่เปลี่ยนไปจากนัดแรกก็คือ เราได้เห็น "การเล่นร่วมกัน" ของนักเตะไทยมากขึ้น มีการประสานงานกันต่อบอลทำชิ่ง ซึ่งเราแทบจะไม่เห็นจุดนี้เลยในเกมแรกกับ มาเลเซีย และการขยับ ธีราทร บุญมาทัน เข้ามาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ ก็ทำให้แดนกลางของไทยดูดีขึ้น เพราะ "โก๋อุ้ม" จะเป็นคนขึ้นบอลจากกลางไปหน้าได้อย่างแม่นยำและแน่นอน ทำให้บอลส่งต่อไปถึงพวกแนวรุกได้บ่อยขึ้นในการสร้างสรรค์หาโอกาสในการทำประตู

3.ตรินิแดด ไม่ค่อยบี้เพรสซิ่ง ทำให้ไทยเล่นง่าย

อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ทีมชาติไทย มีผลงานที่ดีก็คือการที่ ตรินิแดดฯ ไม่ค่อยวิ่งขึ้นมาเพรสซิ่งใส่ทีมไทยมากนัก ทำให้ไทยสามารถขึ้นบอลจากแดนหลังได้ค่อนข้างง่าย และคอนโทรลเกมได้เป็นส่วนใหญ่ เกมนี้ตรินิแดดมีอาวุธอย่างเดียวที่พอจะเล่นงานไทยได้ก็คือลูกกลางอากาศเท่านั้น เพราะมีรุปร่างใหญ่และสูงกว่านักเตะไทย

4.ชาญณรงค์, สุภโชค, กิตติพงศ์ ฟอร์มแจ่ม

ถ้าพูดถึงนักเตะที่เล่นดีในเกมนี้ คนแรกก็ต้องเป็น ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ดาวเตะของชลบุรี เอฟซี ที่เดินทางไปเล่นในลีกระดับล่างของสเปน ทำให้เขาเรียนรู้การเล่นในแบบยุโรป รวมถึงมีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันช่วยขับศักยภาพของเขาออกมาได้อย่างชัดเจน โดยนัดนี้ทำไป 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ส่วนคนต่อมาคือ สุภโชค สารชาติ ที่ต้องชื่นชมในเรื่องของหัวจิตหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้ แม้นัดแรกจะเป็นคนยิงจุดโทษพลาดทำให้ไทยไม่ได้เข้าชิงฯ แต่เขาก็มุ่งมั่นเดินหน้าต่อ มีส่วนร่วมกับเกมรุกอยู่ตลอด  ก่อนจะมาซัดประตูชัยสุดสวยให้ทีมในเกมนี้ เรียกความมั่นใจก่อนจะดลับไปลุยต่อกับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ในศึกเจลีกญี่ปุ่น และคนสุดท้ายคือ กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก ผู้รักษาประตูจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่โชว์ฟอร์มเหนียวหนึบ ไม่งั้นไทยอาจเสียประตูมากกว่านี้