ไทยรัฐออนไลน์
ทีมชาติไทย มาแรงแต่แผ่วปลาย โดน บาห์เรน แซงชนะ ส่งท้ายเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ ก่อนลุยศึกเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก
วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ฟุตบอลอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ ทีมชาติไทย อันดับ 111 ของโลก ลงสนามพบ ทีมชาติบาห์เรน อันดับ 89 ของโลก ซึ่งเป็นชาติคู่แข่งที่มีฟีฟ่าแรงกิ้งสูงที่สุดในยุคของกุนซือ มาโน โพลกิง ที่สนามบีจี สเตเดียม จังหวัดปทุมธานี โดย ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และ AIS PLAY ถ่ายทอดสดตั้งแต่ 18.45 น.
เกมนี้ "ช้างศึก" เปลี่ยนรายชื่อ 11 ตัวจริงถึง 4 คน จากเกมชนะ เติร์กเมนิสถาน 1-0 ที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม โดย กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก ผู้รักษาประตู บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้โอกาสลงเฝ้าเสาในสนามเหย้าของตัวเอง แทน กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
ขณะที่แบ็กขวา ทริสตอง โด ลงมาแทน ศุภนันท์ บุรีรัตน์, กองหลังตัวกลาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ได้โอกาสแทน วีระเทพ ป้อมพันธุ์ และ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ที่เพิ่งตามมาสมทบ ลงคุมเกมแดนกลางแทน เชาว์วัฒน์ วีระชาติ
นาทีที่ 2 ทีมชาติไทย ได้จุดโทษจากจังหวะที่ บดินทร์ ผาลา โดน อาเหม็ด บูกัมมาร์ กองหลังบาห์เรนรวบในเขตโทษ ก่อนที่ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้ากัปตันทีมจะสังหารหนีมือ ซาอิด โมฮาเหม็ด จัฟฟาร์ ผู้รักษาประตูบาห์เรน เสียบมุมอย่างเด็ดขาด ให้ "ช้างศึก" นำ 1-0 ในนาทีที่ 4
นาทีที่ 13 ทีมชาติไทย เกือบได้ประตูที่ 2 ถึง 2 จังหวะติดต่อกัน เริ่มจาก จักพัน ไพรสุวรรณ กองหลังบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ได้เล่นในถิ่นตัวเองอีกราย เติมขึ้นมาโหม่ง บอลเฉี่ยวเสานิดเดียว ก่อนที่ ธีรศิลป์ แดงดา จะดึงจังหวะจ่ายทะลุแนวรับให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หลุดเข้าไปยิงติดเซฟ ซาอิด โมฮาเหม็ด จัฟฟาร์ อย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 19 พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล หวิดเพิ่มสกอร์ให้ "ช้างศึก" ได้อีกครั้ง จากลูกยิงไกลเต็มข้อในระยะเกือบ 30 หลา แต่ยังไม่ผ่านมือ ซาอิด โมฮาเหม็ด จัฟฟาร์ นายทวารบาห์เรนที่พุ่งปัดสุดปลายมือออกไปได้
นาทีที่ 22 บาห์เรน มีโอกาสสร้างความกดดันให้ ทีมชาติไทย บ้าง จากจังหวะขึ้นเกมทางซ้ายก่อนเปิดไปที่เสาสองให้ เอบราฮิม อัลคาตัล ขึ้นโหม่ง แต่บอลโดนไม่เต็มศีรษะ หลุดกรอบออกไป
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 35 ทีมชาติไทย ได้โอกาสทองลุ้นประตูที่ 2 อีกครั้ง แต่จังหวะหลุดเข้าเขตโทษของ บดินทร์ ผาลา กลับยิงไม่หนีมือ ซาอิด โมฮาเหม็ด จัฟฟาร์ ผู้รักษาประตูบาห์เรนที่ป้องกันได้อย่างไม่ยากเย็น
แต่แล้วในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก บาห์เรน ก็ตามตีเสมอ ทีมชาติไทย ได้สำเร็จ มาห์ดี ฮูไมดาน เปิดบอลจากด้านซ้าย ก่อนมีตัวโหม่งเสยต่อมาที่เสาไกลให้ เอบราฮิม อัลคาตัล กระโดดแปย้อนศร ส่งบอลหนีมือ กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก เข้าไป จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1
เริ่มครึ่งหลังมาไม่นาน "ช้างศึก" น่าได้ประตูที่ 2 แบบสุดๆ ในนาทีที่ 48 เมื่อ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ยิงหน้าเขตโทษ บอลแฉลบแนวรับ บาห์เรน ที่สกัดกันไม่ขาด ทะลักมาเข้าทาง ธีรศิลป์ แดงดา ตวัดยิงแบบล่อเป้า แต่ ซาอิด โมฮาเหม็ด จัฟฟาร์ ล้มตัวปัดได้อย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 59 ทีมชาติไทย หาจังหวะเข้าไปคุกคาม บาห์เรน ได้อีกครั้ง แต่ยังไม่ได้ลูกที่ 2 ตามที่ต้องการ โดย สารัช อยู่เย็น ได้บอลชิ่งเข้ามาในเขตโทษด้านซ้ายก่อนกดเต็มข้อ แต่บอลไปชนคานดังสนั่นอย่างน่าเสียดาย
แต่นาทีที่ 64 "ช้างศึก" ก็รอดพ้นจากการโดน บาห์เรน แซงนำอย่างหวุดหวิด เมื่อถูกเจาะทางแบ็กขวาแล้วโดนปาดบอลเรียดเข้าเขตโทษ แต่ มาห์ดี ฮูไมดาน ล้มตัวชาร์จไม่มีน้ำหนัก ทำให้ กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก ตามมาคว้าก่อนที่บอลจะข้ามเส้นได้อย่างหวุดหวิด
2 นาทีต่อมาเกือบเป็นสกอร์ของทีมชาติไทยอีกหน เมื่อ ธีรศิลป์ แดงดา ได้จังหวะพลิกหาช่องยิงในเขตโทษ แต่บอลไปแฉลบ อาเหม็ด บูกัมมาร์ เปลี่ยนทางเฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียว
ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+1 ทำนบเกมรับ "ช้างศึก" ก็โดนตีแตกจนได้ เมื่อ บาห์เรน ขึ้นเกมมาทางซ้ายอีกครั้ง ก่อนที่ ราเชด คาลิล อัลฮูตี จะเปิดไปที่เสาไกลให้ ฮาชิม ซายิด อิซา ชาร์จโล่งๆ เข้าไป เป็นประตูชัยให้ บาห์เรน แซงชนะ 2-1
ทำให้ ทีมชาติไทย อุ่นเครื่อง 2 นัด ชนะ 1 แพ้ 1 ก่อนไปลุยศึกเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก กลุ่มซี ที่อุซเบกิสถาน วันที่ 8, 11 และ 14 มิถุนายนนี้ เจอ อุซเบกิสถาน เจ้าภาพ, ศรีลังกา และ มัลดีฟส์ ซึ่ง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 จะถ่ายทอดสดทั้ง 3 นัด
รายชื่อ 11 ตัวจริงทีมชาติไทย (ระบบ 4-1-2-3)
กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก (ผู้รักษาประตู), ทริสตอง โด, จักพัน ไพรสุวรรณ, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สารัช อยู่เย็น, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, ธีรศิลป์ แดงดา, บดินทร์ ผาลา