ไทยรัฐออนไลน์
กุนซือทีมชาติไทยเผยสาเหตุความแตกต่างระหว่าง “กัปตันเจ” และ “เหงียน ควง ไฮ” แนวรุกคนสำคัญชาวเวียดนาม ที่เกิดขึ้นบนสนาม
มาโน โพลกิง คือหนึ่งในโค้ชไม่กี่คน ที่ได้มีโอกาสทำงานในย่านอาเซียนมาอย่างยาวนาน โดยนอกจากจะรับงานคุมทีมในไทยลีกแล้ว ยังเคยแวะไปรับงานคุมทีมในวีลีกกับ โฮจิมินห์ ซิตี้ ก่อนจะหวนกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง เพื่อพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซูซูกิ คัพ 2020 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่
ซึ่งหลังจบเกมนัดชิงฯ นัดที่ 2 กุนซือวัย 45 ปี ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนเวียดนาม ถึงสาเหตุความแตกต่างระหว่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับ เหงียน ควง ไฮ ว่า เป็นเพราะแข้งดังทัพดาวทอง ไม่ได้รับโอกาสค้าแข้งในต่างแดน ทำให้ศักยภาพไม่ถูกพัฒนาอย่างที่ควรจะเป็น
“อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่า นักเตะในย่านอาเซียนจำเป็นต้องศึกษากรณีของ ชนาธิป (สรงกระสินธ์) เอาไว้ เพื่อไปสู่ลีกที่ใหญ่กว่า แต่ในขณะเดียวกันประเทศในอาเซียน ก็ต้องปรับปรุงลีกของตัวเองด้วย ตัวอย่างเช่น ทีมชาติเวียดนาม พวกเขามีความแข็งแกร่งก็จริง แต่ลีกในประเทศยังต้องปรับปรุงอีกมาก จากที่ผมเคยสัมผัสมาไทยลีกตอนนี้ถือว่าดีที่สุด”
“ที่ไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่า นักเตะต่างชาติก็ดีกว่า ถึงแม้พวกเขายังมีจุดที่ต้องพัฒนาอยู่ แต่ตอนนี้ถือว่าดีที่สุด ลีกในย่านอาเซียนอย่าง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย รวมถึงเวียดนาม ควรที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต"
"ผู้เล่นที่ฝีเท้าดีอย่าง เหงียน ควง ไฮ ไม่ควรอยู่ในวีลีก แต่ควรไปที่ญี่ปุ่นหรือยุโรป เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น มีนักเตะหลายคนในซูซูกิ คัพ ครั้งนี้ ที่มาจากทวีปยุโรป และคุณจะได้เห็นทันทีว่า คุณภาพของพวกเขาดีแค่ไหน” มาโน กล่าวผ่าน sport5.vn
สำหรับทีมชาติเวียดนามในปัจจุบัน มีเพียงแค่ ดัง วัน ลัม ผู้รักษาประตูลูกครึ่งรัสเซีย-เวียดนาม เพียงรายเดียวเท่านั้น ที่ค้าแข้งอยู่ในต่างแดน โดยอยู่กับเซเรโซ โอซากา ในศึกฟุตบอลเจลีกของญี่ปุ่น.