ไทยรัฐออนไลน์
"ชิน แต ยอง" กล่าวยกย่องลูกทีมด้วยความภูมิใจ หลังสามารถหักปากกาเซียนเข้ารอบชิงฯ ซูซูกิ คัพ 2020 ได้สำเร็จ พร้อมเชื่อว่าทีมชุดนี้มีอนาคตที่สดใสรออยู่
วันที่ 2 มกราคม 2565 ทีมชาติอินโดนีเซียภายใต้การคุมทัพของ ซิน แต ยอง กุนซือชาวเกาหลีใต้ ตัดสินใจผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ด้วยการเลือกใช้นักเตะดาวรุ่ง ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุเพียงแค่ 23.7 ปีเท่านั้น แต่สามารถทำผลงานได้ดีเกินคาด จนเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ก่อนจะแพ้ไปด้วยผลประตูรวม 6-2
ซึ่งหลังจบทัวร์นาเมนต์ด้วยตำแหน่งรองแชมป์ ชิน แต ยอง ได้กล่าวยกย่องลูกทีมว่า “ในเลกแรกเราไม่สามารถเล่นในเกมของตัวเองได้ แต่นัดที่สองดีขึ้นกว่าเดิมมาก มันเป็นงานที่หนักจริงๆ ดังนั้นผมจึงอยากยกย่องผู้เล่นทั้งหมดในทีม ที่ทำกันได้อย่างยอดเยี่ยม”
“การขาดประสบการณ์ของนักเตะอายุน้อย แสดงให้เห็นถึงความต่างอย่างชัดเจนในเกมแรก แต่ผมคิดว่าเรากลับมาสู้ได้ดีในนัดที่สอง และเราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านี้ ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์ต่อไปจะมาถึง ถ้าเราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ในครั้งนี้ เราจะไม่ใช่ทีมม้ามืดอีกต่อไป แต่เราจะเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงแชมป์ของซูซูกิ คัพ ในอนาคต”
นอกจากนี้ กุนซือทีมชาติอินโดนีเซีย ยังได้กล่าวว่ารู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถใช้งานแข้งดังอีก 4 ราย ที่โดนฝ่ายจัดการแข่งขันแบนก่อนเกม เนื่องจากแหกกฎควบคุมโควิด-19 ในโรงแรมที่พัก พร้อมฝากให้มีการบริหารจัดการที่ดีขึ้นกว่าเดิมในอนาคต
สำหรับ “การูดา” อินโดนีเซีย ยังไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้เลย จากการเข้าชิงฯ 6 ครั้งก่อนหน้านี้ โดยเป็นการแพ้ไทยถึง 4 ครั้ง (ปี 2000, 2002, 2016, 2020) และแพ้สิงคโปร์ (2004) กับมาเลเซีย (2010) อีกทีมละ 1 ครั้ง.