ไทยรัฐออนไลน์
กุนซือทีมชาติอินโดนีเซียขอสยบทีมชาติไทย คว้าแชมป์อาเซียนคัพสมัยแรกที่รอมานาน 25 ปี แม้สถิตินัดชิงที่ผ่านมาจะเป็นฝ่ายแพ้ทุกครั้ง
วันที่ 28 ธันวาคม 2564 เวลา 11.30 น. ตามเวลาประเทศไทย สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ เลกแรก คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย
อินโดนีเซีย หวังสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์สมัยแรกของตัวเอง หลังจากยังไม่เคยชูถ้วยแชมป์ตลอด 25 ปีที่จัดการแข่งขันกันมานับตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1996 โดยก่อนหน้านี้ได้เพียงรองแชมป์ทั้ง 5 ครั้งที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมีถึง 3 หนที่ปราชัยให้กับทีมชาติไทย ดังนี้
ปี 2000 แพ้ ทีมชาติไทย 1-4
ปี 2002 เสมอ ทีมชาติไทย 2-2 (ดวลจุดโทษ แพ้ 2-4)
ปี 2004 แพ้ สิงคโปร์ สกอร์รวม 2-5 (นัดแรก แพ้ 1-3 / นัดที่สอง แพ้ 1-2)
ปี 2010 แพ้ มาเลเซีย สกอร์รวม 2-4 (นัดแรก แพ้ 0-3 / นัดที่สอง ชนะ 2-1)
ปี 2016 แพ้ ทีมชาติไทย สกอร์รวม 2-3 (นัดแรก ชนะ 2-1 / นัดที่สอง แพ้ 0-2)
อย่างไรก็ตาม ชิน แต ยอง หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ ที่เคยนำทีมชาติบ้านเกิดเอาชนะ เยอรมนี 2-0 ในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ก่อนตัดสินแชมป์กับทีมชาติไทยว่า "แน่นอนว่าเราอยากเป็นแชมป์อาเซียนสมัยแรก แต่การจะได้ชูถ้วยแชมป์นั้นมันไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงเพราะคุณมีแค่ความต้องการ"
"การจะเป็นแชมป์ได้นั้นต้องเกิดจากการทำงานและมาในแนวทางของคุณ เมื่อคุณพยายามทำให้ดีที่สุดในทุกๆ นัด ซึ่งในฐานะโค้ชและผู้เล่น ผมเคยคว้าแชมป์และรางวัลต่างๆ มากกว่า 20 รายการ และจากประสบการณ์เหล่านั้น ผมต้องการปลูกฝังจิตวิญญาณอันหนักแน่นให้กับผู้เล่นของผม และทำเต็มที่เพื่อเป็นแชมป์ นั่นคือสิ่งที่ผมบอกกับผู้เล่นเสมอ"
ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ในรอบชิงชนะเลิศของศึกชิงแชมป์อาเซียน 2020 โดยจะแข่งขันสองนัดในวันที่ 29 ธันวาคม 2564 และ 1 มกราคม 2565 ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD และ AIS Play เวลา 19.30 น. ทั้ง 2 แมตช์