หน้าแรกแกลเลอรี่

“สมาคมบอล” ผุดแผนให้ “นิชิโนะ” เยือนสโมสรไทยลีก เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น

ไทยรัฐออนไลน์

14 พ.ย. 2563 13:40 น.

สมาคมฯ และไทยลีก มีแผนให้นิชิโนะเยือนสโมสร ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์เพื่อพัฒนาทีมชาติไทย

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด มีแผนที่จะให้ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย มีโอกาสได้เยี่ยมเยือนสโมสรไทยลีก 1 เพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาทีมชาติกับผู้บริหารสโมสร ก่อนเตรียมทีมสำหรับฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบสอง ที่มีกำหนดการแข่งขันในปี 2021

พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ เผยว่า “ก่อนอื่น สมาคมฯ ขอขอบคุณทุกสโมสร ที่ให้ความร่วมมือในการส่งนักกีฬา เข้ามาเก็บตัวกับทีมชาติ ซึ่งเป็นไปด้วยดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ว่าเราจะต้องทำงานภายใต้ข้อจำกัดในสถานการณ์โควิด-19 ตามที่คุณอากิระ นิชิโนะได้กล่าวไว้ว่าแต่ละประเทศ ต้องบริหารจัดการตามบริบทที่แตกต่างกันออกไปในช่วงฟีฟ่าเดย์นี้ สำหรับการเตรียมทีมชาติ

ล่าสุด เอเอฟซีก็ได้ยืนยันโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลโลกไว้ในเดือนมีนาคม 2564 ดังนั้น สมาคมฯ และไทยลีก จึงปรึกษากับฝ่ายพัฒนาเทคนิคและทีมชาติ ในการที่สมาคมฯ และคุณนิชิโนะ จะเดินทางไปยังสโมสรในไทยลีก โดยจะมีการพูดคุยและรับฟังความเห็นในการพัฒนาศักยภาพนักกีฬา รวมถึงเยาวชนไทย และแลกเปลี่ยนทัศนะกับผู้บริหารของสโมสรมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะไปที่สโมสรในวันแข่งขัน เพื่อติดตามชมแมตช์และสเกาท์ผู้เล่นเป็นหลัก”

“เราจะเริ่มเดินทางไปพบปะกับสโมสรต่างๆ ตั้งแต่สัปดาห์หน้า และต่อเนื่องไปจนจบฤดูกาล เป็นการสร้างความพร้อมในการเตรียมทีม สำหรับช่วงฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบสอง ที่จะมีขึ้นในปีหน้าอีกด้วย”

ขณะที่ กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด เผยว่า

“ผมหวังว่าโครงการนี้ จะทำให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน ผมมองเห็นหนทางที่สมาคมฯ, ไทยลีก และสโมสร สามารถร่วมกันพัฒนาทีมชาติไทย และยกระดับศักยภาพผู้เล่น ตั้งแต่ระดับเยาวชน ขึ้นไปจนถึงชุดใหญ่ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างยั่งยืน”

“ซึ่งการไปเยือนในครั้งนี้ คุณอากิระ นิชิโนะ จะได้ใช้เวลาพูดคุย ทำความคุ้นเคยกับสโมสร รวมถึงผู้บริหาร ตลอดจนนักกีฬาของแต่ละสโมสรมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน สโมสรก็จะได้ทราบมุมมอง ความคิด การทำงานของโค้ชอากิระ นิชิโนะ เพิ่มเติมด้วย”

“นี่เป็นโอกาสที่ดีที่ทีมงานจะได้รับทราบมุมมองของสโมสร หรือสิ่งที่สโมสรต้องเจอในการพัฒนานักกีฬา ขณะเดียวกัน สโมสรอาจเห็นแนวทางหรือวิธีการทำงานบางอย่างของโค้ชที่อาจนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกัน หรืออาจมีโครงการพิเศษร่วมกันได้”