ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ประเทศไทย ปักหมุดบนวงการลูกหนัง โลกได้แล้ว
ฮอตสปอร์ตฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 12 พ.ค. ขึ้นต้นประโยคด้วยความพราว แบบไม่กลัวดราม่า
สัปดาห์หน้าสปอตไลต์แห่งโลกฟุตบอลจะสาดส่องจับจ้องมาที่แดนสยาม ด้วยความโดดเด่น
อันเนื่องมาจาก “เราทั้งหลาย” ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ “ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74” (74th FIFA Congress 2024) ในระหว่าง วันที่ 13-17 พ.ค.
งานนี้จะเต็มไปด้วยผู้ทรงอิทธิพลทางด้านฟุตบอลจากทั่วโลก ที่จะเดินทางมาร่วมประชุม นำโดย จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า พร้อมด้วยประธาน ของสหพันธ์ฟุตบอลทั่วโลกทั้ง 6 ทวีป, ตัวแทนจาก 211 ชาติสมาชิก รวมถึงตำนานนักฟุตบอลชื่อก้อง
บุคคลสำคัญในสารบบฟุตบอลของโลกใบนี้ มากกว่า 3,000 คน จะรวมตัวกันอยู่ที่บ้านเรา
ซึ่งนั่นจะเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะใช้ เวทีนี้ประชาสัมพันธ์เรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของการท่องเที่ยว, วัฒนธรรม, ประเพณี เหล่านี้ให้โลก ได้รู้มากกว่าที่พวกเขาเคยรู้
ขณะที่สาระสำคัญของการประชุมฟีฟ่า คองเกรส สิ่งที่จะต้องจับตาคือการประชุมใหญ่ซึ่งจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 พ.ค. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ ภายใต้วาระและการมีส่วนร่วมของบุคคลสำคัญ ในวงการลูกหนังโลกนั้น
หนึ่งประเด็นสำคัญที่สำคัญมากๆ และเป็นไฮไลต์ นั่นคือ การโหวตหาเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2027
ล่าสุด มีชาติที่เสนอตัวเหลือแค่กลุ่มยุโรปที่จะเป็นเจ้าภาพร่วม 3 ชาติ (เบลเยียม-เยอรมนี-เนเธอร์แลนด์) และเจ้าภาพเดี่ยว ได้แก่ มหาอำนาจลูกหนังโลกอย่างบราซิล เท่านั้น ที่ยังคงเดินหน้าต่อ ส่วน “สหรัฐอเมริกา” ขอถอนตัวไปแล้ว เนื่องจากพวกเขาซิวตั๋วเจ้าภาพ เวิลด์คัพฝั่งชาย ในปี 2026 ไปเรียบร้อยก่อนหน้า
นอกเหนือจากการประชุมแล้ว ในระหว่างที่บรรดาพี่บิ๊กในวงการลูกหนังโลกอยู่ที่บ้านเรา จะมีการ ทำกิจกรรมต่างๆควบคู่กันไปด้วยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการลงฟาดแข้งฟุตบอลแมตช์กระชับมิตรของ แข้งระดับตำนาน, การทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) รวมถึงการเปิดอาคารที่ทำการของสมาคมกีฬาฟุตบอล แห่งประเทศไทยฯ ซึ่งใช้ “เงินของฟีฟ่า” จัดสร้างขึ้น อย่างเป็นทางการด้วย
งานนี้ต้องถือเป็นงานใหญ่ระดับโลก ถึงขนาด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ ในฐานะตัวแทนของรัฐบาล เพื่อแสดงให้ทุกคนได้เชื่อมั่นถึงการเป็นเจ้าภาพจัดฟีฟ่า คองเกรส ครั้งนี้ พร้อมทั้งจะเป็นประธานในงานเลี้ยงรับรองผู้บริหารและแขก VVIP ในวันที่ 15 พ.ค. ด้วยตัวเองอีกด้วย
ขณะที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเป็นโต้โผใหญ่ ในการเตรียมงานนั้น ก็หมายมั่นปั้นมือเหลือเกินว่า ประเทศไทยจะต้องได้ประโยชน์สูงสุดจากการจัดครั้งนี้
เธอกล่าวว่า “ถือเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย เพราะเป็นชาติแรกในอาเซียน และเพียงแค่ชาติที่ 5 ในเอเชียที่ได้จัดงานใหญ่แบบนี้ นี่เป็นอีเวนต์นอกสนามฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นที่ประเทศไทย และเชื่อว่าเราจะสามารถทำให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รับความประทับใจกลับไป” นั่นคือคำยืนยัน
ในมุมที่จะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศนั้นดียิ่งแล้ว ในมุมของเศรษฐกิจก็เลิศไม่แพ้กัน
เมื่อ จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผอ.สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ออกมา เผยว่า การจัดประชุมครั้งนี้ เชื่อว่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศ และก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจกว่า 228 ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ เศรษฐกิจในประเทศราว 126 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานกว่า 160 อัตรา
อีกทั้งยังเป็นการยกระดับให้ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางของชุมชนกีฬาระดับโลก
กราวกีฬาไทยรัฐ อยากให้ประชาชนคนไทยทุกคน จงภูมิใจที่ประเทศเล็กๆอย่างเราได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ระดับโลก เทียบเท่าทัดเทียม กับนานาอารยประเทศ ซึ่งเป็นถึงชาติมหาอำนาจชั้นนำ ของโลก
ขอให้ทุกคนทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพที่ดีร่วมกัน
13–17 พ.ค.นี้ จะเป็นสัปดาห์แห่งประวัติศาสตร์
อันสุดแสนพิเศษของวงการฟุตบอลไทย.